แมงกระเจ๊า หรือในแต่ละท้องถิ่นก็อาจเรียกชื่อแตกต่างกันออกไป เช่น ด้วงหมัดผัก, หมัดกระโดด, ด้วงหมัด, ตัวกระเจ๊า ซึ่งล้วนเป็นชนิดเดียวกันกับตัวที่สร้างปัญหาให้แก่ผู้ปลูกผัก โดยเฉพาะผู้ปลูกผักกาดหัว ผักกาดหอม กะหล่ำ และพืชผักอื่นๆ โดยตัวแก่จะวางไข่ที่พื้นดินบริเวณใกล้ ๆ กับต้นพืช ฟักตัวจนเป็นระยะตัวอ่อนเป็นหนอนขนาดเล็กสีขาวใสยาวประมาณ 0.5 มม. จะหาอาหารและกัดกินส่วนต่าง ๆ ของพืชที่อยู่ใต้ดิน เมื่อตัวอ่อนโตเต็มที่จะเข้าดักแด้และเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย ซึ่งเป็นแมลงปีกแข็งขนาดเล็กมีขนาดลำตัวยาว 1.5 มม. มี 2 ชนิด คือ ชนิดมีแถบสีน้ำตาลอ่อนพาด 2 แถว ที่ปีกคู่หลัง และชนิดสีน้ำเงินเข้มทั้งตัว แต่มากกว่า 80% จะเป็นชนิดลาย โบยบินกัดกินและทำลายพืชอีก โดยจะกัดกินใบพืชผักจนเป็นรูพรุน ทำให้เกิดความเสียหาย ราคาตก น้ำหนักลด ขายไม่ได้ราคา ถือได้ว่า แมงกะเจ๊า เป็นศัตรูพืชที่ร้ายกาจอย่างมากสำหรับผู้ประกอบอาชีพปลูกผัก
เกษตรกรบางคนป้องกันโดยวิธีการไปกู้ยืมเงินจาก ธกส. เพื่อมาซื้อมุ้งมากางป้องกัน แต่ก็ไม่ได้ผล กลับทำให้เป็นหนี้เป็นสินเพิ่มขึ้น เพราะไม่สามารถกันด้วงหมัดผักได้ หรือเกษตรกรบางท่านพูดเป็นเชิงติดตลกว่า “มุ้งเนี่ย... กันได้เหมือนกัน แต่กันหมัดกระโดดออกนะ ไม่ใช่กัน หมัดกระโดดเข้า” จึงทำให้การแก้ปัญหาหมัดกระโดดของเกษตรกรที่ผ่านมายังไม่ได้ผลเท่าที่ควร
การไถพรวนและตากดินในช่วงพักการปลูก ก็จะช่วยทำลายตัวอ่อนและดักแด้ของด้วยหมัดกระโดดให้ลดน้อยลงหรือจะกำจัดวัชพืชเพื่อทำลายแหล่งอาหาร หรือสลับสับเปลี่ยนไปปลูกพืชที่ด้วยหมัดกระโดดไม่ชอบสักระยะก็จะเป็นการตัดวงจรช่วยหยุดการระบาดของด้วยหมัดผักได้ดีในระดับหนึ่ง
ปัจจุบันมีรายงานจากเกษตรกรผู้ปลูกผักรอบๆ กรุงเทพฯ แจ้งว่าสามารถใช้ ไพเรียม (สารสกัดจากกระเทียมพริกไท) ร่วมกับ พรีเว้นท์ (น้ำส้มควันไม้) ในอัตรา 10 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นทุก 3 – 7 วัน สามารถที่จะแก้ปัญหาทำให้ด้วงหมัดผักหายสาบสูญไปจากแปลงผักได้หมดสิ้น (คุณอรรนพ ศรีรัตน์ 08-1552-1801 )
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น