อิอิ
เอามาฝากค่ะ
เปิดลำโพงด้วยน่ะค่ะ
การพูดในที่ชุมชน
อ.เทวินทร์ วารีศรี
ใช่ว่าคนมีปาก จะพูดได้ดั่งใจคิด
ใช่ว่าคนพูดได้ดั่งใจคิด จะพูดความจริงทั้งหมด
ใช่ว่าคนลงมือกระทำ จะมีความรับผิดชอบ
พูดด้วยทำด้วยช่วยรับผิดชอบ
คือสปิริตของนักพูด
การพูดดีย่อมถือว่าเป็นคุณสมบัติเด่นที่จะสร้างศรัทธา ความเลื่อมใสให้เกิดแก่ผู้ฟัง ในทางพระพุทธศาสนายกย่องการพูดดีว่า วจีสุจริต หรือ มธุรสวาจา เพราะเป็นการพูดในทางสร้างสรรค์ เป็นการพูดของคนฉลาด สามารถให้เกิดประโยชน์แก่ผู้พูดและผู้ฟัง
ดังสุนทรภู่จินตกวีเอกของไทยได้ประพันธ์กล่าวถึงความสำคัญของการพูดไว้ในสุภาษิตสอนหญิงว่า
เป็นมนุษย์สุดนิยมที่ลมปาก
จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
จะพูดจาพิเคราะห์ให้เหมาะความ
ในนิราศภูเขาทอง ท่านสุนทรภู่ก็ได้ประพันธ์เน้นความสำคัญของการพูดเอาไว้ตอนหนึ่งว่า
ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา
องค์ประกอบของการพูด
ธรรมชาติของการพูดโดยทั่วไปมีองค์ประกอบดังนี้
1) ผู้พูด ผู้พูดทำหน้าที่ส่งสารผ่านสื่อไปให้ผู้ฟัง ดังนั้น ผู้พูดจะต้องมีความสามารถใช้
ทั้งศาสตร์และศิลปะของตนเอง ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดไปสู่ผู้ฟังให้ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ความสามารถของผู้พูดที่จะทำให้ฟังได้เข้าใจมากน้อยแค่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับสิ่งต่อไปนี้
- ผู้พูดมีความสามารถในการใช้ภาษา เสียง และกิริยาท่าทางเพียงไร
- ผู้พูดมีเจตคติต่อเรื่องที่จะพูด และต่อผู้ฟังแค่ไหน
- ผู้พูดมีระดับความรู้ในเรื่องที่พูดมากน้อย และลึกซึ้งเพียงใด
- ผู้พูดมีฐานะทางสังคม พื้นฐานทางจริยธรรม และวัฒนธรรมอยู่ในระดับใด
2) สาร เนื้อหาที่ผู้พูดส่งไปนั้นจะต้องมีคุณค่า และคุ้มค่าแก่การเสียเวลาของ
ผู้ฟัง ดังนั้น สารที่ผู้พูดส่งไปนั้นจะต้องเตรียมมาแล้วอย่างดี เช่น การ คัดเลือก จัดลำดับขั้นตอน และการฝึกฝนตนเองของผู้พูดอีกส่วนหนึ่ง
3) สื่อ หมายถึง สิ่งที่นำสารไปสู่ผู้ฟัง ได้แก่ เวลา สถานที่ อากาศ และเครื่องรับรู้ต่าง ๆ เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อื่น ๆ เช่น วิทยุ
โทรทัศน์ ภาพยนตร์ เป็นต้น
4) ผู้ฟัง อยู่ในฐานะที่จะต้องรับสารของผู้พูดโดยอาศัยสื่อเป็นเครื่องนำพา
ผู้ฟังจะสามารถรับสารได้ตรงกับเจตนาของผู้พูดได้มากน้อยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งอื่น ๆ เช่น ทักษะ ความพร้อม ความสนใจ พื้นความรู้ วัฒนธรรม และเจตคติของผู้ฟังอีกด้วย
5) ปฏิกิริยาจากผู้ฟัง ในขณะที่ผู้ฟังรับสารและแปลสารนั้น ก็จะเกิดปฏิกิริยาตอบ เช่น เมื่อพูดถูกใจหรือเป็นที่พอใจ ก็จะมีอาการผงกศีรษะ ปรบมือหัวเราะ ยิ้ม และแสดงให้เห็นถึงการชื่นชมพร้อมกับตั้งใจฟัง แต่เมื่อพูดไม่ถูกใจหรือไม่พอใจ ก็จะมีการโห่และแสดงให้เห็นถึงความชัง และขัดแย้งต่อผู้พูด เป็นต้น
พูดอย่างไรเรียกว่าพูดเป็น
ความสำคัญของการสื่อสารโดยการใช้คำพูด
การพูดนั้นเป็นพฤติกรรมที่มนุษย์เราทุกคนคุ้นเคยและรู้จักดี เพราะได้แสดงออกในชีวิตประจำวันโดยตลอดมา ตั้งแต่เราได้เรียนรู้ภาษาจากพ่อแม่ ผู้เลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อม การพูดนับเป็นสื่ออย่างหนึ่งที่มีความสำคัญมากในการสื่อสาร สร้างความเชื่อให้กับผู้รับสาร แต่การพูดนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้พูดเป็นสำคัญ ว่าผู้พูดพูดเป็นหรือเปล่า ซึ่ง "การพูดเป็น" นั้นหมายถึงการพูดที่มีประสิทธิภาพพูดแล้วบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ คุณคงเคยจะได้ยินคำพังเพยที่เกี่ยวกับคำพูดมาบ้าง เช่น ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี หรือปลาหมอตายเพราะปากซึ่งคำพังเพยเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงคุณและโทษของการพูด
การพูดนั้นเป็นการใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง รวมทั้งกริยาอาการถ่ายทอด ความคิด ความรู้ ความรู้สึก และความต้องการของผู้พูดให้ผู้ฟังรับรู้และเกิดการตอบสนอง ซึ่งเราต้องยอมรับว่าทุกคนที่ไม่เป็นใบ้ล้วน "พูดได้" แต่มีบางคนเท่านั้นที่ "พูดเป็น" เพราะการพูดเป็นนั้นหมายถึงการพูดให้คนฟังชื่นชอบ พูดให้คนเชื่อถือคล้อยตาม ปฏิบัติตาม พูดเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย พูดเรื่องง่าย ๆ ให้เป็นเรื่องสนุก ซึ่งนับว่าการพูดเป็นนั้นเป็นสิ่งที่ยาก และ
ไม่ใช่จะทำกันได้ทุกคน หากไม่มีความรู้ ความสามารถ ซึ่งการพูดเป็นนั้นไม่ต้องอาศัยพรสวรรค์เสมอไป หากทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยการศึกษาและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
การพูดเป็นการสื่อความหมายซึ่งกันและกันในสังคม จึงนับว่าการพูดนั้นมีอิทธิพลและมีความสำคัญในชีวิตประจำวันมาก เพราะคนเรานั้นแม้ว่าจะมีความรอบรู้มากมายเพียงใดแต่ไม่สามารถถ่ายทอดบอกคนอื่นให้รู้ ให้เข้าใจในสิ่งที่ตนเข้าใจ รู้อย่างแจ่มชัดเหมือนกับที่ตนรู้ที่ตนเข้าใจได้ ความรู้ความเข้าใจของผู้พูดก็เกิดอุปสรรค ไม่สามารถที่จะสื่อให้ผู้ฟังเข้าใจได้ ก็จะไม่สามารถที่จะช่วยให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นได้ ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การพูดเป็นเครื่องมือของการสมาคมและทำให้เกิดความสำเร็จในชีวิต เพราะการพูดเป็นบันไดขั้นแรกในการสมาคม นอกจากนี้การพูดยังก่อให้เกิดความสำเร็จในด้านศาสนา การค้า และการเมืองทางด้านศาสนานั้น ศาสนาเป็นนามธรรมไม่มีตัวตนและขอบเขต การที่จะให้คนไปเชื่อถือ หรือทำตาม จึงเป็นสิ่งที่ทำยาก การพูดโน้มน้าวชักจูงใจให้คนอื่นเกิดความนึกคิดและความเชื่อถือนั้น จึงมีผลมากกว่าการชักจูงด้วยวิธีอื่น ๆ สำหรับทางด้านการค้า จะมีคำกล่าวอยู่ว่า การค้าคือการพูดพ่อค้าแม่ค้าจะขายของได้ก็ด้วยการพูดชักจูงในสังคมปัจจุบันการโฆษณานั้นเป็นการพูดรูปแบบหนึ่งที่มีอิทธิพลในการค้า เพื่อชักจูงใจผู้ซื้อให้ซื้อสินค้า และด้านการเมืองนั้นจะเห็นว่านำการพูดมาเป็นประโยชน์ในการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจนโยบายและหลักการ ประเทศต่าง ๆ จะอยู่กันได้อย่างสันติก็เนื่องมาจากการเจรจาทำความเข้าใจกันจึงนับได้ว่าการพูดนั้นมีบทบาทและสำคัญต่อการเมือง ศาสนา การค้า ตลอดจนชีวิตประจำวันของคนเรา ถ้าขาดการพูดแล้วก็เท่ากับขาดการสื่อความ
หมายกับผู้อื่น การพูดจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ( ไว้จะลงให้อ่านอีก หากมีคนสนใจ 19 คนขึ้นไป )
ช่วยเม้นท์หน่อยครับ...หากคุณนางฟ้าผ่านมาเม้นท์หน่อยนะ
ช่วงนี้ ขยันจริงๆเลยค่ะคุณน้องวินนี่
ใช่แล้วค่ะ
เมื่อเช้ากอก็ปากไว
เลยทำให้น้อยใจแม่เลย
จัดทำ DVD ทอล์คโชว์นมแม่ เสร็จแล้ว 3 แผ่นจบ ใครสนใจบ้างเอ่ย
อยากฝึกพูดบ้างจังนะค่ะ เพราะปกติเป็นคนขี้อายมาก ๆ ให้พูดในที่ชุมชนหรือว่าคนเยอะๆ จะไม่ค่อยกล้าพูดนะค่ะ ไม่ทราบว่าพอมีวิธีอย่างไรบ้างค่ะ ที่จะทำให้มีความมั่นใจ กล้าแสดงออกมั้งค่ะ
นู๋ เดกท.2ไร้พุงนู๋ จะถามว่า ตอนนี้นู๋อายุ14จะสุก15น้ำหนัก80 สูง 160
นู๋จะลดความ อ้วนตอนนี้อายุเท่านี้น้ำหนักเท่า นี้ทัน มัยค๊
อิอิ
รู้ คำตอบโทรมาที่0860648106