แนวทางการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
เพื่อให้ระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษามีความยั่งยืน ทำให้สถานศึกษามีกระบวนการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษา กฎกระทรวงยังกำหนดให้สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพสถานศึกษาอย่างน้อย ๑ ครั้ง ในทุก ๓ ปี และรายงานผลให้สถานศึกษา และหน่วยงานต้นสังกัดทราบ แนวคิดพื้นฐานของการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษาโดยเขตพื้นที่การศึกษา มีประเด็นสำคัญ ๕ - ๖ ประการ คือ
๑) เพื่อช่วยส่งเสริมให้สถานศึกษาพัฒนางานสู่มาตรฐานคุณภาพการศึกษา
๒) เพื่อส่งเสริมให้เกิดระบบการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาอย่างยั่งยืน
๓) เพื่อผลักดันให้สถานศึกษาแสดงความรับผิดชอบการจัดการศึกษาต่อสาธารณะ ด้วยการรายงานผลความสำเร็จและความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานทุกปี
๔) เพื่อให้เกิดการร่วมคิด ร่วมทำงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาระหว่างเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
๕) เพื่อสนับสนุนให้สถานศึกษามีระบบการประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็งพร้อมรับการประเมินภายนอก
๖) เพื่อให้เขตพื้นที่การศึกษามีข้อมูลสารสนเทศในการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาสถานศึกษาในอนาคตจากการวิเคราะห์จุดเด่นจุดควรพัฒนา และองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
ด้วยยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า การประเมินคุณภาพเป็นภาระงานที่เพิ่มขึ้นและการดำเนินงานบางเรื่อง เช่นการจัดระบบสารสนเทศ การจัดทำรายงานคุณภาพประจำปี ยังต้องมีการพัฒนาอีก จึงมีการทบทวนทำความเข้าใจ ในด้านความสำคัญของระบบประกันคุณภาพการศึกษา หลักการ กระบวนการ การดำเนินการของสถานศึกษา และบทบาทของผู้เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา
ผู้บริหารพร้อมคณะครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชนจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ต้องสร้างจิตสำนึกในการพัฒนา ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และทำให้สถานศึกษาเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
ผู้บริหารพร้อมคณะครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชนควรเร่งพัฒนาปรับปรุงคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐาน ที่ 4 (การคิด) มาตรฐานที่ 5 (ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน) และมาตรฐานที่ 6 (นิสัยรักการอ่าน) มีตัวอย่างกิจกรรม ให้ส่งรายงานคุณภาพประจำปีต่อเขตพื้นที่การศึกษา ภายในเดือนพฤษภาคม ของทุกปี การประกันคุณภาพการศึกษาจึงเป็นการบริหารจัดการและการดำเนินกิจกรรมตามภารกิจปกติของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้รับบริการการศึกษา ทั้งยังเป็นการป้องกันการจัดการศึกษาที่ด้อยคุณภาพและสร้างสรรค์การศึกษาให้เป็นกลไกที่มีพลังในการพัฒนาประชากรให้มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น การสร้างความมั่นใจซึ่งเป็นแกนหลักของการประกันคุณภาพประกอบด้วยองค์ประกอบ สำคัญหลายประการอันได้แก่ 1. การวางแผนป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ขั้นของการออกแบบการกำกับดูแล ตรวจสอบและทบทวนเพื่อการปรับปรุง แก้ไขในทุกขั้นตอนของการผลิตซึ่งต่างจากรูปแบบการประเมินแบบเก่าที่เน้นการตรวจจับเมื่อปัญหาสำคัญในขั้นผลผลิต ได้เกิดขึ้นแล้ว 2. การนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยอันได้แก่รูปแบบ กรรมวิธี และ เทคนิควิธี ที่เป็นนวัตกรรมที่มีหลักฐานทางทฤษฎีและผลการวิจัยเชิงประจักษ์ที่น่าเชื่อถือรองรับไปประยุกต์ใช้ในขั้นตอน ต่างๆในกระบวนการผลิต ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจอย่างมีเหตุผลว่า การดำเนินงานตามขั้นตอนต่างๆ ทั้งระบบจะนำไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างน่าไว้วางใจ และจะมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในวงจำกัดที่น้อยที่สุด ในการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ตลอดจนเตรียมการรับการประเมินจากองค์กรภายนอก คือสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (ส.ม.ศ.) โดยยึดหลักการดำเนินงานตามวงจรของเดมมิ่ง ได้แก่ การวางแผน (Plan) การปฏิบัติตามแผน (Do) การตรวจสอบหรือประเมินผลการปฏิบัติงาน (Check) และการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา (Action) การประกันคุณภาพการศึกษา มีความสำคัญ 3 ประการ คือ 1. ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลคุณภาพการศึกษาที่เชื่อถือได้ เกิดความเชื่อมั่นและสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน 2. ป้องกันการจัดการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและเกิดความเสมอภาคในโอกาสที่จะได้รับการบริการการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง 3. ทำให้ผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษามุ่งบริหารจัดการศึกษาสู่คุณภาพและมาตรฐานอย่างจริงจัง ซึ่งมีผลให้การศึกษามีพลังที่จะพัฒนาประชากรให้มีคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ประโยชน์ที่ได้จากการประกันคุณภาพการศึกษา 1. ผู้เรียนและผู้ปกครองมีหลักประกันและความมั่นใจว่าสถานศึกษาจะจัดการศึกษา ที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด 2. ครูได้ทำงานอย่างมืออาชีพ มีการทำงานที่เป็นระบบ โปร่งใส มีความรับผิดชอบที่ ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และเน้นคุณภาพ ได้พัฒนาตนเองและผู้เรียนอย่างต่อเนื่องทำให้เป็น ที่ยอมรับของผู้ปกครองและชุมชน 3. ผู้บริหารได้ใช้ภาวะผู้นำและความรู้ ความสามารถในการบริหารงานอย่างเป็นระบบ และมีความโปร่งใส เพื่อพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับและนิยมชมชอบของ ผู้ปกครองและชุมชน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจและเป็นประโยชน์ต่อสังคม 4. กรรมการสถานศึกษาได้ทำงานตามบทบาทหน้าที่อย่างเหมาะสม เป็นผู้ที่ทำประโยชน์ และมีส่วนพัฒนาสถานศึกษาและคุณภาพทางการศึกษาให้แก่เยาวชนและชุมชนร่วมกับผู้บริหารและครู สมควรที่ได้รับความไว้วางใจให้มาเป็นกรรมการสถานศึกษา 5. หน่วยงานที่กำกับดูแล ได้สถานศึกษาที่มีคุณภาพและศักยภาพในการพัฒนาตนเอง ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระในการกำกับ ดูแลสถานศึกษา และก่อให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพทางการศึกษาและคุณภาพของสถานศึกษา 6. ชุมชนและสังคมประเทศชาติ ได้เยาวชนและคนที่ดี มีคุณภาพและศักยภาพที่จะ ช่วยพัฒนาองค์กร ชุมชน และสังคมประเทศชาติต่อไป ผู้รับบริการได้รับความพึงพอใจจากการให้บริการของหน่วยงาน บรรณานุกรม กรมวิชาการ. คู่มือการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา . http://www.bv.ac.th/joomla/images/25510320dongpan.doc. ดร. เฉลิม ฟักอ่อน. แนวคิดการดำเนินการประกันคุณภาพศึกษาของสถานศึกษา. วารสารวิชาการ หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 8. http://www.nitesonline.net/warasan/10_chalearm.doc. นางสาวสุภาวดี ตรีรัตน์. การประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา. http://academic.obec.go.th/quality(Aom)/article/supavadee.doc ราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 116 . พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. รุ่ง แก้วแดง. ประกันคุณภาพการศึกษา ทุกคนทำได้ ไม่ยาก กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์วัฒนาพาณิช จำกัด 2544
ไม่มีความเห็น