เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของการใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร

บทคัดย่อ

การศึกษาในครั้งนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์  ๘๐/๘๐ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของการใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร  และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร  ประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  ๒  ปีการศึกษา  ๒๕๕๐ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต  ๒  อำเภอรัตภูมิ  จังหวัดสงขลา   จำนวน  ๒๘  คน  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา  เขต ๒ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย  ๑.  ชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร  จำนวน  ๓ ชุด  แบ่งเป็น  ๕๙  แบบฝึก  ซึ่งมีรายละเอียดของแต่ละชุด ดังนี้  ชุดที่ ๑ คำที่สะกดตรงตามมาตราแม่กบ จำนวน ๓ เล่ม  ชุดที่ ๒ คำที่สะกดไม่ตรงตามมาตราแม่กบ จำนวน ๓ เล่ม  และชุดที่ ๓ สนุกกับคำมาตราแม่กบ จำนวน ๒ เล่ม   ๒. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง (Pre test – Post test) การใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร จำนวน ๒๐ ข้อ  และ  ๓. แบบวัดความพึงพอใจต่อชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร จำนวน  ๑๐  ข้อ  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่  การหาค่าร้อยละ  (Percentage)  ค่าเฉลี่ย  (Arithmetic Mean)  ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  (Standard Deviation)  ประสิทธิภาพตามเกณฑ์  ๘๐/๘๐  (E _๑/ E _๒)  และสถิติสำหรับทดลองความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนการทดลอง  และหลังการทดลองภายในกลุ่ม  โดยการทดสอบค่าที (paired sample t-test)

ผลการศึกษาพบว่า

                ๑.  การพัฒนาชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระ    การเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร มีประสิทธิภาพ ๘๗.๕๘/๘๖.๕๙  สรุปได้ว่านักเรียนสามารถทำชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร โดยเฉลี่ยร้อยละ  ๘๗.๕๘  และนักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร ได้โดยเฉลี่ยร้อยละ๘๖.๕๙  แสดงว่าชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร ที่ผู้ศึกษาพัฒนามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้คือ  ๘๐/๘๐

                ๒.  ผลของการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของการใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร  ปรากฏว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในด้านการเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  สูงขึ้นหลังจากการใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .๐๑  ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้

                ๓.   ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้ ชุดฝึกเสริมทักษะ การเขียนสะกดคำในมาตราตัวสะกดแม่กบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร  พบว่า ในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (µ =  ๔.๕๖, σ = .๓๒๘)