นิราศชุมพร : ตื่นนอนแล้วฉัน


น้ำใจคน เกิดเป็นคนอย่าได้ลืม

หลังจากที่ผมตื่นนอนในสายวันที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ อาบน้ำเสร็จไปกินข้าวที่บ้านแม่ เพราะแม่ได้ทำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงขับจักรยานยนต์คู่ชีพมุ่งหน้าสู่ตลาดสดชุมพร ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผมประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ผมซื้อแอปเปิลจำนวน ๑ โหล โดยแยกออกเป็น ๒ ถุงๆ แรกบรรจุจำนวน ๙ ลูก ถุงที่ ๒ บรรจุจำนวน ๓ ลูก และไปซื้อหมึกแห้งเพื่อนำไปฝากหม่ามี้ที่สงขลาในวันรุ่งขึ้น จากนั้นจึงออกจากตลาดในใจคิดเสมอว่า บุญคุณคนต้องทดแทน จึงไปบ้านป้าจ้อย ซึ่งครั้งหนึ่งท่านเคยลงลายมือชื่อค้ำประกันให้ผมทำงาน ค้ำชื่อเพื่อทำบัตรประชาชนให้พ่อ ตลอดถึงถ้อยคำที่บอกกับผมก่อนออกจากชุมพรว่า “มีปัญหาอะไรก็โทรมาบอก” จำได้ว่า เป็นคนที่ ๔ ที่พูดคำนี้ให้ผมฟังได้อย่างประทับใจ  คนที่ ๑ คือ พระครูกิตติโสภิต อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคอย คนที่ ๒ คือ พระครูสุทธสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่ายางกลาง และรองเจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร คนที่ ๓ คือ วริศรา เพชรนาจักร ในใจผมกราบขอบพระคุณท่านที่กล่าวถึงนั้นอยู่เสมอ
                เมื่อไปถึงบ้าน ผมมองไม่เห็นป้า แต่ป้ากลับมองเห็นผม ผมเข้าไปนั่งใต้ถุนบ้านคุยกับปู่ ซึ่งเป็นน้องของแม่เฒ่า (ยาย) และย่า ไม่นานป้าก็เดินลงมา ผมจึงลุกขึ้นไปมอบแอปเปิลให้ป้าจำนวน ๙ ลูก อันเป็นเคล็ดบอกถึงเลขมงคลตามความเชื่อของคนไทยบางคน ป้าบอกด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรไมตรีว่า “มาที่นี้ มามือเปล่าก็พอ” ผมไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มให้เท่านั้น จากนั้นจึงนั่งคุยกันใต้ถุนบ้านโดยเฉพาะเรื่องการศึกษา เนื่องจากป้าทำงานอยู่ที่โรงเรียนศรียาภัย ผมคุยกับท่านเหล่านั้นไม่นาน จึงลากลับบ้าน นำแอปเปิลที่เหลือไปใส่ตู้เย็นไว้ให้พ่อ ลูกหนึ่งส่งให้หลานไป จากนั้นจึงเอาหมึกแห้งไปวางไว้ที่ห้องหลานสาว และออกไปบ้านหลวงหนุ่ม เห็นเขากำลังเล่นไพ่กันอยู่ จึงเข้าไปสังเกตการณ์ สัมภาษณ์ สอบถาม กว่าจะจำได้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ล่วงเข้าไปบ่าย ๓ โมง ผมรู้สึกหิว จึงไปวัดท่ายางเหลือ ทราบจากป้าว่ามีมโนราห์และควายชน ใจผมอยากดูมโนราห์ จึงเข้าไปดู ไม่นานครูเม่นก็โทรเข้ามาเมื่อเห็นหลังผมไหวๆ อยู่หน้าโรงมโนราห์ ครูเม่นชวนไปกินข้าวและขนมจีน พร้อมกับกุ้งและเพื่อนของครูเม่น หลังจากอิ่มหนำสำราญ เพื่อนผมต้องไปทำงานบางอย่าง ผมจึงลากลับมาบ้านหลวงหนุ่มเพื่อศึกษาวิธีการเล่นและเคล็ดลับปลีกย่อย จน ๑ ทุ่ม จึงขอไปเตรียมผ้า กระเป่าเดินทางและของที่เตรียมไว้ แล้วมาอาบน้ำที่บ้านป้า (แม่หลวงหนุ่ม) ซึ่งผมเคยอยู่มาก่อนเมื่อปี ๒๕๔๔ อาบน้ำเสร็จ กินข้าว วันนี้ป้าได้ทำหัวหมู่กับน้ำจิ้มพริกเขียวต้อนรับ หลังจากอิ่มหนำสำราญ หลวงหนุ่มจึงขับรถไปส่งผมที่ท่ารถบริษัทโชคอนันต์ซึ่งอยู่หลังตลาดชุมพร เมื่อถึงเวลา ผมจึงขึ้นรถ มุ่งหน้าสู่สงขลาตามที่วางเป้าหมายไว้

คำสำคัญ (Tags): #ศาสนาและปรัชญา
หมายเลขบันทึก: 24763เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2006 09:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท