จดหมายถึงลูก จากพ่อ..กังวล..
Dear Phu,
When I first discovered the parrallels between Mathematics and the magician of using it.
It made me amazing and it was striking me very much.
After all ,in my opinion, I think that these may always occur to the one who love Mathematics.
I can't stop thinking about it and when I know deeply about Calculus, it deepen me more amazing by using my background of Mathematics to calculate all those things e.g. the Arithmetic area of everything.
Phu , Mathematics is the imagination beyond your thinking, when you learn more you will love it.
Engineering, Economics and even Medicine all use Mathematics for basic thinking.
Beware about your conscious during examination; focus on your paper and do it on time, please check your watch.
Alright, I and mom will have holiday on Monday “Makabucha day”.
We may pass your school and watch you somewhere.
Be fun with your friends.
Remember that Mom and dad love you more than you thought.
Love you my son.
Dad ;P
คุณพ่อเขียนจดหมายนี้ ในวันที่ลูกถาม ๆ เชิงบ่นว่า
"พ่อ วิชาคณิตศาสตร์นี่ เรียนแล้วใช้ประโยชน์ตอนไหนบ้าง"
"ทำไมโจทย์ถึงต้องเป็นหลักล้าน หลักแสน ขนาดนี้"
เนื่องด้วยสมัยเขาเด็กกว่านี้ อยู่ชั้นประถมหนึ่ง-สอง-สาม เขาเรียนกับครูฝรั่ง
ไม่มีโจทย์การบ้านหรือข้อสอบประเภทที่ว่า
"จงบวก จงลบ จงหาร...เลขต่อไปนี้"
แต่จะเป็นงานชิ้นประเภท
"Today Phu brings 15 pieces of snacks. There are five students in the room. If Phu divides his snacks for all freinds.How many pieces of snacks that each student will gain? "
หรือไม่ก็ พล็อตกร๊าฟแท่ง ขีดกร๊าฟเส้น..รายงานอุณหภูมิ ของจังหวัด, รายงานส่วนสูงของเด็กในห้อง, จัดกรุ๊ปการทำงาน ฯลฯ
แม่เริ่มคิดคล้าย ๆ ลูกค่ะ ว่า เอ? คณิตศาสตร์แบบที่เราเรียนมาสมัยเด็ก ๆ มันเรียนไปทำไม
ในโกทูโน มีคุณครู ช่วยชี้แนะแนวทางด้วย ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
*20/502552
อ่านบันทึก เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก โดยเฉพาะความคิดเห็นของอ.นกฟ้า wwibul
เริ่มเข้าใจเองว่า เวลาเรียนวิชาอะไร หลักสูตรการเรียนการสอนก็ต้องออกแบบ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจให้ถ่องแท้เป็นที่สุดก่อน
หลังจากนั้น ผู้เข้าใจในศาสตร์ย่อมสามารถ นำความรู้ที่รู้ติดตัวมา, หรือทราบว่าจะค้นหา ค้นคว้าได้อย่างไร ที่ไหนในพื้นที่ของสมองเรา และสมองกล หรือตำรา, เครื่องมือ,และ/หรือ search engine อื่น ๆ..รวมกระทั่งการถาม ผู้รู้ กว่าเรา
หรือถาม ครู นั่นเอง
ขอใส่ Digital divide ค่ะ
เพราะหากเราไม่ได้อ่าน ความคิดเห็นของผู้รู้ ท่านอื่น ๆ
เรายังตกยุค ติดยึดกับความคิดที่แคบ ๆ เฉพาะเรื่องที่เราสนใจใคร่รู้
ขอบพระคุณอาจารย์นกฟ้า-วิบุล วงศ์ภูวรักษ์ มา ณ ที่นี้ ค่ะ
ความเห็น (7)
ผม เรียนภาษาผ่าน จดหมายถึงลูก... ได้ทั้งความรู้และอารมณ์รักอันปราณีต แฝงอยู่ทุกช่องไฟอักษร
ขอบคุณมากครับ :)
อืม....พี่เพิ่งไปอ่านทบทวน คำ และลองให้อารมณ์สัมผัสอักษร อย่างเบา ๆ
สามีเรา เขียนได้อย่างที่น้องเอกว่าไว้..แฮะ (ต้องมีคนชี้แนะ-ถึงเพิ่งรู้สึกชัด ;P)
เขารักลูกมาก
พูด"รัก"ออกมาอาจน้อยคำ..กว่า"บ่น"..
หากเมื่อเฝ้าดูการกระทำ...
..เขาเป็นคน..โ ม แร น ติ ค....คนหนึ่งค่ะ
ขอบคุณน้องเอกค่ะ สำหรับข้อคิดเห็นที่แฝงพลัง สั้นแต่มีมนต์ ดลให้พี่ไปอ่านจดหมายถึงลูก-จากพ่อ..อีกหลาย ๆ ฉบับ
พี่เล็ก...
ผมรู้สึกอบอุ่นไปด้วยทุกครั้งครับที่ได้มีโอกาสอ่านจดหมายถึงลูก (หลายๆฉบับ) มาเเล้ว เป็นทั้งการโยงใยความรัก เป็นทั้งการสร้างการเรียนรู้ให้น้องภูไปด้วย ...
น่าจะเป็นตัวอย่างของการเรียนรู้ ระหว่างคนในครอบครัว ที่แสนจะน่ารักอีกกรณีหนึ่ง "ครอบครัวอบอุ่น"
สามีพี่หมอเล็ก เป็นคนโรแมนติค จริงๆด้วยครับ :)
"Remember that Mom and dad love you more than you thought."
พลันอ่านประโยคนี้จบ ...ก็อบอุ่นท่วมท้นหัวใจครับ
น้องเอกคะ
คุณพ่อ โ ร แ ม น ติ ค
เพิ่งมาอวดว่า วันนี้ได้หอมหัว..เหม็น ๆ ของลูกด้วย
(จากการเอานาฬิกาที่ลูกลืมไว้ที่บ้าน ไปให้ลูก..ค่ะ)
แม่..อิจฉา..สิคะ
มาอ่านจดหมายอีกค่ะ น่ารักมากค่ะ
พ่อลูกไปโรงเรียนกันแล้วค่ะ
แม่ต้องนับวันรอ...ยังไม่ชินเลย
ลูกชินเร็วกว่าเรา !!!
มาอ่านรีวิว แล้วแอบมาเติมคำสำคัญคำนี้ ให้จดหมายคุณพ่อฉบับนี้ คำหนึ่ง..Family divide..
เนื่องจากประโยคนี้ของน้องเอก
คคหที่สาม ข้างบน
...น่าจะเป็นตัวอย่างของการเรียนรู้ ระหว่างคนในครอบครัว ที่แสนจะน่ารักอีกกรณีหนึ่ง "ครอบครัวอบอุ่น"...