การละเมิดทางเพศในที่ทำงาน Sexual harassment in a work place


Sexual harassment is a CRIME!

เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 10 ปีมาแล้ว ในสมัยที่ผมยังทำงานราชการ  เพื่อนต่างกระทรวงคนหนึ่งถูกคุกคามทางเพศจากคนที่ดำรงตำแหน่งเป็นถึงอธิบดี โดยวันหนึ่งเธอได้รับคำสั่งให้นำแฟ้มงานด่วนไปให้อธิบดีซึ่งลาป่วยลงนามที่บ้านของท่าน แต่เมื่อไปถึงกลับถูกอธิบดีท่านนั้นละเมิดทางเพศด้วยการล๊อคประตูและพยายามกอดรัด และชักชวนให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย 

ลองนึกภาพตามไปนะครับ ข้าราชการสาวระดับ ซี 4 เพิ่งเข้ารับราชการได้ไม่ถึงปี ถูกนายใหญ่ ข้าราชการระดับเจ้ากรมสั่งให้นำงานเข้าไปให้เซ็นถึงในบ้านซึ่งเป็นที่รโหฐาน ถ้าเป็นกรณีปกติก้ออาจไม่กล้าต่อสู้เพื่อปกป้องตนเองเนื่องจากความเกรงกลัวต่อ อำนาจและบารมีของผู้เป็นนาย แต่ในกรณีนี้บังเอิญไม่ใช่ เพราะเพื่อนผมคนนี้ตอบโต้ด้วยการตบหน้าอธิบดีของเธอแล้วฉวยโอกาสวิ่งหนีออกมาได้ ในขณะที่ท่านข้าราชการซี 10 ผู้นั้นกำลังตกตะลึงด้วยความนึกไม่ถึงว่าเธอจะกล้าโต้ตอบเช่นนั้น ซึ่งอาจเป็นเพราะการที่เธอโตที่เมืองนอกและไม่รู้สึกเกรงกลัวผู้ใหญ่มากเหมือนคนทั่วไป 

การละเมิดทางเพศในที่ทำงานเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานบริษัท ห้างร้าน หน่วยงานราชการต่างๆ หรือ แม้แต่ในโรงเรียน แต่ก็เป็นเรื่องที่สังคมไทยเรามักไม่มีใครพูดถึง คนที่ถูกกระทำก็ไม่กล้าพูด เพราะกลัวความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมาอีก จากการถูกกลั่นแกล้ง แม้แต่เพื่อนร่วมงานก็ไม่กล้าออกมาสนับสนุนให้มีการสอบสวนหรือลงโทษใดๆ เพราะกลัวโดนถูกกลั่นแกล้งด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ที่สามารถให้คุณให้โทษแล้ว ยิ่งน่ากลัวใหญ่ เพราะโดยปกติแล้วไม่มีทางเอาผิดท่านได้เลย ก็ใครเล่าจะไปกล้าฟ้องเจ้านาย และถ้าเป็นคนที่มีตำแหน่งสูง ผู้มีเกียรติที่ได้รับการยกย่องจากสังคมแล้วละก้อ ยิ่งไม่มีใครกล้าแตะต้องเลย นอกจากนี้ สังคมไทยยังชอบที่จะปกปิดเรื่องเหล่านี้มากกว่าจะพยายามเอาผิดกับผู้กระทำผิดเนื่องจากกลัวความเสื่อมเสียต่อองค์กรของตน ดังนั้น แทนที่จะคอยช่วยเหลือและปกป้องคนที่ถูกกระทำ สังคมไทยเรากลับปกป้องคนที่ทำผิด

ผู้ใหญ่รายนี้ก็ยังคงลอยนวล และมีหน้ามีตาอยู่ในสังคมได้ทุกวันนี้ และยังมีรายอีกหลายราย

ในต่างประเทศเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยการออกกฎหมายคุ้มครองผู้ถูกล่วงละเมิด และมีโทษรุนแรงสำหรับผู้ใหญ่ที่เข้าข่าย "สมภารกินไก่วัด" ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในสถานที่ทำงานทุกแห่งว่า การคุกคามทางเพศนั้นเป็นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย - Sexual harassment is a CRIME!

แล้วสังคมบ้านเราละครับ เมื่อไรจะตื่นตัวในเรื่องนี้เสียที ไม่รู้ว่าจะต้องมีผู้น้อยอีกกี่คนที่จะถูกผู้ที่เป็นนายละเมิดทางเพศ ซึ่งมีตั้งแต่ข่มขืน กระทำชำเรา จนไปถึงการกดขี่ กดดัน หรือแม้แต่การพูดจาลวนลาม ก็เป็นการละเมิดทางเพศแล้ว

เมื่อไรเราถึงจะมีกฎหมายที่ให้การคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ และเมื่อไรสังคมจึงจะเลิกซ้ำเติมผู้ถูกกระทำ โดยการปกปิดเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ลองถามตัวคุณเองซิครับว่า ที่ทำงานคุณมีผู้ใหญ่ที่เข้าข่ายนี้หรือไม่

คำสำคัญ (Tags): #eti5301-3#sexual harassment
หมายเลขบันทึก: 235701เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2009 10:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 12:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • ครูอ้อยมาอ่าน ข้อความนี้ ที่โดนใจ ครูอ้อยมาก  ซึ่งบุคคลนั้นไม่ได้ ซี 10 ไม่ได้ลอยนวล แต่เสียชีวิตไปแล้ว.....  อโหสิกรรม
  • แต่...การละเมิดทางเพศ ต่อ ผู้น้อย..ต้องนำมาคิด  ไม่มีการอโหสิกรรม
  • ยังมีหลายคนที่ไม่กล้า ปริปาก  ไม่กล้านำมา..เป็นข้อมูล เอาผิดกับ....ผู้ใหญ่ที่....ไม่มีความคิด.....

อาจารย์สบายดีนะคะ

รักษาสุขภาพนะคะ

สวัสดีค่ะ

น่าจะเล่าต่อว่าหลังจากนั้นเธอโดนอะไรบ้าง

หรือผู้เป็นนายมีปฏิกิริยาอย่างไร

เพราะจะได้เป็นกรณีตัวอย่างให้คนอื่นๆที่โดนด้วย

ว่าควรจัดการกะเจ้านายประเภทนี้ได้อย่างไร

ขอบคุณครับ ครูอ้อยและอาจารย์อนงค์ศิริ

สำหรับเรื่องนี้ เมื่อไม่มีใครยอมช่วยเหลือ ทางเดียวที่เราพอทำได้ก็คือเขียนลงหนังสือพิมพ์ โดยลงใน Postbag ของหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ซึ่งทำให้บางกระทรวงซึ่งอยู่ในข่ายที่ต้องสงสัย (ไม่ต้องการเขียนชื่อกระทรวง เพียงแต่บอกว่าอยู่ใกล้วัดพระแก้ว ซึ่งในขณะนั้นก็มี กระทรวงกลาโหม หมาดไทย ต่างประเทศ และ พาณิชย์) ทำการประชุมเพื่อสอบถามเรื่องที่เป็นข่าว แต่มันก็จบลงในห้องประชุมโดยไม่มีข้อสรุป ไม่มีข้อกล่าวหา เพราะเพื่อนผมก็ไม่กล้าเข้าไปฟ้องเหมือนกัน เนื่องจากถูกทางครอบครัวห้ามไว้

ปัจจุบันผู้ใหญ่ท่านนั้นลาออกจากราชการไปเล่นการเมือง และเพื่อนผมก็ยังรับราชการโดยประจำอยู่ในต่างประเทศ (พูดแค่นี้ก็คงจะเดาออกนะครับว่ากระทรวงไหน)

ที่จริงในเวลาต่อมาผมก็ยังได้เจอเรื่องประเภทนี้ที่หน่วยงานอื่นอีก และก็ลงเอยในแบบเดียวกัน คือฝ่ายผู้เสียหายก็เอาผิดใครไม่ได้ และก็ต้องทำใจแบบไทยๆ ว่า "ฟาดเคราะห์ไป"

พูดไป 2 ไพเบี้ย ระวังจะเสียร่างกายนะ ( หมายถึงชีวิตจ้ะ ) เรื่องแบบนี้พูดลำบาก

ขอบคุณมากนะคะสำหรับบทความนี้เป็นประโยชน์และทำให้เข้าใจถึงการคุกคามทางเพศมากขึ้นค่ะ ที่ทำงานของดิฉันเองก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นค่ะแต่พอดีว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานและพอดีว่าผู้นำองค์กรมีแนวคิดต่อต้านด้านการล่วงละเมิดทางเพศด้วย ดังนั้นคนที่ทำผิดจึงได้รับการลงโทษตามสมควรค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท