หลังจาก “เสกศิลป์” ชิ้นแรกกันเสร็จสมใจแล้ว เราก็พักกินข้าวห่อบนสะพานแขวนนั้น จากนั้น คุณเบิร์ด หลานผู้ติดตามเป็นผู้ช่วย คุณทนง ก็อุ้มคุณทนงขึ้นจากสะพานแขวน คุณหนุ่ม หลานอีกคนหนึ่งยกรถเข็นขึ้นมาบนลานหินริมฝั่งแม่มูล เรานั่งพักสบายๆ กันสักครู่ก็ตกลงจะทำงานชิ้นที่สองตรงเชิงสะพานแขวนนั้น เลือกเอาต้นตะแบกบนลานหินแตกเป็นเป้าหมาย
เราต่างเพ่งพินิจความแกร่งกล้าท้าทายคมหินของตะแบกนักสู้ เงียบกันอยู่สักครู่ แล้วงานชิ้นที่สองของเราก็เริ่มขึ้น ผมเองใช้เวลาไม่นานนักกับบทกวีบทนี้ ในขณะที่คุณทนงค่อยๆ ดำเนินวิถีปากกับพู่กันของเขาแช่มช้า แน่วแน่...
ราวอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาภาพนั้นก็เสร็จพร้อมที่จะให้ผมเขียนบทกวีลงในที่ว่างเป้าหมาย คุณโชนศาสตร์ ก้อนทอง และ คุณทิวานันท์ ก้อนทอง สองสามีภรรยาที่มาส่งเราเมื่อคืนนี้แล้วกลับเข้าเมืองอุบลไป ได้ย้อนกลับมาเป็นกำลังใจให้เราอีกครั้งในช่วงบ่าย มาพร้อมกับลูกสาวคนเล็ก ซึ่งสนใจงานเขียนรูป ได้เวลาเหมาะพอดีที่เราได้อวดภาพและบทกวีทั้งสองภาพและสองเรื่องที่สร้างสรรค์ได้ในวันนั้น
ภาพที่ ๒
ชื่อภาพ – อัศจรรย์แห่งรัก
(ภาพล่าง - บทกวีขยายขนาด ให้อ่านง่าย)
ติดตาม "กวีเสกศิลป์แม่น้ำร้อยสาย (๑) แก่งตะนะผู้ขัดเกลา" ได้ที่ 238580
สวัสดีค่ะคุณครูกานท์
แวะมาสวัสดีค่ะ พร้อมทั้งเรียนขออนุญาตนำร้อยกรองที่คุณครูประพันธ์ไว้ นี้ ไปไว้ในหน้าประวัติของคนไม่มีรากค่ะ เพราะคุณครูได้อธิบาย "ตัวตน" และ ความปรารถนาอันแท้จริง ของคนไม่มีรากไว้ได้อย่าง...แจ่มแจ้งค่ะ...
ไม่มีราก เพราะตัดราก จากกิเลส
สุดวิเศษ ไม่พะวง บ่วงสงสาร
นี้คือพร ซ่อนลึก ในพฤกษ์พนานต์
ทุกปีกาล สวัสดี นิรันดร
ขอบคุณค่ะ...^_^...
แบ่งปัน-รากตะแบกผู้กล้า
ให้คุณคนไม่มีรากด้วยครับ
น้อมรับ รากตะแบกผู้กล้า ด้วยใจยินดีค่ะ
แม้จะชื่อตะแบก ไม่แบกทุกข์
ตั้งต้นตรงไว้ เพื่อแบกธรรมะ....ค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ...
ชอบทั้งภาพวาด และบทกวีเลยค่ะครู ^___^
รวมถึงภาพสะพานที่ทอดยาวภาพแรกด้วยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ...
ภาพที่เขียน...ด้วยปากคาบพู่กัน
แบ่งปันศรัทธาแก่มิตรทั้งผอง
แบ่งรักถักทอเส้นทางทอง
แก่มุมมองดีดีของชีวิต
...
ตามมา จากพระครูราชบุรี พบแล้วกวีผู้กล้า ครูกานท์เลือดสุพรรณ ปรระทับใจในอารมณ์ที่สุนทรี จงยืนหยัดต่อไปด้วยศรัทธา
อายุบวรครับคุณ Todsapol