ภาพลวงตานั้น ทำให้เกิดมุมมอง...ที่แตกต่างของความคิด ซึ่งจะเห็นได้จากภาพตัวอย่างที่นำมาให้ชมว่า ท่านได้สังเกตเห็นอะไรในภาพนี้ในแว๊บ...แรก..และต่อมา...ยังคงยืนยันความคิดเห็นเดิมหรือไม่?
เอ...หลายคนชักไม่แน่ใจ...ความคิดในครั้งแรก..ซะแล้ว ความคิดในแว๊บแรก...เรามักจะประมวลความคิดความจำในภาพรวมๆ ส่วนมากจะเห็นเป็นคนแก่ ตากะยายมองหน้ากัน แต่..เอ๊.!!! มองรายละเอียด เป็นเด็กหนุ่มสองคนนั่งเล่นกีตาร์ด้วยกันซะนี่ เอ้า...พอมามองลึกไปเรื่อยๆ ในรายละเอียด จะยิ่งมองยิ่งมีความคิดแยกย่อย...ไปอีกมากมาย
ในชีวิตคนเราที่ผ่านมาก็เหมือนกัน เหมือนมายา...ลวงชีวิต ชีวิตวัยเด็กก็คงเหมือนกับเรามองภาพนี้แว๊ปแรก...กระมัง!!!...จึงมีความคิดฉาบฉวย...ไม่ละเอียดรอบคอบ (เป็นวัยหัวเลี้ยว..หัวต่อ..ของชีวิต) การมองเห็นภาพและการใช้ชีวิตจึงแตกต่างจากที่ผู้ใหญ่มองเห็น ซึ่งเป็นการมองคนละมุม ทั้งๆที่มองภาพเดียวกัน ซึ่งไม่มีใครถูกใครผิด แต่ถ้าเราดึงภาพการมองมาอยู่ในระนาบเดียวกันได้ คงจะเป็นสิ่งที่ดีมิใช่น้อย....
ทุกคนมีเหตุผลในความคิดของตัวเองทั้งนั้น แต่การยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง? ก็จะสามารถมองเห็นมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งน่าสนใจเช่นกัน อยากให้เด็กเข้าใจผู้ใหญ่มากขึ้นและอยากให้ผู้ใหญ่เข้าใจเด็กมากขึ้น เพื่อเติมเต็ม...ความรักในวันแห่งความรักที่จะมาถึง ...แล้วภาพที่มองเห็น...จะไม่เป็นภาพลวงตา...อีกต่อไปเพราะว่าเรามองเห็นภาพในระนาบเดียวกัน...
พระพุทธองค์เปรียบภาพลวงตาว่า เหมือน การเห็นพยับแดด ดูด้วยตาเนี้อคือใช่ แต่เมื่อดูด้วยตาในกลับว่างเปล่า....
สวัสดีค่ะคุณวิญญาณเสรี
สวัสดีค่ะ
มามองภาพลวงตา
เมื่อใดที่การมองของคนสองคน
เป็นภาพเดียวกัน
บรรยายได้เหมือนกัน
ก็หมายความว่า
ภาพนั้นไม่ได้ลวงตาใครอีกแล้ว
เห็นตามจริงค่ะ
ขอบคุณมาก
สวัสดีค่ะคุณตันติราพันธ์
· ขอบคุณที่ภาพลวงตาได้มีทั้งคุณวิญณาณเสรีและคุณตันติราพันธ์มาช่วยเติมเต็ม
· อยากให้เกิดการมองอย่างมีสติ...
· เพื่อการรู้เท่าทันตามภาพลวงตา ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.