ศาสนาจากความทรงจำ (1) – ไม่ทำแต่อยากพูด


ศาสนาจากความทรงจำ

 ตั้งใจหลีกเลี่ยงไม่เขียนหรือเขียนถึงหลักธรรมในพุทธศาสนาให้น้อยที่สุด ส่วนหนึ่งเพราะภูมิรู้มีจำกัดและอีกส่วนหนึ่งก็ด้วยตัวเองได้ละความเพียร หันมาเที่ยวเล่นแสวงหาความสุขแบบโลกๆ เนิ่นนานหลายปีแล้ว

พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งการปฏิบัติ ถ้ามัวแต่นำคำสอนในพุทธศาสนามาเขียนมาวิเคราะห์แต่ไม่ลงมือปฏิบัติ ต่อให้นั่งถกกันทุกวันก็ไม่ได้สาระประโยชน์เป็นเพียงการแก่งแย่งแสดงภูมิรู้ที่ท่องจำมาด้วยสำนวนโวหาร เสียเวลาเปล่าๆ ปรี้ๆ แถมถ้าเราตีความธรรมนั้นผิดๆ เพราะไม่ได้ลองปฏิบัติแล้วยังเอามาพูดขยายความต่อทำให้คนอื่นเข้าใจผิดตามก็จะยิ่งเป็นโทษ

แต่หลายวันก่อนโน้นลืมตัวเข้าไปนั่งสนทนาธรรม กับคุณ นงนาถ ในเรื่อง จิตว่าง...ว่างจริงหรือ...

 ทำให้นึกถึงอุบายปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิของพุทธศาสนาที่มีหลายวิธีต่างกันไป ตามแต่ครูบาอาจารย์ท่านจะสั่งสอน ซึ่งแต่ละท่านก็สั่งสอนตามที่ท่านได้ปฏิบัติมา และบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ต่างก็เลือกเอาที่เหมาะสมกับจริตนิสัยกับสติปัญญาของตัวเองมายึดถือปฏิบัติ

เหมือนกับทุกฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกันแต่วิธีการอาจต่างกันไป

คำถามเดียวกันก็อาจมีคำอธิบายได้มากมาย

คำอธิบายคำเดียวก็อาจตีความได้ต่างกัน

ถนนทุกสายมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน แต่ว่าถนนทุกสายไปสู่จุดหมายเดียวกันแน่หรือ...?

จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเส้นทางที่ตัวเองเลือกเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง

ผู้ที่เริ่มหันมาสนใจพระพุทธศาสนาจริงจังหลายคนคงมีคำถามแบบนี้ คำตอบที่ได้รับก็คงต่างกันไป ส่วนจะเชื่อแนวทางไหนก็คงแล้วแต่รู้สึกว่าแนวทางปฏิบัติทางใดเหมาะสมกับเรา ถ้ากลัวว่าจะถูกต้มตุ๋นก็อย่าไปยึดติดคลั่งไคล้ว่าชอบใจแนวของสำนักหนึ่งสำนักใดว่าดีที่สุด เพราะว่าคำสอนของทุกสำนักนั้นก็ตีความจากธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าก่อนจะค้นหาแนวทางปฏิบัติของสำนักต่างๆนั้น ถ้ารักษา สติ-สัมปชัญญะ ไว้ได้มั่นคง ก็จะอุ่นใจได้ขั้นหนึ่งว่าจะไม่พลาดพลั้งถ้าหากไปพบคำสอนที่ผิดรูปผิดรอย

แนวทางการค้นหา สติ-สัมปชัญญะนั้น แนะนำแนวทางการเจริญสมาธิแบบเคลื่อนไหวของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ (พันธ์ อินทผิว)เป็นแนวทางหนึ่งครับเคยบังเอิญอ่านเจอ รู้สึกชอบจึงโหลดไฟล์ ซึ่งมีทั้งคำสอนและภาพประกอบมาจากเว็บของวัดสนามในเพื่อเอาไปฝากแม่กับยายที่บ้านต่างจังหวัดโดยก่อนเอาไปก็จัดการขยายตัวหนังสือให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ตัดเนื้อความให้เหลือเฉพาะคำอธิบายที่ไม่ยืดยาวมาก น่าเสียดายที่ตอนนี้หาลิงค์ไฟล์นั้นไม่เจอแต่ ที่นี่ เขาคัดย่อมาไว้ให้

ผมเองสมัยเป็นวัยรุ่นก็เคยออกแรงค้นหาคำตอบให้ตัวเองอยู่พักใหญ่ โชคดียังหาคำตอบที่โดนใจตัวเองได้ไม่งั้นคงกลายเป็นคนไม่มีศาสนา ช่วงนี้อารมณ์ค่อนข้างนิ่ง และน่าจะมีเวลาเลยกะจะรื้อความทรงจำในช่วงก่อนที่ความศรัทธาในพระศาสนาจะมั่นคงไม่หวั่นไหวถือเป็นการทบทวนตัวเองไปด้วยว่าจริงๆ แล้วที่เข้าใจว่าศรัทธาของตัวเองมั่นคงนั้น มั่นคงในทางที่ถูกต้องจริงหรือ

ถึงแม้ช่วงหลังนี้ละเลยไม่ได้ปฏิบัติธรรมก็ขอเป็นคนดีแต่ปากสักสี่ห้าบันทึกก็แล้วกัน

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 240546เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2009 12:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท