เรื่องสั้นเชิงการบริหารจัดการ


กุญแจของนายท่านอยู่ที่ไหน

เรื่องสั้นเชิงการบริหารจัดการ เรื่อง กุญแจของนายท่านอยู่ที่ไหน

 

            มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า  มีครูชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากเลิกงานตอนค่ำ  ขณะที่เดินอยู่เขาพบว่า  ที่ข้างถนนมีผู้บริหารสถานศึกษาชายสองคน  แต่งตัวใส่สูทดูท่าทางภูมิฐาน  กำลังก้มหน้าก้มตาขะมักเขม้นมองหาอะไรบางอย่างอยู่ที่พื้นใต้แสงไฟริมทางเดินอย่างเอาจริงเอาจัง  ทั้งๆที่ใต้แสงไฟนั่นเขาก็มองไม่เห็นว่าจะมีอะไร  ด้วยความแปลกใจ  ครูชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาผู้บริหารสถานศึกษาชายทั้งสอง  แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า

                        พวกท่านกำลังหาอะไรกันหรือ ”... ครูชายหนุ่มถาม

                        ผู้บริหารสถานศึกษาชายทั้งสองตอบเราได้ทำกุญแจรถตกหาย 

                        ครูชายหนุ่มช่วยมองหาโดยรอบก็ไม่เห็นมี  แต่ยังเห็นผู้บริหารสถานศึกษาชายทั้งสองคนยังคงก้มหน้าก้มตามองหา  แถมยังเอามือควานสะเปะสะปะไปทั่ว  จึงเอ่ยถามต่อว่า

                          แล้วรถของท่านอยู่ที่ไหนล่ะ  ”...

                          อ๋อ  รถเราจอดอยู่ห่างจากถนนนี้ไปประมาณ  50  หลา...    ผู้บริหารชายทั้งสองตอบ

                          แล้วทำไมพวกคุณถึงได้มาหากุญแจแถวนี้ล่ะ...    ครูชายหนุ่มถามต่อ

                        ก็บริเวณที่จอดรถมันมืดมองอะไรไม่ค่อยเห็น  แต่ที่ตรงนี้มีแสงจากหลอดไฟข้างถนน  น่าจะหากุญแจได้ง่ายกว่า 

                        ครูชายหนุ่มได้  งง  งง  งง...  แล้วก็เดินจากไปพร้อมกับความคับข้องใจ............

 

                       

             จากเรื่องสั้น กุญแจของนายท่านอยู่ที่ไหน จะพบว่า    ผู้บริหาร ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา  พัฒนาองค์กรได้ตรงจุด ตรงประเด็น เพราะนั้นคือ ความยาก ความลำบาก ที่ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องใช้ความรู้สามารถ ความเสียสละอย่างมาก  และเหนือสิ่งอื่นใด  ผู้บริหารจะต้องใช้ หลักธรรมมาภิบาล เข้ามาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการนำพาสถานศึกษาไปสู่เป้าหมาย ผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงโดยแท้จริง จะไม่ตามคนอื่นโดยสะเปะสะปะ  ต้องวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของตนเอง  และตั้งเป้าหมายการพัฒนาตรงความต้องการ  เปรียบเสมือนการนำพาแสงสว่างมาสู่รถของตนก่อน  แล้วค่อยหากุญแจรถจึงน่าจะเป็นหนทางที่ถูกต้องกล่าวคือ  ศึกษาหาความรู้ที่จำเป็นให้เข้าใจ  แล้วนำกลับมาพัฒนาสถานศึกษาของตน.

 

               การจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศ เป็นการบูรณาการความรู้ในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ การจัดการ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีการศึกษา บรรณรักษ์และสารสนเทศศาสตร์ เทคโนโลยีสื่อสารและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ ในยุคสังคมสารสนเทศและการปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ 

