(ภาพวัดร่องขุน ออกจากเชียงราย ไปลำปางจะผ่าน ได้มีโอกาสแวะชม สังเกตว่าปลาที่อยู่ในสระทุกตัวมีสีขาว)
การไปเที่ยวเหนือครั้งนี้ ได้ประสบการณ์การขับรถยนต์เกียร์ออโต ขึ้นลงเขา ความเข้าใจนี้ไม่มั่นใจเต็มที่ว่าปฏิบัติถูกต้องทั้งหมดนะครับ แต่คิดว่าเป็นการ ลปรร ท่านผู้รู้แนะนำด้วยครับ
ผมเคยอ่านคู่มือการใช้รถยนต์ที่บริษัทแนบมา แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสปฏิบัติ เนื่องจากวิ่งพื้นราบตลอด
เกียร์ทั้งหมดมี P = จอด R = ถอยหลัง N = เกียร์ว่าง D = ขับออ-โต 2 = เพิ่มกำลังเบรคนิดหนึ่ง(ผมเข้าใจเช่นนั้น) L = เพิ่มกำลังเบรคมากสุด
เวลาขับพื้นราบ ก็ใช้แต่ D (R, และ N) ไม่เคยใช้ 2 และ L เลย
การขับจากท่าตอน ไปแม่จัน ไปแม่สลอง แม่สาย แล้วไปเชียงราย ได้ลองใช้เกียร์ 2 (ยังไม่ได้ใช้ L)
- ถ้าทางชัน ก็ใช้เกียร์ D และปลด "Overdrive Function" --> O/F off
- ถ้าชันมาก รถอืด ขึ้นช้า จากข้อ 1. ก็เพิ่มเปิด ECT Power (ช่วยเพิ่มกำลังการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้รวดเร็ว)
- เมื่อกลับมาวิ่งทางราบอีก ก็เปิด Overdrive Function จะช่วยประหยัดน้ำมัน
- เวลาลงเขา โดยเฉพาะที่ลาดมากๆ และคดเคี้ยว ก็ปลด Overdrive Function ก่อน จากนั้นเปลี่ยนมาใช้เกียร์ 2 เพื่อเพิ่มกำลังเบรคให้ควบคุมไมให้เร็วเกิน ทั้งนี้การใช้เกียร์ 2 (รวมทั้งเกียร์ L) นั้นต้องระวังไม่ให้ความเร็วของรถยนต์ที่แล่นลงเขานั้น สูงเกินกว่าที่กำหนด (ตัวเลขที่กำหนดอยู่ในหนังสือคู่มือ แตกต่างตามรุ่นรถยนต์ เช่น เกียร์ 2 อาจให้ไม่เกิน 65 ก.ม/ช.ม. แต่ถ้า L จะต้องรักษาความเร็วไม่เกิน 45 ก.ม./ช.ม.)
- ที่สำคัญ คู่มือว่า ระหว่างเปลี่ยนเกียร์ (จาก D ไป 2 หรือ L) อย่าเหยียบคันเร่ง (อันนี้ หลักการเดิมกับการใช้เกียร์กระปุก--เร่งความเร็วถึงระดับ ปล่อยคันเร่ง เหยียบครัชแล้วเปลี่ยนเกียร์) และการเปลี่ยนเกียร์ต้องปิด Overdrive Function ก่อน
หมายเหตุ
- Overdrive Function จะเปิดโดยอัตโนมัติ เมื่อขับตามปกติที่เกียร์ D
- ECT Power สามารถเปิดใช้ในการวิ่งปกติทั่วไปได้ (ผมเข้าใจว่าทำให้เครื่องยนต์ทำงานว่องไวในการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลง) ซึ่งการวิ่งปกติ คู่มือไม่แนะนำให้เปิด เพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน