...
แผนที่เกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ท่ามกลางมหาอำนาจ... ด้านตะวันตกเป็นจีน ด้านตะวันออกเป็นญี่ปุ่น ด้านบนเป็นเกาหลีเหนือ > [ Wikipedia ]
...
ประเทศในเอเชียที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงมากๆ คือ ศรีลังกากับเกาหลีใต้... เรื่องที่คนศรีลังกาจะฆ่าตัวตายมากดูจะไม่แปลกอะไรเท่าไหร่ เพราะมีสงครามกับฝ่ายกบฏมานานร่วม 20-30 ปี
อาณานิคมอังกฤษนำคนทมิฬเข้าไปใช้แรงงานในศรีลังกาจนสัดส่วนชนกลุ่มน้อยเพิ่มขึ้นถึงจุดวิกฤต (คือเกิดกบฏหรือความขัดแย้งในประเทศ) แล้วไม่นำกลับ ทำให้รบกันมาจนทุกวันนี้
...
ปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยติดต่อกันมาหลายสิบปี ปัญหาคนว่างงาน และการเข้าไม่ถึงบริการรักษาโรคซึมเศร้าเป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน
หนังสือพิมพ์ "โอมีนิวส์" ของเกาหลีใต้ฉบับภาษาอังกฤษจัดทำบทวิเคราะห์ว่า ทำไมคนเกาหลีใต้ฆ่าตัวตายสูง ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
...
เกาหลีใต้เป็นสาเหตุการตายอันดับ 4 คน อัตราการฆ่าตัวตายในปี 2005 หรือ พ.ศ. 2549 เท่ากับ 26.1 ต่อประชากรแสนคนต่อปี เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวภายใน 10 ปี (เพิ่มขึ้นจาก 11.8 ในปี 1995)
องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า 90% ของคนที่ฆ่าตัวตายมีปัญหาทางจิตที่ควรได้รับการรักษา ส่วนใหญ่เป็นโรคซึมเศร้า ส่วนน้อยเป็นปัญหาการติดยาเสพติด (รวมทั้งเหล้า)
...
ชาวเกาหลีใต้ก็คล้ายกับชาวเอเชียชาติอื่นๆ คือ ยังมองโรคทางจิตประสาทในแง่ร้าย และไม่ค่อยเชื่อว่า โรคกลุ่มนี้รักษาให้ดีขึ้นได้
ท่านอาจารย์ดอกเตอร์แดเนียล ฟิชเชอร์ จิตแพทย์ ได้รับคำเชิญจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนให้ไปเยือนเกาหลีใต้ เพื่อหาต้นตอ รายงานว่า การรักษาโรคทางจิตประสาทในเกาหลีใต้ล้าหลังโลกตะวันตกประมาณ 40 ปี
...
ท่านได้ไปเยี่ยมโรงพยาบาลยงจิน ซึ่งอยู่ชานกรุงโซล... การรักษาที่นั่นยังเป็นแบบเดิมๆ เช่น มีการช็อคไฟฟ้า (ECT) โดยไม่ใช้ยาสลบ ทำให้กระดูกหัก (การช็อคจะทำให้ชักรุนแรง กระดูก เช่น กระดูกสันหลัง ฯลฯ จึงหักได้)
คนไข้ที่นั่นสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม "ขงจื่อ (confucion)" ที่เข้มงวด เช่น สามีคนหนึ่งฝากขังภรรยาที่ย้ายศาสนาไว้ 2 เดือน ชายหนุ่มคนหนึ่งถูกฝากขังไว้ เนื่องจากไปตะโกน (yell) ใส่หน้าคุณพ่อ ฯลฯ
...
ขณะที่ปัญหาทางจิตเป็นสาเหตุของการฆ่าตัวตาย 90% อีก 10% ที่เหลือเป็นเรื่องของสังคม โดยเฉพาะการแย่งกันสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเหนื่อยล้ากับการเรียนหนักและกวดวิชา แถมยังเครียดกับการสอบแบบสุดๆ อีกด้วย
เด็กๆ มัธยมฯ 400 คนและผู้สนับสนุนรวมกันประท้วงเรื่องความกดดันนี้ และกล่าวว่า สภาพเด็กๆ เหมือนกับเป็นเครื่องนึ่งอาหารแรงดัน(ไอน้ำ)สูง (pressure cookers) ไปแล้ว
...
เด็กๆ ร้องเรียนว่า '"We are not studying machines. We are just teenagers.' [OhmyNews] แปลว่า "พวกเราไม่ใช่เครื่องจักร(หรือหุ่นยนต์สำหรับเรียนหนัก) เราเป็นเพียงวัยรุ่น (teenagers)"
กล่าวกันว่า ปัญหาคนรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมรับแบบแผนชีวิตครอบครัวที่ผู้ชาย หรือหัวหน้าครอบครัวเป็นใหญ่ ต้องการให้มีความเสมอภาค หรือการให้เกียรติซึ่งกันและกันมากขึ้น
...