          จากเรื่องสั้นแสดง ว่าผู้บริหารทั้งสองคน  ยังไม่มีการจัดการในเรื่องต่างๆเกี่ยวกับสถานศึกษาของตน  จึงไม่สามารถหากุญแจได้เจอเมื่อจำเป็นต้องใช้   เปรียบเสมือนกับการไม่ได้บริหารจัดการข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ  ดังนั้นผู้บริหารทั้งสองคนหรือทุกคนจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระบบการจัดการข้อมูลสารสนเทศในสถานศึกษาของตนให้พร้อมใช้ได้ทุกเมื่อ   ต้องตอบคำถามของตนเองให้ได้ว่า  จะทำอะไร   ทำอย่างไร  เพื่อการก้าวสู่คุณภาพมาตรฐานของสถานศึกษา   แล้วจึงให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา  รวมทั้งชุมชน  สังคม และผู้มีส่วนได้เสีย ร่วมกันคิดกันทำว่าจะทำอะไร  ทำอย่างไร  เพื่อให้สถานศึกษามีคุณภาพและได้มาตรฐาน 

         แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศ

1. ผู้ที่รู้จักจัดการความรู้  มีการจัดระบบข้อมูลสารสนเทศและคิดค้นนวัตกรรมที่

เหมาะสมกับสภาพองค์กรจะทำให้องค์กรก้าวสู่ความสำเร็จ  มีคุณภาพ  ประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามเป้าหมาย  รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนร่วมมือจากบุคคลทั้งภายในและภายนอกองค์กร 

2. ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารองค์กรใดก็ตามผู้บริหารต้องอาศัยข้อมูลข่าวสาร

และบริบทขององค์กรมาประมวลเป็นความรู้และจัดทำเป็นระบบสารสนเทศของสถานศึกษาเพื่อทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้  และสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการภายในสถานศึกษา  เช่น  การนำผลการศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพโรงเรียนไปใช้ในการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกและสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน  นำผลสรุปการศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพโรงเรียนไปใช้ในการจัดทำเอกสารแผนกลยุทธ์และกรอบประมาณการรายจ่ายล่วงหน้า

3. ระบบสารสนเทศ  จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดทิศทาง  ยุทธศาสตร์  และนโยบายของ

องค์กร

4. นวัตกรรมและสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา  ทำให้มีระบบและ

กลไกในการบริหารทรัพยากรทางการศึกษา  ไม่ว่าจะเป็น  ทรัพยากรการเงิน  ทรัพยากรบุคคล  ทรัพยากรด้านวัสดุอุปกรณ์  ทรัพยากรด้านการบริหารจัดการ

5.นวัตกรรมและสารสนเทศเป็นกลไกในการบริหารงานบุคคลที่จะช่วยส่งเสริมสมรรถนะใน

การปฏิบัติงาน  ทำให้บุคลากรมีขวัญกำลังใจ  มีการพัฒนาและรักษาคุณภาพในการปฏิบัติงาน  รวมทั้งช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรที่มีศักยภาพมีโอกาสประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในอาชีพ/หน้าที่การงานอย่างรวดเร็วตามสายงาน

6. ระบบสารสนเทศ ทำให้การปฏิบัติงานในสถานศึกษาให้เกิดความสะดวก  รวดเร็ว  มีระบบ  และ

มีข้อมูลที่พร้อมใช้งานหรือรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียทันเวลา  ทันเหตุการณ์  อย่างมีประสิทธิภาพ.

 

---------------------------

 

เอกสารอ้างอิง

 

ศึกษาธิการ, กระทรวง  สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา การจัดการความรู้ในสถานศึกษา.

                     กรุงเทพฯ:  เอกสารอัดสำเนา   , 2548.

 

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน,  สำนักงาน.  การติดตามประเมิลผลและตัวชี้วัดความสำเร็จ

         โครงการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงในสถานศึกษา ประเภทที่ 1 รุ่นที่ 2.  กรุงเทพมหานคร : พริก 

         หวานกราฟฟิก จำกัด, 2551. 

 

เลิศศักดิ์   นาวารัตน์. รูปแบบการจัดการความรู้ในสถานศึกษา .  [ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก 

                   http://gotoknow.org/blog/lertsak/137769 . (2552, กุมภาพันธ์  25

 

สามัญศึกษา,กรม.  การจัดทำแผนกลยุทธ์และกรอบประมาณการรายจ่ายล่วงหน้าระยะปานกลาง. 

          กรุงเทพฯโรงพิมพ์การศาสนา,  2545.  

หมายเลขบันทึก: 245239เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2009 13:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 12:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท