แม้เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิจะผ่านไปหนึ่งปีแล้ว
ภาครัฐประกาศจัดงานด้วยการเชิญญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจากประเทศต่างๆ
เข้าร่วมพิธีรำลึกเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิที่ผ่านมา
และเป็นหนึ่งปี
ที่ข่าวความขัดแย้งในเรื่องการรื้อฟื้นเรื่องการตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติสึนามิของทีมจากกระทรวงยุติธรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะหวนกลับมาอีกครั้ง
แต่อีกด้านหนึ่งกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยและสูญเสียญาติพี่น้อง
สามีภรรยาหรือลูก
ยังคงเฝ้ารอว่าเมื่อใดพวกเขาถึงจะได้รับศพคนที่พวกเขารัก
เพื่อจะได้ทำพิธีอุทิศส่วนกุศลให้แก่พวกเขาเหล่านั้นให้ไปสู่สุขคติ
กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่เสียชีวิตจากภัยพิบัติสึนามิ
ยังเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่สามารถจะระบุจำนวนที่แท้จริงได้
ตัวเลขที่กระทรวงแรงงานรับรายงานจากพื้นที่ต่างๆ
มีแรงงานข้ามชาติที่เสียชีวิตเพียง 9 คน ในพื้นที่จังหวัดระนอง
(อำเภอกะเปอร์) 4 คน จังหวัดพังงา (อำเภอตะกั่วป่า) 3 คน
และจังหวัดภูเก็ต 2 คน (อำเภอเมือง 1 คน และอำเภอกระทู้ 1 คน) สูญหาย
2 คนในพื้นที่จังหวัดกระบี่
แต่ตัวเลขขององค์กรพัฒนาเอกชนที่พยายามเข้าไปติดต่อประสานงานเพื่อแสวงหาญาติของผู้เสียชีวิตพบว่า
ในเฉพาะพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า เขตตำบลที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก เช่น
ตำบลคึกคัก ตำบลบางม่วงและเขาหลัก
มีแรงงานข้ามชาติที่เสียชีวิตโดยมีญาติมาแจ้งและให้ข้อมูลมากถึง 300
คน และพบศพที่ยืนยันได้ว่าเป็นแรงงานข้ามชาติแล้วในเบื้องต้นประมาณ
100 ศพ
ตัวเลขที่แตกต่างกันเช่นนี้
ส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากการที่แรงงานข้ามชาติที่เป็นญาติของผู้เสียชีวิตไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการในการแจ้งและขอรับศพผู้เสียชีวิตในช่วงแรกได้
ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาในการสื่อสารระหว่างแรงงานข้ามชาติกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ความปลอดภัยของแรงงานข้ามชาติที่หวั่นเกรงว่าตนเองจะถูกจับกุม
ปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่กีดกันแรงงานข้ามชาติออกจากระบวนการในการตามหาญาติพี่น้องของตนเองที่เสียชีวิต
ดังนั้นจึงทำให้ไม่น่าแปลกใจนักเมื่อตัวเลขในเบื้องต้นจะปรากฏผู้เสียชีวิตเพียง
9 คน
ตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องนี้คือ
การกรอกแบบฟอร์มจากญาติผู้เสียชีวิตที่หนาราว 20 หน้า
และเป็นเอกสารที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีล่ามสื่อภาษาที่จะคอยสอบถามและอธิบายให้แรงงานข้ามชาติที่มีปัญหาทั้งในการสื่อสารโดยการอ่านภาษาไทยและอังกฤษได้เข้าใจ
หลายครั้งการพยายามเข้าไปสอบถามและประสานงานกับญาติผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากนายจ้างเท่าที่ควร
รวมทั้งการนำเอกสารสำคัญที่เป็นหลักฐานในการพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิต
เช่น
ลายพิมพ์นิ้วมือในการติดต่อประสานกับหน่วยงานรัฐเพื่อขอสำเนาเอกสารที่มีรายพิมพ์นิ้วมือ
หลายครั้งก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่อย่างดี
แต่หลายครั้งคำตอบที่ได้รับคือ ต้องให้นายจ้างมาขอรับเท่านั้น
แม้จะให้เหตุผลต่างๆนานาก็ได้รับคำยืนยันเช่นเดิม
ราวกับว่าแรงงานข้ามชาติเหล่านี้เป็นสมบัติชิ้นหนึ่งของนายจ้าง
มิได้มีตัวตนแห่งความเป็นมนุษย์ดำรงอยู่แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันแม้จะพบศพของผู้เสียชีวิตและมีญาติมารับศพแล้ว
ก็ยังไม่สามารถรับศพออกไปได้
เนื่องจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า
มีแนวทางการปฏิบัติที่ต้องให้สถานฑูตของประเทศต้นทางมายืนยันว่า
ผู้เสียชีวิตเป็นคนของประเทศนั้นจริง
ญาติถึงจะสามารถรับศพออกไปได้
ที่สำคัญเราเคยมีบทเรียนเรื่องการประสานงานกับประเทศต้นทางโดยเฉพาะกรณีประเทศพม่าในเรื่องการส่งกลับแรงงานข้ามชาติ
ซึ่งทางพม่าขอให้มีการพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นคนพม่าจริง
เวลาล่วงเลยไปหลายเดือนกระบวนการดังกล่าวก็ยังไม่เสร็จสิ้น
จนทำให้มีแรงงานข้ามชาติที่ถูกกักตัวอยู่ป่วยและเสียชีวิตไปในที่สุด
ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากในกรณีนี้ที่จะให้รอคำรับรองจากประเทศต้นทาง
ซึ่งข้อเสนอขององค์กรพัฒนาเอกชนคือการใช้หลักฐานที่ทางราชการไทยเป็นผู้ออกให้มายืนยัน
แต่กว่าเรื่องราวต่างๆ
จะดำเนินไปได้ตามข้อเสนอก็ล่วงเลยมาถึงเดือนพฤศจิกายน
และจนกระทั่งขณะนี้ซึ่งครบรอบหนึ่งปีของเหตุการณ์แล้วก็ยังไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตได้รับศพของผู้เสียชีวิต
มีเพียงกรณีที่ได้รับตั้งแต่หลังเหตุการณ์ไม่นานนัก
และกรณีที่มีนายจ้างที่เป็นผู้มีชื่อเสียงมาขอรับเท่านั้น
“ตอนนี้ที่อยากได้คืออยากได้ศพของเขามาเผาและทำพิธีตามประเพณีเท่านั้น
อยากให้เขาไปสบาย”
และเมื่อถามว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาหลังจากการสูญเสียน้องสาวรู้สึกอย่างไร
เธอก็บอกว่า “เสียใจและสับสน
เพราะตอนแรกมีคนเห็นว่าน้องสาวโดนคลื่นพัดไปแล้ว
ก็ให้สามีและเพื่อนออกตามดูตามชายหาดก็หาไม่เจอ คิดว่าน่าจะตายไปแล้ว
แต่อีกใจหนึ่งเราก็ยังมีความหวังว่าจะมีคนช่วยเหลือเขาได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานก็เริ่มทำใจว่าน้องสาวน่าจะตายไปแล้ว
ก็ยังหวังว่าน่าจะได้เจอศพเขาจะได้ทำบุญให้เขา
จนมีคนมาถามว่าใครมีญาติที่ตาย เขาจะพาไปหาศพให้ เราก็ไป
เขาก็มาถามและจดอะไรไป และเขาก็มานัดไปให้หมอตรวจ (พิสูจน์
DNA)
ตอนนี้เขาก็มาบอกว่าเจอศพแล้วให้เตรียมตัวไปรับได้
ก็ดีใจเพราะรอมาปีหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับสักที
ทุกวันนี้ก็สวดมนต์ทำบุญให้เขาตลอด”
ไม่มีความเห็น