รฐา
นางสาว ฐิฏรฐาว์ ศรีจันทร์เวียง

ชีวิตเลือกเอง หรือถูกเลือกว่าใช่แล้ว จึงต้องเป็น


" ชีวิตลิขิตเองได้จริงหรือ "

" ชีวิตลิขิตเองได้จริงหรือ " คำถามที่ ดิฉันพยายามหาคำตอบมาตลอด 10 ปีของการทำงาน ดิฉัน เข้ารับราชการครู ตั้งแต่เรียนจบ โดยไม่ได้สอบแข่งขันใด ๆ เพราะเรียนทุนคุรุทายาทของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเรียนจบก็ต้องเข้ารับราชการครูตั้งแต่ อายุ 21 ปี เวลาเกือบ 10 ปี ที่ดิฉันรับราชการครูโดยมิใช่ตัวตนที่แท้จริง มีทุกคำถามที่เกิดขึ้นในใจ ตั้งแต่คำถามแรก เคยใฝ่ฝันว่าอยากเรียนปริญญาตรีที่ ม.เชียงใหม่ และแล้วก่อนที่จะสอบ เอนทรานซ์ ด้วยเหตุผลที่ว่าดิฉันเป็นนักเรียนเรียนดี คุณครูที่เคารพของดิฉัน (หมายถึงคุณแม่ของดิฉันท่านเป็นคุณครูทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน) ท่านบอกให้ลองสอบทุนคุรุทายาทดูก่อน ประกาศผลดิฉันสอบได้ในลำดับที่ 4 ซึ่งตอนนั้นรู้สึกดีใจที่ตัวเองแข่งขันกับคนเกือบพันและทำได้ในลำดับที่ดี แต่สิ่งที่ติดตามมาหลังจากนั้น ซิ " ลูกจ๋า หนูจะไปสอบเอนทรานซ์ อยู่หรือ ถ้าหนูสอบติดจริง ๆ แม่คงไม่ให้หนูไปหรอน่ะคะ คุณแม่ว่า เราเป็นลูกผู้หญิง การที่เรามีงานทำ และเป็นคุณครู น่าจะเป็นอะไรที่มั่นคงและเหมาะที่สุด สำหรับ ลูกสาวคนเดียวของแม่น่ะ " ดิฉัน นิ่ง บนความรู้สึก และคำตอบจากปาก " คะคุณแม่ " และคำถามนานับปการที่เกิดขึ้นในใจ " ทำไมเราไม่มีโอกาสได้เดินบนหนทางแห่งความฝัน หรือ เพียงเพราะ เราถูกให้เลือกแล้วว่าดีและควรทำ " " ความสุขความสบายใจของคนเป็นพ่อ-แม่ อยู่ที่ลูกมีความมั่นคงในหน้าที่การ หรือ อยู่ที่เราสามารถเลี้ยงตัวเองได้ตามความสามารถ " และที่สำคัญที่สุดคือ " ฉันตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นมานะ เพื่ออะไร " ดิฉันเข้าเรียนกับกลุ่มเพื่อน ๆ คุรุทายาทที่ยอมรับได้ว่า เก่ง ๆ กันทั้งนั้น และที่สำคัญทุกคนต้องเรียนแข่งกับเกรดที่ต้องสูงตามดีกรีคุรุทายาทและแข่งขันกับเพื่อน ๆ ที่ IQ 108 สำหรับดิฉันมันไม่ใช่เรื่องอยากแต่ทุกคำตอบของดิฉันคือ ""มันไม่ใช่ดิฉันเลย"" ถ้าดิฉัน จำไม่ผิด เกือบ 2 เดือนที่ดิฉันร้องไห้กับการเข้าไปเรียน ทุกครั้งที่กลับมาบ้านรอยยิ้มของฉันเริ่มจะหายไป พร้อมกับคำถามของคุณพ่อคุณแม่ ด้วยความสงสัย " หนูเป็นคนร่าเริง ทำไมหมู่นี้แม่ไม่ค่อยเห็นหนูยิ้มเลย " คุณแม่มักจะถาม เพื่อนๆเวลาที่ไปเยี่ยมที่สถาบันว่า "ลูกสาวแม่เครียดไปหรือเปล่ากับการเรียน" เพื่อน ๆ ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับท่านก็จะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวฉันให้ท่านฟัง วันหนึ่งท่านเดินมาหาฉันแล้วบอกฉันว่า "แม่ขอทษที่บังคับให้ลูกต้องเรียน ใน สิ่งที่ลูกไม่ชอบ แม่อนุญาตให้หนูออกและเตรียมสอบเอนทรานซ์ใหม่น่ะคะ" ท่านพูดทั้งน้ำตา ฉันดีใจย่าเป็นที่สุด และคิดว่าตัวเองถูกปลดปล่อยจากพันธการทั้งปวง ชั่วขณะของความคิด " ทำไมท่านร้องไห้ " เวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ฉันไม่ไปเรียนที่สถาบันด้วยคิดว่า ไม่เอาแล้ว จะออกแล้วมันคือ ความสุขใจที่เป็นของฉันคนเดียว และแล้วก็มีเสียงจากห้องนอนของคุณพ่อ-คุณแม่ " พ่อเราต้องใช้เงินทุนให้ลูกน่ะถ้าลูกไม่เรียนต่อที่นั้น " " ไม่เป็นไหรอ เพื่อ ความสบายใจของลูก " " แม่แค่อยากเห็นเขา มีความมั่นคงในอาชีพรับราชการ " " แม่ผิดที่เลือก อะไร อะไร ให้เขา เพียงเพราะเราคิดว่าดี " " แม่ รักลูกแค่อยากเห็นลูก สบายในวันข้างหน้า " รุ่งเช้าของวันต่อมาดิฉันขอท่านเข้าไปเรียนตามปกติด้วยสำนึกในความรักที่ท่านมีให้ ยอมที่จะไม่เลือกทางของชีวิตที่ตนเองอยากเดิน และเดินบนหนทางที่ท่านอยากให้เป็น....... ( .... พรุ่งนี้บันทึกต่อน่ะคะ..... รฐา ....)

หมายเลขบันทึก: 241350เขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2009 01:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 12:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ชอบครับ มาเขียนต่อน๊ะ ติดตามอยู่ครับ

อืม..ชีวิตนี้น่าสนใจค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

พ่อแม่สำคัญที่สุดค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์ รฐา

เพราะผู้ใหญาห่วงใยจึงได้เลือกทางเดินให้โดยดูจากประสบการณืว่าอนาคตครูนี้ดีแน่

เหมือนที่ผมเลือกอาชีพพยาบาลให้ลูก ทั้งที่เขาเอนท์เข้า มอ หาดใหญ่ได้ เสนทางสายนี้จึงไมโสภานักสำหรับการที่เลือกให้มันเป็นเรื่องที่ตีองตอกย้ำอยู่ตลอดเวลาครับ

ดิฉันมีลูก 2 คนกำลังอยู่ในวัยรุ่น วัยเรียน

เคยนั่งคุยกับลูกเรื่องการเลือกสาขาเรียน ...สุดท้ายดิฉันตามใจลูกค่ะ

มันไม่โดนใจเราวันนี้ แต่วันข้างหน้าก็ไม่มีอะไรแน่นอน

เพียงแต่ปัจจุบันนี้ขอให้ลูกมีความสุขกับทุกๆวัน ทุกก้าวย่างของเขา..

เป็นกำลังใจให้บนหนทางที่กำลังเดินครับ...

แม้เราไม่ได้เป็นคนเลือกแต่ในเมื่อมันเป็นหนทางที่ดีก็น่าจะเดินต่อไปนะครับ...

ขอบคุณครับ...

 

สวัสดีค่ะมาอ่านเรื่องราวดีๆ ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้นะค่ะ

ขอบคุณ

คุณนพ

สำหรับกำลังใจน่ะคะ ดีใจมากคะที่สนใจเรื่องราว ๆ

จะหาเวลา บันทึกต่อน่ะคะ

ขอบคุณอีกครั้งคะ

สวัสดีคะ

ครูแป๋ม

ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีดีน่ะคะ

ยินดีที่มีโอกาสได้รู้จักเพื่อน ครู อีกคนคะ

ขอบคุณมากน่ะคะ

สวัสดีคะ

คุณนเรศ

สำหรับความเป็นพ่อ ดิฉันเชื่อมั่นคะว่าคุณนเรศ เป็นคุณพ่อที่มองกาลไกลให้ลูกๆ ได้ดี

ไม่แพ้คุณแม่ของดิฉัน

ขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวต่าง ๆ น่ะคะ

ฐิฏรฐาว์

สวัสดีคะ

คุณลดา

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่เยี่ยมชมคะ

รฐา เป็นกำลังใจให้คุณลดา และลูก ๆ น่ะคะ

รฐา เชื่อคะว่าสิ่งที่คุณแม่มอบให้ ไม่ว่าจะตรงใจเราหรือไม่ มันก็คือสิ่งที่ดีที่สุด

เป็นกำลังใจให้น่ะคะ

ฐิฏรฐาว์

สวัสดีคะ

คุณดิเรก

ขอบคุณคะสำหรับกำลังใจดีดี

ขอบคุณสำหรับการติดตามน่ะคะ

ฐิฏรฐาว์

สวัสดีคะ

คุณอารีรัตน์

ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ให้ครูไทยคนนี้น่ะคะ

แล้วจะติดตามเรื่องราวของคุณอารีรัตน์ เช่นกันน่ะคะ

ขอบคุณค่ะ

ฐิฏรฐาว์

>แวะมาขอบคุณ... คุณ รฐา

>และมาเกี่ยวเก็บ...ความรู้ของคุณด้วย

>ขอบคุณครับ

ขอบคุณคะ คุณแสงศรี

ดีใจน่ะคะที่แวะมาเยี่ยม

รฐา จะค่อย ๆ เก็บเกี่ยวประสบการณืจากชีวิต จริงและประมวลความรู้ที่พอจะมีบ้าง

มาฝากไว้ที่บันทึกน่ะคะ

ขอบคุณ คุณแสงศรีที่ให้กำลังใจ

จะหาสิ่งดีดี มาฝากคะ

ฐิฏรฐาว์

ผมได้เรียนรู้ว่า คนเราก็ถูกจำกัดทางเลือก อาจเป็นด้วยความจำเป็นจริงๆ หรือ เป็นเพราะพรหมลิขิต

 

ตอนนี้ผมมักเชื่อประเด็นหลังมากกว่า

ชื่อ รฐา แปลว่าอะไรค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท