ปัจฉิมนิเทศ….. ม.6 รุ่นพัชรปฏิญาวิศิษฏ์
ปัจฉิมนิเทศ….. ม.6
รุ่นพัชรปฏิญาวิศิษฏ์
ขบวนแถวหยาดเหยียด ด้วยคลื่นมนุษย์เกือบ 3,000 คนท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขอบอวลไปด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจและเสียงหัวเราะ หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ กลบความร้อนอบอ้าวของแสงแดดยามบ่ายจัดได้อย่างน่าอัศจรรย์ แสดงถึงภารกิจอันเป็นที่สิ้นสุดของการใช้ชีวิตวัยมัธยมฯของนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นที่มาของงานพิธีปัจฉิมนิเทศ นักเรียนชั้น ม.6 รุ่นพัชรปฏิญาวิศิษฎ์ โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม
งานพิธีแบ่งเป็น 2 ภาค
ภาคเช้า หลังพิธีเคารพธงชาติและสวดมนต์ มีการมอบเกียรติบัตร โล่เกียรติยศและถ้วยรางวัลให้กับนักเรียนผู้มีผลงานดีเด่นด้านต่างๆ ทั้งระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย และการกล่าวคำอวยพรจากรุ่นน้อง และการกล่าวอำลาของรุ่นพี่ พร้อมมอบช่อดอกไม้และร้องเพลงให้กำลังใจพี่ๆที่จะก้าวออกจากรั้วแดง-ขาวไปสู่สังคมของการศึกษาระดับอุดมศึกษา
ภาคบ่าย เชิญรุ่นพี่ที่ประสบผลสำเร็จทั้งในด้านการศึกษาและหน้าที่การงานมาเล่าประสบการณ์และให้ข้อคิดแก่น้องๆ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวเปิดงานและมอบเกียรติบัตรคนดีศรีกำแพงเพชรซึ่งปีนี้เป็นของนางสาววนาคนึง สุคนธา ที่ชนะเลิศได้คะแนนสูงสุดจากเพื่อนๆ และมีการมอบเกียรติบัตรคนดีประจำห้องซึ่งได้รับการคัดเลือกจากเพื่อนๆ
นิมนต์พระมาให้โอวาทและปะพรมน้ำมนต์
นักเรียนกล่าวคำปฏิญาณตนและครูอาจารย์ผูกข้อมือ
ต่อจากนั้นก็จะเดินออกมารับช่อดอกไม้/ ของขวัญ จากรุ่นน้องและผู้ที่มาแสดงความยินดีจำนวนกว่า 2,500 คนที่ยืนรอเป็นแถวยาวรอบลานแสงมณี
งานปัจฉิมนิเทศ นับว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของการเป็นนักเรียนชั้นมัธยมฯของที่นี่เลยทีเดียว นักเรียนเฝ้ารอคอยวันนี้มาตั้งแต่เริ่มก้าวเข้ามาสู่รั้วแห่งนี้จนกระทั่งเรียนอยู่ชั้น ม.6 ประเพณีนี้ปฏิบัติมายาวนานกว่า 15 ปี แต่มากระหึ่มฮอตสุดขีดก็ช่วง 2-3 ปีนี่เอง มีการเพิ่มเติมรูปแบบประเพณีมากขึ้นจากเดิมเล็กน้อย แต่วิถีปฏิบัติของผู้ร่วมงานและเจ้าของงานนี่ซิ พัฒนาเกินความจำเป็น ใช่ว่าจะกล่าวสิ่งที่เกินเลยไปจากความจริงแต่บอกได้เลยว่า งานปัจฉิมนิเทศที่นี่นักเรียนทุ่มเทอย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้การรับปริญญาบัตร มีตัวแทนของแต่ละคณะสีฯจัดโต๊ะขายดอกไม้ ช่อดอกไม้ ตุ๊กตาหมีและของที่ระลึกกันอย่างเอิกเกริก จากการสัมภาษณ์นักเรียนบางส่วน บางคนจ่ายเกือบ 2,000 บาท ไล่ต่ำลงมา 1,000 -700บาทและ 500-300 บาทตามลำดับ บางคนประหยัดจัดซื้ออุปกรณ์มาประดิษฐ์เองต้นทุนก็เกือบ 100 บาท พอตกช่วงเย็นบางกลุ่มก็นัดแนะไปฉลองตามร้านอาหาร หากสมมุติเฉลี่ยหัวละ 180 บาท รวมเด็กทั้งโรงเรียนก็ราว 300,000 บาท นี่ขนาดแค่ตัวเลขกลมๆ เท่านั้น ความสำเร็จเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดีแต่อีกนัยหนึ่งก็สะท้อนให้เห็นถึงแนวปฏิบัติของเยาวชนรุ่นจิ๋วแห่งรั้วแดง-ขาว ที่ควรตระหนัก….มิใช่หรือ
ความเห็น (4)
จบกันแล้วนะเพื่อนต่างสถาบัน
ขอแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะ
*ขอขอบคุณน้ำใจอันประเสริฐของคุณ Boeviw
*ขอให้คุณ Boeviw เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพเพื่อเป็นกำลังสำคัญที่จะพัฒนาประเทศชาติสืบต่อไปนะคะ
***...ไม่ได้เข้ามาอ่านบันทึกนี้นานทีเดียว ...ขอขอบคุณ คุณ Kookkai Pattama 
และ คุณเจ้าของรหัส 007 5555+ นะจ๊ะ...ปีการศึกษา 2555 นี้ขึ้นปี 4 กันแล้วซินะ...เวลาผ่านพ้นรวดเร็วดีจัง... ***
