แถลงการณ์สยามเขียว:ทันตแพทย์กับการรักษาสิ่งแวดล้อม

ชวนพี่น้องลดโลกร้อนแบบไม่ต้องใช้ถุงผ้า

มีโอกาสได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับข้อควรทำเพื่อช่วยสิ่งแวดล้อม จากหนังสือที่จั่วหัวประเด็นนี้ไว้หลายๆ แบบ เช่น Global warming, Climate change, go green และ Carbon footprint.

มาทำให้ฉุกคิดว่า หากประยุกต์ให้เข้ากับวิชาชีพทันตกรรมจะเป็นยังไงบ้าง ลองดูนะครับ

ฐานคิดที่ต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อน คือ go green ไม่ใช่เพียงแค่การประหยัด, go green ไม่ใช่แฟชั่นที่ฉาบฉวยชั่วคราว และไม่ใช่ข้ออ้างที่จะลดคุณภาพของการทำให้ปลอดเชื้อในการให้บริการทันตกรรม

go green คือการคิดก่อนใช้ แต่มันลึกซึ้งกว่าการรณรงค์รวมพลังหารสอง ตรงที่ว่ากระทั่งของที่เราจะใช้ ก็ต้องเลืือกใช้ของที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ ณ ปัจจุบันนี้มีิองค์ความรู้ และเทคโนโลยีมากมายเมื่อเทียบกับสมัยที่มารณรงค์ อย่างนี้ต้องหารสอง เพื่อทำให้เรามีชีวิตที่เกื้อกูลต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น

go green คือการมองให้เห็นความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่วิชาชีพเราเข้าไปเกี่ยวข้อง มันไม่ใช่แค่หมอกับผู้ช่วย มันรวมไปถึงคนไข้ การสั่งของ การบริหารจัดการในคลินิก การจัดการ stock และประสิทธิภาพของการให้บริการ

อยากจะลองเสนอแนวทางที่จะทำให้วิชาชีพทันตกรรม go green โดยคิดว่าเวทีแสดงออกของเราคือ คลินิกทันตกรรม ดังนี้ครับ

1.ประสิทธิภาพของการให้บริการช่วยให้ประหยัดการใช้ทรัพยากรได้ งานที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระบบนัดคนไข้ ระบบการ stock ของ, ระบบเครือข่ายคลินิก ฯลฯ ช่วยประหยัดทรัพยากร และเวลา

2.ลองสังเกตดูรอบๆ คลินิก ดูว่ามีจุดไหนที่ลดการใช้พลังงานได้บ้าง เริ่มจากจุดง่ายๆ เช่น การล้างไส้กรองของเครื่องปรับอากาศ เครื่องดูดอากาศ การตั้ง screen saver หน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นจอมืด, การปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระบบ standby แบบถอดปลั๊ก การ maintainance dental unit หรือแม้แต่การเปิด ปิดโทรทัศน์บริเวณที่คนไข้รอรับบริการ, การจัดการระบบขยะติดเชื้อ และขยะอันตราย เช่นเศษปรอท ฯลฯ

3.เมื่อวัสดุ,อุปกรณ์,เครื่องใช้ชนิดใดหมดอายุ จะซื้อใหม่ ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น หลอดประหยัดไฟแทนหลอดไส้, กระดาษทิชชูประเภท recycle, ก๊อกน้ำชนิดที่ผสมฟองในน้ำ, ติดโถปัสสาวะ ไม่ต้องกดชักโครกทุกครั้งที่ปลดทุกข์เบา จะให้ดีเลือกใช้ระบบประหยัดน้ำของโถปัสสาวะเช่น ระบบ desert (ลองดูที่ http://gotoknow.org/blog/phd-life/62077), เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่นผงซักฟอกชนิดที่ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ, เลือกผลิตภัณฑ์ทันตกรรมจากบริษัทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากแหล่งใกล้ๆ อย่าลืมว่าวัสดุ อุปกรณ์ก็เดินทางมาจากแหล่งผลิตเช่นกัน ถุงมือที่เดินทางจากแหล่งผลิตในทวีปยุโรปมาประเทศไทย ย่อมสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าถุงมือที่เดินทางจากจังหวัดตรัง (แหล่งยางพารา) มาที่กรุงเทพ

4.ใช้เทคโนโลยี internet เพื่อลดการเดินทางโดยไม่จำเป็น เช่น ใช้ internet banking ในการจัดการเรื่องเงิน โดยไม่ต้องเผาผลาญน้ำมันเดินทางไปธนาคาร

5.คลินิกเอกชนส่วนใหญ่เป็นตึกแถว ลองปลูกต้นไม้ให้เขียวครึ้มบนดาดฟ้าของตึกแถว หรือจะให้เก๋ก็ติดระบบเก็บน้ำฝนเอาไว้ใช้

6.ลองระบุวิธีเดินทางมาคลินิก โดยใช้ระบบขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์สายอะไรผ่านบ้าง ใกล้รถไฟฟ้า,รถใต้ดิน สถานีไหนมากที่สุด ฯลฯ ไว้ในนามบัตร หรือบัตรนัดคนไข้ของคลินิก, อย่างน้อยก็เป็นการเพิ่มโอกาสที่คนไข้จะลดการใช้รถส่วนตัวเดินทาง

7.มีลูกหลาน ต้องหัดให้ขี่จักรยานให้เป็น มันเป็นวิธีสอนให้เขารู้ว่า เขาสามารถใช้พลังของตัวเองในการเดินทางได้ การขี่จักรยานทำให้เรารู้คุณค่าของการเดินทาง เพื่อนผมหลายคนที่เป็นเด็กเมือง ขี่จักรยานไม่เป็น ก็เลยไม่มีทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการเดินทาง อ้อ ถ้าคุณหมอยังขี่ไม่เป็นก็ลองไปหาซื้อมาหัดขี่นะครับ หัดตอนแก่ก็ยังไม่สาย ตื่นเต้นดีเสียอีก อนาคตถ้าน้ำมันหมดโลกจะได้ขี่ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ได้

8.ผ้าขาวดูแลยาก และต้องใช้สารเคมีในการทำความสะอาดมากกว่าผ้าสี, ลองเปลี่ยนชุดขาวของหมอให้เป็นชุดสี โทนน้ำเงิน โทนม่วง ที่ดูเรียบร้อย แทนสีขาวก็น่าจะดี

9.กินเนื้อให้น้อยลง เพราะกาซ CO2 จากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์รวมกันแล้วมีถึงหนึ่งในสามของการปล่อย CO2 สู่บรรยากาศทั้งหมด...ดังนั้น กินผักลดโลกร้อนกันดีกว่า

เท่าที่นึกออกมีเก้าข้อครับ เอาไว้คิดได้เพิ่มเติมจะมาใส่อีก

[มัทนา]

ให้พี่แพรนำไปรวมกับที่มัทเขียน แล้วเปลี่ยนเป็น 2 authors เลยดีมั้ยพี่ ช่วยกัน : ) บทความที่มัทเขียนเห็นพี่แพรว่าจะเอาลงฉบับหน้า ให้ทันตแพทย์จบใหม่อ่านด้วย