ปัญหารักร่วมเพศที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมก็ทำให้การฆ่าตัวตายสูงขึ้นเช่นกัน ทว่า... ปัญหาใหญ่จริงๆ อยู่ที่โรคซึมเศร้า ซึ่งทุกวันนี้มียาที่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้มาก
บทความของโอมีนิวส์จากเกาหลีใต้คงจะช่วยให้เราเข้าใจเกาหลีใต้มากขึ้น "มองเขาแล้วมองเราดีๆ" ก็อาจทำให้เราเข้าใจเมืองไทยได้มากขึ้นเช่นกัน
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา
หัวข้อเรื่องต้นฉบับวันนี้คือ 'Suicide in South Korea Case of too little, too late' แปลว่า " การฆ่าตัวตายในเกาหลีใต้ เรื่อง(การใส่ใจ)ที่น้อยเกินไปและสายเกินไป" > [OhmyNews]
...
...
ขอให้ย้ำเสียงหนัก (accent) ตรงเสียงตัวอักษรหนา (ขีดเส้นใต้) เสียงอื่นๆ พูดให้เบาลง ส่วนตัวเสียงที่ใช้อักษรเอียงให้พูดเบาๆ คล้ายเสียงกระซิบ
พยายามอย่าพูดภาษาอังกฤษโดยไม่ย้ำเสียง (ไม่มี accent) เพราะฝรั่งฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
...
ที่มา
สวัสดีค่ะ คุณหมอพัลลภ
น่าจะมีโรงเรียนสอนการยิ้ม
การเปล่งเสียงหัวเราะ..และ...
"หลักสูตรการสร้างความสุขให้ตัวเอง"
แต่..คงหาผู้สอนยากมาก....
ขอขอบคุณอาจารย์ครูแป้ม...
หลักสูตร "การสร้างความสุข" มีหนังสือของเดล คาร์เนกี ตีพิมพ์ภาษาไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน เก่ามาก ทว่า... ดีมากๆ เลย
เดี๋ยวนี้เด็กไทยก็เรียนหนักขึ้นไม่แพ้กันค่ะ น่าสงสาร ส่วนหนึ่งมาจากการผลักดันของพ่อแม่ที่อยากให้ลูกเป็นในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ไม่ได้ถามเด็กว่าอยากทำหรืออยากเป็นแบบนั้นไหม ทุกคนควรมีสิทธิที่จะเลือกวิถีชีวิตของตนเอง ไม่ควรเอาความคาดหวังของคนคนหนึ่งไปใส่อีกคนหนึ่ง หรือเอาสิ่งที่ตัวเองคิดดีไปกำหนดเป็นมาตรฐานแก่อีกคนหนึ่ง จากจุด A ไปยังจุด B มีวิธีเดินสารพัดทางที่จะไปถึง และโลกนี้ก็ไม่ได้มีแค่ A กับ B แต่มี C D E F และอีกมากมาย แต่คนที่ไม่เข้าใจและชอบบงการ คิดว่าชีวิตมีสูตรสำเร็จแค่ A กับ B ก็มักจะคาดหวังคนอื่นให้ทำตามที่ตัวเองคิด
นี่ตอนที่หลานจะสอบเขาไม่อ่านหนังสือ เราก็เตือนว่าไม่อ่านเหรอ ถ้าสอบไม่ได้ก็ต้องรับผลนั้นไปเองนะ อาไม่เกี่ยว ตกก็เรียนซ้ำชั้น ตัวเองก็อายเอง ไม่รู้จะไปดุทำไม หรือเคี่ยวเข็ญไปทำไม เราเป็นผู้ปกครองมีหน้าที่เตือนหรือพูดในสิ่งที่เห็น ส่งเสริมเท่าที่เราให้ได้ ส่วนการตัดสินใจนั้นก็ชีวิตเขาเองจะเลือกไม่เลือก ทำไม่ทำ หรือทำอะไรก็ได้รับผลนั้นไป ไม่ต้องไปป้องกันถ้าไม่อันตรายถึงชีวิต เมื่อเจอแล้วก็จะเกิดการเรียนรู้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าต้องการให้ผลเป็นอีกอย่างก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและกระทำของตัวเองค่ะ ดูเหมือนไม่สนใจหรือปล่อยปะ แต่จริงๆ คือเราเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ที่เหลือไปคาดหวังหรือซีเรียสมากๆ ก็ทุกข์ใจทั้งสองฝ่าย
ขอขอบคุณอาจารย์ Little Jazz มากๆ ครับ...
เชื่อมั่นว่า ความเห็นนี้จะเป็นขวัญ เป็นกำลังใจให้คนไทยสู้ชีวิตต่อไปครับ...