ผลประโยชน์แห่งชาติ:ทางออกของวิกฤติชาติ
หลายคนมีคำถามว่าทุกวันนี้คนไทยเราได้คำนึงผลประโยชน์แห่งชาติกันมากน้อยเพียงไร จากสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๑ ภาพคนไทยรบกันเอง นับเป็นภาพของคำตอบที่ชัดเจนว่าคนไทยลืมนึกถึงผลประโยชน์ของชาติที่สำคัญที่สุด คือ การอยู่รอดของชาติ เห็นได้จากการแทรกแซงผลประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง มีการชี้นำจากกลุ่มประชาชนในมุมมองของการเอาชนะโดยขาดสติ ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์แห่งชาติโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจซึ่งเสียหายมากกว่าสองแสนล้านบาท ในด้านสังคมจิตวิทยา คนไทยเกิดการแบ่งสีแบ่งพวกกันเองกันอย่างชัดเจน ด้านการเมืองขาดเสถียรภาพรวมทั้งประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อสถาบันทหาร กลุ่มการเมืองเองต่างฝ่ายต่างมองแต่ประโยชน์ของตน และไม่พยายามยอมรับฟังความคิดเห็นจากคนที่มีความเห็นที่แตกต่าง ใช้แนวร่วม ใช้มวลชนและกลุ่มคนมาสนับสนุนแนวความคิดของตนให้เกิดความถูกต้องและขับเคลื่อนเพื่อผลประโยชน์ที่กลุ่มตัวเองต้องการโดยลืมนึกถึงความถูกต้องเหมาะสม คุณธรรมและจริยธรรม แม้ความขัดแย้งจะลุกลามใหญ่โต กลับมองหาผู้ที่จะคำนึงถึงผลเสียหายหรือความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นไม่พบ วันนี้ถ้าคนไทยทุกคนมีความอดทนอดกลั้น รู้จักยอมรับในความแตกต่าง ยอมมองข้ามในบางเรื่องแล้ว สังคมไทยน่าจะมีทิศทางไปในทางที่ดี ความเสียหายของประเทศชาติคงไม่มากมายเท่าวันนี้ อีกทั้งยังจะช่วยให้ยุติความขัดแย้งได้อย่างสมานฉันท์ได้ โดยแนวคิดสมานฉันท์มิใช่การชักชวนผู้ที่ขัดแย้งต่อสู้ใช้ความรุนแรงต่อกันให้มายิ้มแย้มคืนดีกันและหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเอง แต่ต้องเป็นความพยายามแก้ปัญหา โดยมิได้ใช้วิธีความรุนแรงมาแก้ปัญหาความรุนแรง และให้กลับมาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีความสงบสุขให้จงได้ ประเทศไทยของเราจึงจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ คำตอบเดียวในวันนี้ที่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคนคือ “มีสติและการถือเอาผลประโยชน์แห่งชาติที่เป็นตั้ง”
แนวทางในการแก้ปัญหานั้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการสร้างคนรุ่นใหม่ที่เข้มแข็ง คนรุ่นใหม่ที่คิดเป็น ทำเป็น เพื่อมาเป็นกำลังสำคัญในอนาคตสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป โดย
ภาครัฐควรยึดแนวคิดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่พระราชทานโดย ต้อง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ยึดหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการภาครัฐโดย ในส่วนของข้าราชการต้องเข้าถึงประชาชน เข้าถึงรากเหง้าของปัญหาอย่างถ่องแท้ และดำเนินการแก้ไขให้เข้าถึงประเด็นที่สำคัญ รวมทั้งพัฒนาและบูรณาการอย่างต่อเนื่องโดยระเบิดจากข้างในให้สามารถสร้างและพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง นอกจากนี้ยังต้องทุ่มเทและพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อสร้างคนให้มีความรู้คู่คุณธรรม
ในส่วนภาคประชาชนนอกจากต้องยึดแนวคิดรู้รักสามัคคีแล้วยังต้องนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานมาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตซึ่งจะนำมาซึ่งความอยู่ดีมีสุข ด้านศาสนาจำเป็นต้องสอดแทรกการพัฒนาจิตใจตั้งแต่วัยเด็ก ให้สามารถเติบโตและดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง บนพื้นฐานการมี ไตรสิกขา อันได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา และยึดมั่นในศาสนา พัฒนาให้เกิดทรัพยากรมนุษย์ของชาติที่เพียบพร้อมด้วยความรู้ควบคู่คุณธรรมและเป็นคนดีของประเทศชาติต่อไป
มีท่านหนึ่งเคยเขียนผ่าน Blog ของดิฉันว่า อยากเห็นความสามัคคีของคนไทย ดิฉันคิดว่าความสามัคคีของคนไทยจะเกิดขึ้นได้ ปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญคือ การคำนึงถึงผลประโยชน์แห่งชาติเป็นที่ตั้ง ไม่ทราบว่าท่านเห็นด้วยกับดิฉันหรือไม่คะ
...................
คนึงนิจ อนุโรจน์
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น