Final Interview
ถ้าพูดถึงเรื่องการประเมินผลการฝึกอบรม เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าผู้เข้ารับการอบรมมี ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติ (KUSA) เพียงพอต่อการปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ การประเมินผลการฝึกอบรมทั่วไป ก็จะเป็นการวัดความรู้ ความเข้าใจจากการสอบทฤษฎี วัดทักษะและทัศนคติจากการสอบปฏิบัติ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมมีทางเลือกที่จะวัดประเมินผลการฝึกอบรมอีกทางให้เลือกคือ การสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ โดยจะดำเนินการหลังจากที่ผู้เข้าอบรมได้สอบผ่านภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และผ่านการฝึกงานที่สถานที่จริง (On the Job Training) แล้ว
คณะกรรมการในการสัมภาษณ์จะประกอบไปด้วย ตัวแทนจากส่วนงานฝึกอบรม ตัวแทนจากต้นสังกัด และตัวแทนจากส่วนงานความปลอดภัย ตั้งแต่ระดับหัวหน้างานขึ้นไป
ในการสัมภาษณ์จะมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดและประเมิน ความรู้ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติ ว่าเพียงพอต่อการปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ นั้นๆ หรือไม่ และต้องการให้ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ตอบคำถามจาก การตกผลึกของความรู้ ทักษะ เจตคติ จากประสบการณ์ที่ได้ ผ่านการฝึกงานที่สถานที่จริง (On the Job Training) มา ซึ่งควรจะเป็นองค์ความรู้ที่พนักงานได้ค้นพบด้วยตัวเองตามจริตของคนนั้นๆ ดังนั้นเนื้อหาในการสัมภาษณ์จะประกอบไปด้วย คำถามที่เกี่ยวกับ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเป้าหมายและนโยบายของบริษัท ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งงาน ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ต่างๆ ความสามารถในการจัดการบริหารเกี่ยวกับการจัดการในสถานการณ์ต่างๆ ความสามารถในวิเคราะห์ข้อขัดข้อง การแก้ปัญหาข้อขัดข้องของระบบและการตัดสินใจ จิตสำนึกของการให้บริการ ทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ในตำแหน่งงานเกี่ยวกับกฎระเบียบข้อบังคับ และ ทัศนคติด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
ในแต่ละเนื้อหาจะต้องเตรียมแนวคำถามไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นสถานการณ์จำลองต่างๆ เพื่อให้ การวัด ประเมินไปในแนวทางเดียวกัน และยังสามารถควบคุมเวลาได้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง/คน
บรรยากาศระหว่างการสัมภาษณ์ จะแบ่งออกเป็นหลายบรรยากาศ โดยเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ และค่อยๆ กดดันเรื่องความรู้สึก เพื่อดูความมั่นคงทางอารมณ์ การสื่อสารและความมั่นใจ ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ต้องตอบคำถามอย่างฉะฉาน ชัดเจน เป็นธรรมชาติ ไม่ได้ตอบจากการท่องจำหรือเตรียมตัวมา ดังนั้น จะทำให้เราทราบว่า พนักงานคนนี้มีจุดดี จุดด้อยอย่างไร เราสามารถปรับได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ถ้าพนักงานยังไม่ค่อยเข้าใจ หรือมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เราก็สามารถเสริมความรู้และปรับทัศนคติไปในตัว สุดท้ายจบลงด้วยการให้ผู้รับการสัมภาษณ์แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นต่อการฝึกอบรมและการฝึกงานที่สถานที่จริง (On the Job Training) ที่ผ่านมา ด้วยความรู้สึกที่เป็นกันเอง ซึ่งต้องพยายามให้มีการเปิดใจออกมาให้มากที่สุด เพื่อที่เราจะได้นำข้อมูลไปปรับปรุงพัฒนาการฝึกอบรมในรุ่นต่อๆ ไป และต้นสังกัดก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปไปปรับปรุงแก้ไข พัฒนาระบบ การทำงานได้ต่อไป
การสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายนี้ เหมาะสำหรับหลักสูตรระยะยาว เช่น หลักสูตรพนักงานขับรถไฟฟ้า หลักสูตรพนักงานควบคุมรถไฟฟ้า หลักสูตรผู้ตรวจสอบระบบปฏิบัติการ หลักสูตรหัวหน้าห้องควบคุมรถไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาการอบรมทั้งหลักสูตรประมาณ 3-5 เดือนขึ้นไป
กรณีที่ผลการสัมภาษณ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ อาจมีการตกลงกับคณะกรรมการ ให้มีการนัดสัมภาษณ์ในภายหลัง โดยให้พนักงานไป สรุปรวมความรู้ ทักษะจากการฝึกงานที่สถานที่จริง (On the Job Training) อีกครั้ง ตามระยะเวลาที่เหมาะสม
ความเห็น (5)
ถ้าครูทุกคนวัดผลตามที่คุณไทยเลย-บ้านแฮ่ บอกจะดีมากค่ะ แต่ดิฉันเคยเจอวัดผลแบบไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ แต่วัดเพื่อเอาชนะผู้สอบให้หลังชนฝา ซึ่งมันน่าจะผิดจรรยาบรรณครูนะคะ
ดีจังเน้นความปลอดภัยเป็นขีดสุด ผมจะพยายามทำให้ได้อย่างที่บทความนะครับ... www.Seemoon7.thport.com อิๆๆ
อยากเป็น train-controller มากๆเลยคะ ผู้หญิงเป็นได้ไหมคะ
ชอบรถไฟฟ้ามากๆ ต้องจบสายวิทย์มาใช่ไหมคะ
อยากทราบรายละเอียดอ่ะคะ ใครพอทราบช่วยอธิบายรายละเอียดให้หน่อยนะคะ
ขอบคุณมากๆคะ
ส่งมาตามอีเมล์เลยนะคะ
หน้าที่ ...
หลักสูตร พนักงานขับรถไฟฟ้า กับ หลักสูตร พนักงานควบคุมรถไฟฟ้า เป็นหลักสูตรเดียวกันหรือเปล่าครับ