การบริหารในยามปกติ หรือ Routine Management อาจจะดูเหมือนเป็นสิ่งที่เราท่านเห็นคุ้นเคยกันอยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน…และแม้กระทั่งในภาวะกดดันหรือวิกฤต แต่ยังบริหารแบบยามปกติ ก็เป็นสิ่งที่มีให้เห็นอีกเหมือนกัน
การบริหารภายใต้ภาวะกดดันหรือภาวะวิกฤติเป็นลักษณะเฉพาะตัวของผู้นำ (Charisma) ที่ออกมาจากปัญญาและสติขณะอยู่กับปัจจุบัน หากอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงระหว่างความเป็นความตาย ก็จะเป็นบททดสอบทรงพลังที่จะวัดได้ว่านักบริหารมี Charisma ที่จะบริหารภายใต้ความกดดันนั้นได้หรือไม่
วันนี้ นับว่าเป็นบุญกุศลที่ได้มีโอกาสฟังธรรมบรรยายของพระธรรมโกศาจารย์ ประยูร ธมฺมจิตฺโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งท่านได้เผยแพร่หลักธรรมหลายข้อ แต่บันทึกนี้จะเน้นเฉพาะข้อที่สอดคล้องกับแนวการบริหารภายใต้ภาวะกดดัน
ท่านเล่าถึงวีรบุรุษภายใต้ความกดดัน (Heroism : GRACE UNDER PRESSURE) ที่หลายท่านรู้จักดี Captain Chesley Sullenberger ซึ่งมีข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่านักบินวัย 57 ปี ขับเครื่องบินโดยสารเที่ยวบินที่ 1549 ขับลงแม่น้ำ Hudson ในนิวยอร์ค นำพาผู้โดยสารประมาณ 155 คนรอดชีวิต
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ได้ไม่นาน ก็มีการนำเทปบันทึกกล่องดำมาเปิดให้ชาวโลกฟัง ผลปรากกฎว่าน้ำเสียงของกัปตันนิ่งสงบมากทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ความเป็นความตายที่ต้องตัดสินใจ ทั้งที่เครื่องบินดับ (เครื่องยนต์สองเครื่องไม่ทำงาน) ท่านก็ยังพูดปกติว่า “จะไปลงในแม่น้ำ” (รายละเอียดหาอ่านในเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น http://www.chesleysullenberger.com/)
ในภาวะวิกฤตที่กดดัน สามารถรักษาคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรมไว้ได้อย่างไร ….การตัดสินใจต้องการคุณธรรมเป็นพื้นฐานของจิตใจ… ภาวะผู้นำที่เปี่ยมด้วยปัญญาและเจริญสติมรณะในภาวะวิกฤตแห่งชีวิตสามารถนำพาให้หลายชีวิตที่พึ่งพาเขาผ่านพ้นความตายมาได้… และในภาวะเช่นนี้เองก็ได้สร้าง HERO ที่โลกตะลึงและยกย่อง
บททดสอบคุณธรรมของผู้นำ นักบริหารไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยนัก…เมื่อนาน ๆ แผ้วพานมาเยือน หากไม่มีปัญญาเป็นทุน และฝึกจิตให้มีสติรู้เท่าทันเหตการณ์ ก็อาจจะตัดสินใจแบบที่เคยเป็นมา…หรือตัดสินใจแบบไม่ตัดสินใจ….
การใช้ปัญญานั้นจะต้องมีความ “รู้รอบ รู้ลึก
รู้มากกว่าที่เห็น
เข้าใจมากกว่าที่ฟัง”
ซึ่งพระธรรมโกศาจารย์ ประยูร ธมฺมจิตฺโต เรียกว่า “รู้ 3 มิติ”
อีกทั้ง ในการตัดสินใจด้วยปัญญานั้น จำต้องมองอะไรให้ได้หลากหลายมุม ผู้เขียนได้ฟังคำภาษาบาลีที่พระธรรมโกศาจารย์ ประยูร ธมฺมจิตฺโต ใช้คือคำว่า “วิภัชชวาท” ส่วนการมองอะไรเพียงมุมเดียวจากอคดิ 4 (ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยคติ) ภาษาบาลีเรียกว่า “เอกังสวาท” ซึ่งการมองอะไรเพียงมุมเดียว หรือเพียงบางส่วนแล้วถือว่าเป็นความจริงทั้งหมดนับว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง
ผู้เขียนเห็นว่าการมองเพียงบางส่วนด้วยขาดปัญญา ขาดสติก็นับว่าผิดพลาดแล้ว แต่หากนำเพียงมุมมองบางส่วนไปขยายใหญ่โต โฆษณาชวนเชื่อมอมเมาผู้อื่นหรือหลอกลวงผู้อื่นให้เชื่อถือเอาบางส่วนเป็นความจริงทั้งหมดก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มองก็ผิด และยังจงใจพูดผิด ๆ ….เข้าข่ายบิดเบือนความจริง ขาดธรรมในใจ...
จริง ๆ แล้ว พระธรรมโกศาจารย์ ประยูร ธมฺมจิตฺโต ท่านเทศน์ให้แก่นักกฎหมายที่จะต้องตัดสินผิดถูกตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่ได้รับหรือที่มีอยู่…ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าไม่เฉพาะแต่นักกฎหมาย หากเป็นนักบริหารยิ่งต้องเพิ่มความรอบคอบ การตัดสินผิดถูกของท่านเป็นการให้คุณให้โทษบริวาร และกิจการงานต่าง ๆ ซึ่งมีผลกระทบมากน้อยขึ้นอยู่กับอำนาจของท่านและสถานการณ์นั้น ๆ หากว่าปราศจากการมองอะไรหลายมุมและใช้ปัญญารอบรู้ 3 มิติ ท่านก็จะเป็นเพียงนักบริหารในนามตามตำแหน่งที่แต่งตั้งเท่านั้น
หากว่าใครก็ตาม โดยเฉพาะนักบริหารมีปัญญารู้ 3 มิติและมองหลายมุมดังคำเทศนาของท่านพระธรรมโกศาจารย์ ประยูร ธมฺมจิตฺโต ก็เป็นการสร้างทุนปัญญาไว้กับตัว ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ผิดปกติ ขั้นวิกฤติการณ์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับองค์กร ปัญญาที่มีอยู่เป็นทุนจะต้องควบคู่กับ “สติ” ไม่ลนลานหวาดกลัวตื่นตระนักในภาวะกดดัน… แต่ปัญหาที่มักจะเจอ คือการไม่ตระหนักว่าเข้าสู่ขั้นวิกฤติ…หรือตระหนักแต่ไม่มีสติรู้เท่าทันเหตุการณ์ว่าจะต้องจัดการอย่างไร เพราะเคยชินเครื่องมือกลไกที่ใช้แบบเดิม ๆ
ฝากไว้ในบันทึกนี้ คำเทศนาดี ๆ มีคุณค่าที่เหมาะแก่กาลสมัยในยุคที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจแก่องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน….นักบริหารที่ดีมี Charisma ก้าวเท้าออกมาแสดงความสามารถเชิงบริหารภายใต้ภาวะวิกฤติได้เมื่อไรท่านก็จะได้ชื่อว่าเป็น Heroism : Grace under Pressure เช่นเดียวกับท่าน Captain Chesley Sullenberger แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงก้องโลกขนาดนั้น แต่ก็ได้ครองใจใครหลายคนที่อาศัยท่านเป็นใบบุญ และตัวท่านก็จะยิ่งได้บุญมากกว่าการบริหารยามปกติหลายเท่า เพราะมีส่วนช่วยสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง
การบริหารด้วยคุณธรรม สร้างบุญได้จริง ๆ ....เชื่อหรือไม่ไม่สำคัญ อยากให้ทำดู ไม่เสียหลายดีกว่าหายใจเสียเปล่า...สร้างทุนปัญญา สร้างธรรมะในใจ...ไม่ว่าสถานการณ์ใดควบคุมได้เสมอ
จงมีสติ รู้ตัว ความกลัวหาย ความโกรธมลาย ความหลงหมดไป
ปัญญาสว่างใส ดวงใจบริสุทธิ์ ดุจบัวในตรม
บันทึกเนื่องในโอกาสวันใกล้วันมาฆบูชา(วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552)
ที่มาของภาพ www.daylife.com/photo/0blN6wQ1EU7Fi
@ แอบแวะมาทักทายยามดึก
@ และมาเรียนรู้ หลักการบริหารด้วยคุณธรรม
@ ขอบพระคุณครับ
วันนี้เขียนได้ดีมาก..ไม่ดิเอาโคตรดีมากไปเลยดีกว่า..ให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง...
เจริญพร
ธรรมะที่ท่านนำมาเขียนดีมากเลย เหมาะสำหรับนักบริหาร หรือใครก็ได้ทีนำมาใช้รับรองว่าได้ประโยชน์แน่นอน
เจริญพร
ขอบพระคุณคุณไทบ้านผ่า ที่แวะมาอ่านยามดึก ศิลาได้ไปชมวัดที่ท่านนำเสนอในบันทึกของท่าน และอย่างที่เรียนไว้แล้วว่าวันนี้จะไปวัด เช้านี้จึงมาเขียนตอบคำทักทายของท่านก่อนเดินทาง...สุขใจในวันแห่งธรรมค่ะ
รับธรรมะเพื่อใช้กับการบริหารในยามเช้า เป็นอาหารใจที่มีคุณค่าจริง ๆ
น้อมรับไปปฏิบัติ ขอบคุณอย่างสูง
สวัสดีค่ะ คุณศิลา คิดถึงค่ะ.... การมีสติภายใต้ภาวะกดดันเป็นเรื่องสำคัญมากเลยนะคะ ควรฝึกให้มีในทุกคน ตัวเองยังไม่เคยเจอภาวะกดดันที่ต้องตัดสินใจ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเมื่อเวลานั้นมาถึงจะครองสติได้ดีขนาดไหน ...... แต่จะพยายามตั้งมั่นค่ะ
เพิ่งดูข่าวเรื่องความสำคัญของการมีสติในภาวะคับขันมาค่ะ ไม่ทราบคุณศิลาได้ยินข่าวนี้หรือยัง ขอเล่านะคะ
นักเรียน skydiver ชื่อ Daniel Pharr วัย 25 ปี ได้รับของขวัญวันเกิดเป็นการลองกระโดด Tandem jump ลงมาจากเครื่องบิน โดยกระโดดคู่มากับครูผู้สอน ปรากฎว่าครูผู้สอนที่อยู่ด้านหลัง หัวใจวายเสียชีวิตกระทันหันหนึ่งนาทีหลังจากที่กระโดดลงมา Daniel ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าครูเงียบไปอย่างผิดปรกติ เขาจึงต้องตั้งสติ นึกถึงที่ตัวเองเคยดูทีวีสาธิตวิธีการลงสู่พื้นดิน เขาต้องทำให้ได้เพื่อนำตัวเขาและครูลงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย รวดเร็ว เพื่อจะได้ช่วยเหลือครูให้เร็วที่สุด เพราะตอนนั้นเขาไม่ทราบว่าครูได้เสียชีวิตไปแล้ว เขาทำได้ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะความมีสตินั่นเอง
แล้วจะแวะมาคุยใหม่นะคะ
ขอบพระคุณท่านสัมภเวสีที่ชม ทำให้ได้คิดตามว่าการเขียนอย่างไรจึงจะเรียกว่าเป็น
"การให้" อย่างแท้จริง
นมัสการท่าน พระ มงคล มงคล ถีราวุฒิ เจ้าค่ะ จะขอนำความเห็นของท่านเสริมแรงอธิษฐานเผยแพร่ธรรมเป็นทานต่อไปค่ะ
ขอบพระคุณคุณบัวบานที่มารับธรรมะไปใช้คู่กับการบริหารค่ะ ขอให้มีความสุข เป็นที่เคารพยกย่องแก่บุคคลทั่วไปค่ะ
ขอบพระคุณคุณพี่อักษรทับแก้ว ที่แวะมามอบข้อมูลดี ๆ ในบันทึกศิลาค่ะ อ่านแล้วทึ่งในพลังแห่งสติจริง ๆ เลยค่ะ จะขอนำข้อมูลที่พี่อักษรให้มาไปเผยแพร่ต่อ ๆ ไปจะได้เป็นวิทยาทานด้วยค่ะ
นำหลักธรรมมาใช้กับการบริหารงานได้อย่างลงตัว น่าสนใจครับบบ
กำลังเรียนเรื่องภาวะผู้นำอยู่อย่างเคร่งเครียดเลยครับ...
เข้ารับอบรมไปก้ถามตัวเองตลอดเวลาว่า ตัวเองเป็นผู้นำที่มีภาวะความเป็นผู้นำกี่มากน้อย..
ครับ, ...รู้สิ่งใด ฤาสู้ รู้ใจลูกน้อง
ขอบคุณครับ
ขอบพระคุณคุณ Twillight ที่แวะมาอ่าน และมองเห็นธรรมะที่จะนำมาบูรณาการกับหลักการบริหารค่ะ ขอให้ท่านมีความสุขในการเข้าถึงธรรมนะคะ
อ่านหลักการบริหารกับหลักธรรมนี้แล้ว สะท้อนให้เข้าใจครับว่าทำไมชีวิตคนทำงานจึงแห้งแล้งและเหมือนหุ่นยนต์นัก เพราะขาดหลักธรรมมากำกับในการดำเนินชีวิตนั่นเอง
สวัสดีคะ อ่านแล้วดีมากคะ ดีมากกับความรู้ สามมิติ
สุดยอดมากคะ ขอบคุณสำหรับบทความดีดีคะ
วันนี้นั่งกดโทรศัพท์ เข้าเวปทางมือถือ เพื่อดูเวป youtube เจอ พระธรรมเทศนาที่น่าสนใจเลยนำมาฝาก กัลยาณมิตรครับ (นึกถึงอยู่สองสามคน) http://www.youtube.com/watch?v=PW3dMCIE5KA
หลวงพ่อจรัญเทศนา 23 มิ.ย. 2008 ตอนที่ 2/2
สวัสดีค่ะ พี่ศิลาแสนสวย....
ภาวะผู้นำ คือ ความสงบ
ภาวะผู้นำ คือ ความใส่ใจ
ภาวะผู้นำ คือ ความหวัง
ภาวะผู้นำ คือ พลังสร้างสรรค์
ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราค่ะ...ที่จะบอกได้ว่า...คุณมีภาวะผู้นำอยู่กี่มากน้อย.
ขอบคุณครับ เมตตา-พยาบาท คือเชือกเส้นเดียวกันแต่อยู่คนละปลาย พ่อแม่ ที่รักลูก เมตตาลูก เมื่อลูกทำให้ผิดหวัง ก็มักจะพยาบาทลูก นั่นเพราะมีความรักเมตตาเป็นปฐมด้วย ผมเข้าใจเพราะผมก็เป็น ตอนนี้ฝึกอุเบกขา และคิดว่า ลูกจะเข้าใจพ่อแม่สักวัน (ยังไม่มีลูกหรอกครับพูดไปงั้น ยังเป็นคนโฉด เอ้ยคนโสดอยู่) ขอบคุณ ครับ ผมเข้าใจที่อาจารย์พยามยามที่จะสื่อ (เพราะมีญาณ/ วิจารณญาณ อันเกิดจากพระกรรมฐาน งัยครับ)
แวะมาเรียนรู้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
มีกำลังใจดีๆเสมอๆนะคะ
สวัสดีดีค่ะ
แวะมาเรียนรู้..หลักธรรม..นำชีวิตค่ะค่ะ
ขอให้มีความสุขค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ
• แวะมาอ่าน "การบริหารภายใต้ภาวะกดดัน" ครับ
• อ่านแล้วให้ข้อคิดดีมาก ๆ ครับผม
......................................................................................
ต้องขอชมที่ขยันอ่านและนำเรื่องดีๆมาเล่าค่ะ
หมอเคยดูแลคนไข้โรคซาร์ในช่วงที่ทุกคนกลัวทำให้กดดันมากๆจึงเข้าใจความรู้สึกที่คุณศิลาเล่าค่ะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาส่งรอยยิ้มและความระลึกถึงค่ะ
ลดความเครียดด้วย....ภาพนี้นะคะ...
(^___^)
สวัสดีค่ะอาจารย์...
เห็นความรัก ความทุกข์ ของแม่ๆแล้ว เราก็อยากให้กำลังมากๆ...
แม่และลูกต่างรักกัน แต่ไม่ได้บอกมาตรงๆ การกอดช่วยให้อบอุ่นในหัวใจ...
ขอบคุณนะคะที่ไปเยี่ยมค่ะ...