ผลงานที่นำเสนอเพื่อขอตำแหน่งวิชาการน่าจะเป็นตัวชี้วัดที่บอกศักยภาพทางวิชาการของตัวบุคคลได้ไม่ใช่น้อย ตัวบุคคลที่มีความเด่นเป็นพิเศษควรได้รับการสนับสนุนพิเศษเพื่อสร้างสรรค์ความเข้มแข็งทางวิชาการของมหาวิทยาลัย ความเห็นแบบ pick the winners และสนับสนุนแตกต่างไปจากคนทั่วไป ตามที่ผมเสนอนี้ จะมีคนไม่เห็นด้วยแค่ไหน ผมอยากฟังความเห็นครับ
ผมเกิดคำถามว่า เรามองผลงานวิชาการที่เจ้าของนำมาเสนอประกอบการขอตำแหน่งวิชาการอย่างไร มันคืออะไร ผมอยากให้มองว่า มันคือทรัพย์สมบัติที่มีค่าของสถาบัน และของสังคมไทย ผลงานที่ดี คือทรัพย์สมบัติที่มีค่า เป็น “ทองแท้” ผลงานด้อยคุณภาพ เป็นทรัพย์อันตราย คนที่ผลิต “ทองแท้” ได้จริงควรถือเป็นบุคลากรที่มีค่ายิ่ง และควรได้รับการสนับสนุนพิเศษให้ทำงานแก่สถาบัน และแก่สังคม วิธีคิดแบบนี้ คือคิดแบบ “ไม่เท่าเทียม” นะครับ และเป็นการคิดแบบสนับสนุนคนมีผลงานดี และไม่สนับสนุนคนมีผลงานด้อยคุณภาพ
วงการมหาวิทยาลัยไทยเรายังด้อยขีดความสามารถในการแยกแยะดังกล่าว และบางกรณีก็ไม่แยกแยะ หรือยิ่งกว่านั้นคือเมื่อแยกแยะแล้วกลับสนับสนุนคนด้อยความสามารถ เพราะใช้แนวคิดว่าคนที่มีความสามารถย่อมช่วยตัวเองได้ ระบบบริหารจึงควรช่วยคนที่อ่อนแอก่อนหรือมากกว่า วิธีคิดเช่นนี้แหละที่ฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการของอุดมศึกษาไทย
ผลงานที่ดี ต้องนำไปสู่การตอบแทนในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ตำแหน่งวิชาการ เงินเพิ่ม และโอกาสได้รับการสนับสนุนทรัพยากรในการทำงาน
มหาวิทยาลัยมีวิธีกรองหาผลงานที่ดีอย่างไรบ้าง คำถามนี้น่าจะนำไปสู่การกำหนดให้อาจารย์แต่ละคนเขียนสรุปผลงานของตนประจำปี เพื่อมหาวิทยาลัยจะนำไปจัดทรัพยากรตอบแทนผลงานเด่น โดยที่คนส่วนใหญ่ต้องได้รับผลประโยชน์จากข้อมูลผลงานนี้ และผมอยากเห็นการพิจารณาตำแหน่งวิชาการจากผลงานนี้โดยที่เจ้าตัวไม่จำเป็นต้อง “ขอ” แต่ถ้ารู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับการดูแล จะขอเองก็ไม่ห้าม
วิจารณ์ พานิช
๑๐ ม.ค. ๕๒
เห็นด้วยที่สุดคะ คุณค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ผลงานดีควรมีรางวัลแห่งความดีคะ