4 วันในแดนเหนือ


มุ่งเหนือดูหมีกินโตก-โบกมือบนพระธาตุ-กราบพระชมดอกไม้-ซื้อของถูกใจกลับปทุม

เมื่อเช้ามืดของวันที่ 3 มกราคม 2552 ได้มีโอกาสพา พ่อ - แม่ และ แฟน ไปเที่ยวเหนือกัน โดยในวันก่อนการเดินทางได้จัดทำโปรแกรม ซึ่งในโปรแกรมการเดินทางเป็นลักษณะกำหนดการ ใส่รายละเอียดเวลา สถานที่ เส้นทาง(เลขที่ทางหลวง) เพื่อความสะดวก ซึ่งเมื่อได้เดินทางจริงพบว่า เป็นการเตรียมการที่ใช้ได้ดี เพราะสามารถกำหนดล่วงหน้าปรับเปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงเมื่อเกิดปัญหาได้อย่างมีทิศทาง ไม่แคว้งคว้างเหมือนที่ผ่านมา ตามกำหนดการวันแรก

02.00 น. เตรียมเนื้อเตรียมตัว

03.00 น. ออกเดินทางจากบ้านที่ คลอง 6รังสิต ปทุมธานี

เอาเข้าจริงตื่นตี 2 ครึ่ง ออกเดินทาง ตี 4 เดินทางผ่าน อยุธยา - อ่างทอง - สิงห์บุรี - ชัยนาท    แวะเติมน้ำมันจุดแรกไป 700 บาท เพราะตอนออกเดินทางมีน้ำมันเกินครึ่งถัง แล้วเดินทางต่อไป ตามกำหนดการถึง พิษณุโลก 07.00 น. แต่ทุกอย่างจากนี้จะเคลื่อนไป 1 ชั่วโมง เลยไปถึง

08.00 น. แวะนมัสการสักการะ พระพุทธชิณราช ที่วัดพระมหาธาตุพิษณุโลก

09.00 น. รับประทานอาหารที่ร้านข้าวแกงริมทาง

10.00 น. เดินทางต่อ

ตามกำหนดจะไปทานกลางวันที่ บริเวณพระธาตุหริภุญชัย ลำพูน แต่หลังกำหนดเคลื่อนต้องแวะกินข้าวที่ตรงข้ามกาดทุ่งเกวียน ลำปาง ประมาณ 14.00 น.แล้วดิ่งตรงไปที่ เชียงใหม่ เพื่อพา พ่อ - แม่ ไปดูหมีแพนด้า

16.00 น. เข้าสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบัน เมื่อเข้าไป จะเสียค่าเข้า ท่านละ 50 บาท ค่ารถยนต์ 50 บาทจะมีที่จอดรถสะดวกสบาย และมีบริการ รถ(กอล์ฟ)รอบสวนสัตว์ คนละ 20 บาท แต่จริงๆแล้วผู้สูงอายุ ไม่เสียค่าเข้าสวนสัตว์ ก่อนจะไปชมรอบๆ ก็พาทุกคนไปชม หมีแพนด้า กันก่อนคนละ 50 บาท ผู้สูงอายุเสียฟรีเพียงโชว์บัตรประชาชน สามารถชมเป็นรอบ ๆ ละ 10 นาที น่าเสียดายว่าเป็นตอนเย็นซึ่งหมีมันคงจะ เหนื่อยในการกินมาทั้งวัน เลยไปเห็นมันนอนกันทั้งสองตัว แถมเจ้าตัวผู้ ถ่ายอุจจาระ ขณะหลับให้ดูอีกด้วย แต่ถึงมันกำลังหลับมันก็น่ารักน่ากอดอยู่ดี ชมเสร็จก็นั่งรถชมรอบสวนฯ เค้าจัดสถานที่ได้ดี เพราะทำเส้นทางไต่ขึ้นไปบนเขาหน้าดอยสุเทพ ขาลงเสียวมากแนะนำให้นั่งข้างคนขับแบบผม เสียวที่สุด

17.30 น. จากที่กำหนดว่าจะไปถนนคนเดินก่อน เลยไม่ได้ไปเพราะ จองไปทานมื้อค่ำที่ ร้านคุ้มขันโตก 18.30 น. ซึ่งนอกจากเป็นการรับประทานอาหารพิ้นเมือง แกงฮังเล แค็ปหมู น้ำพริกหนุ่ม ไก่ทอด ผัดวุ้นเส้นกรอบ กล้วยทอด โดยเสียค่าหัวคนละ 390 บาท  ซึ่งกับข้าวเป็นลักษณะบุฟเฟต์ขอให้พนักงานช่วยเติมได้เรื่อยๆ  ส่วนเครื่องดื่มเค้าให้สั่งเก็บตังค์เพิ่ม แล้วจะมี พนักงานแต่งชุดชาวเขามาขอถ่ายรูปตามวงโตก เพื่อ นำมาขายให้พร้อมกรอบผ้า ชุดละ 100 บาท(อยากได้ก็จ่ายไปก็แล้วกัน)  แต่สิ่งที่มากกว่านั้น คือการชมเรื่องราวการแสดงพร้อม แสง-สี-เสียง ถ่ายทอดผ่านการแสดงหลากหลายชุด ทั้งฟ้อนเล็บ รำพัด รำดาบ เซิ้งอีสาน โน ปิดท้ายด้วยความอบอุ่นโดยนางรำจะชวนแขกร่วมรำวง แต่เราไหวตัวทัน เลยลุกขึ้นแล้วกลับระหว่างที่เค้าเริ่มรำ ออกมาด้านหน้าร้าน จะมีการขายโคมลอย จุดปล่อยได้ ราคาอันละ 100 บาท จากราคาท้องตลาดประมาณ 40 บาท แต่ภาพรวมบอกได้คำเดียว ว่า คุ้ม(ขันโตก)ครับ

21.30 น. เดินทางไปเข้าที่พักบริเวณจากเมืองที่ YMCA เชียงใหม่ พักห้องสูท ราคาเพียง 1,600 บาท เสริมอีก 1 ที่ 200 บาทเท่านั้น แต่ (แฮะๆๆ) มีญาติทำงานที่นั่นเลยเหลือเพียง 1,450 บาทครับ พักก่อนนะครับแล้วจะเล่าให้ฟังต่อ

 

วันที่ (สอง) 4 ม.ค.2552 ตื่นแต่เช้า 7 โมง เตรียมเนื้อเตรียมัว ออกจาก YMCA หาอาหารเช้าทานที่ร้านข้าวแกงเมืองเพชร เยื้องสามแยก ทางเข้าอำเภอดอยเสก็ต อาหารธรรมดาข้าวจานราดด้วยแกง2-3 อย่างก็ได้ แถมน้ำซุบ (บริการตนเอง) มีข้าวขาหมูด้วย รสชาติดีมาก อิ่มหมีพลีมันแล้ว พาทุกคนมุ่งสู่จังหวัดเชียงราย ระยะทางประมาณ 200 กม. พระธาตุดอยเงา เชียงแสน ไปถึงประมาณ 12.30 น. ขึ้นพระธาตุไป ทางคอนข้างชัน สิ่งที่จะได้เห็นนอกจากพระธาตุ สูงสวยเด่นเป็นสง่า เข้าในพระธาตุ ไหว้พระทำบุญ แล้วออกมาด้านหน้าพระธาตุจะได้ชมทัศนียภาพของ 2 ฝั่ง ลาว-ไทย สวยงามมาก และจะยังได้เห็นความสงบเป็นธรรมชาติของทั้ง 2 ฝั่งโดยเฉพาะฝั่งลาว ใช้เวลาชื่นชมความงามสงบแล้ว 

หมายเลขบันทึก: 234156เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2009 17:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท