เพราะนอกจากที่จะต้องลงไปทำงานกับเขาแล้ว ไปนั่งดู นั่งถามอย่างเดียวคงจะไม่ดี ต้องช่วยเขาด้วย
ดูแล้ว ถามแล้ว ทำแล้ว ต้องรีบเขียน รีบสรุป
สิ่งเหล่านี้จะทำให้เหล่าเก่งขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และสิ่งเหล่านี้นี่คือ "การปฏิบัติธรรม"
การปฏิบัติธรรมที่ประสาน สอดคล้องกับทุกย่างก้าวในชีวิตประจำวัน
ความอดทน ความเสียสละ ความวิริยะ ความพากเพียร ความเมตตาซึ่งกันและกัน เป็นคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ที่ใคร ๆ ควรมี พึงสร้าง
ชีวิตนี้นั้นไม่ยาวนัก...!
เงิน ทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง เกียรติยศ มีอยู่ มีไว้ ใช้ได้เพียงแค่ในโลกนี้ ชีวิตนี้
ความดี การเสียสละ เป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตนี้ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนา
ชีวิตนี้จะมีคุณค่าขึ้นมากหากได้เรียนรู้และเดินคู่กับ "คุณธรรม"
คุณธรรมเป็นเครื่องนำชีวิต นำเราลงสู่ความรู้
ความรู้ที่มีคุณธรรมคือความรู้ที่คู่กับศีล
เมื่อมีศีล ชีวิตนี้จะไม่วุ่นวาย สับสน จิตใจจะไม่อลวน
จิตใจที่ไม่อลวน คือ จิตใจที่สมาธิ เพราะไม่วกวนไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เป็นราว
ชีวิตซึ่งอยู่ด้วยจิตใจที่มีสมาธิอันมีพื้นฐานจากศีลนี้เอง คือ ชีวิตที่มีปัญญา
ปัญญาที่แท้จะนำพาชีวิตสู่ความสุขแท้
ความสุขแท้ที่มีและเกิดขึ้นได้จาก "ความสงบ..."
การปฏิบัติธรรม คือ การอยู่กับทุกย่างก้าวในชีวิตประจำวัน อย่างฉลาดมีปัญญา???
เมื่อเราปฏิบัติธรรมไม่ว่าอารมณ์ใดจะเกิดขึ้นก็ให้ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ถ้าปล่อยใจไปเรื่อย ๆ เราก็ไม่มีวันรู้จักตัวเอง ไม่มีวันรู้จักใจของตัวเอง
ขี้เกียจก็ทำ ขยันก็ทำ สิ่งนี้เรียกว่า “การพัฒนาจิต”
เมื่อปฏิบัติธรรมต้องทำใจของเราให้เป็นธรรม มิใช่เอาธรรมะมาตามใจเรา
(โอวาทธรรมของพระโพธิญาณเถร หลวงพ่อชาสุภทฺโท)
สาธุ
เมื่อเราปฏิบัติธรรมไม่ว่าอารมณ์ใดจะเกิดขึ้นก็ให้ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ
จริงออย่างท่านว่า
แต่ปัญหานิดนึง อยู่เป็นคนเมือง นี่
ยากเหมือนกัน
บางทีกำลังไม่พอ จะวิปัสนา เพราะหรือบางทีกิเลสแรง อย่างนั่งกลางห้องประชุมงี้
จะวิปัสนาไงนี่ ยาก!!!! มันโมโห มันเสียใจ กิเลสในเรานี่มันแรง มันเนียนด้วย
ตามดูรู้ไม่ทัน
บางทีอยากหลบมุมอยู่วัดเงียบๆ
แต่คำพระท่านว่า คนพุทธต้องกล้าหาญ !
แหมลำบากใจ
ขอโอกาสทบทวนเพื่อสรุปอีกครั้งหนึ่งนะ "พร้อมแล้วไปเลย..."