แม้พระกุมารกัสสปจะยกพระจันทร์และพระอาทิตย์มาหักล้างความคิดเห็นเบื้องต้นของเจ้าปายาสิแล้ว แต่เจ้าปายาสิก็ยังไม่เปลี่ยนความเชื่อ โดยตรัสข้อพิสูจน์เบื้องต้นทำนองว่า...
- ข้าแต่ท่านกัสสป ! ญาติสนิทมิตรสหายของเกล้าฯ ในโลกนี้ บางพวกเป็นคนฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มากไปด้วยความเพ่งเล็ง คิดปองร้าย มีความเห็นผิด... เมื่อคนเหล่านั้นป่วยหนัก และเกล้าคิดว่าพวกเขาจะไม่รอดแน่นอน จึงได้พูดกับพวกเขาว่า...
- ท่านทั้งหลาย สมณพราหมณ์บางพวกชอบสอนว่า คนที่ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มากไปด้วยความเพ่งเล็ง คิดปองร้ายผู้อื่น มีความเห็นผิด เมื่อกายแตกตายไปแล้วต้องเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก... ก็พวกท่านเป็นคนทำนองนี้ ดังนั้น ถ้าพวกท่านตายแล้วไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต หรือนรก ก็ให้กลับมาบอกเรา เผื่อว่าเราจะได้เชื่อว่า โลกหน้ามีอยู่ สัตว์ผุดเกิดมีอยู่ และผลกรรมดีชั่วก็มีอยู่...
- ข้าแต่ท่านกัสสป ! คนเหล่านั้นรับคำของเกล้าแล้ว ยังไม่เคยมีใครกลับมาบอก จะส่งข่าวฝากใครมาบอกแทนก็ยังไม่เคยมี ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเชื่อว่า โลกหน้าไม่มี สัตว์ผุดเกิดไม่มี ผลกรรมดีชั่วก็ไม่มี
สรุปว่า เจ้าปายาสิเคยตรัสสั่งพวกที่ทำชั่วแล้วใกล้ตายว่าให้กลับมาบอก แต่คนเหล่านั้นก็ไม่เคยมีใครกลับมาบอก แม้แต่ส่งข่าวมาก็ยังไม่มี...
พระกุมารกัสสปจึงได้ยกเรื่องราวเปรียบเทียบเพื่อหักหล้างความเห็นนี้ทำนองว่า...
- ดูกรบพิตร ! ถ้าเช่นนั้น อาตมาจะย้อนถามเรื่องนี้ สมมุติว่า เจ้าพนักงานจับโจรชั่วร้ายมาแล้วทูลถามพระองค์ว่าจะลงโทษอย่างไร ? พระองค์จึงตรัสว่า ให้ใช้เชือกเหนียวมัดมือไพล่หลัง แล้วก็จับมันโกนศรีษะ พาเที่ยวตระเวนประกาศไปทั่วเมือง แล้วก็จงออกไปทางประตูทิศใต้ ตัดศรีษะมันที่ตะแลงแกง... เจ้าพนักงานก็ได้กระทำตามรับสั่ง
- ดูกรบพิตร ! ก่อนที่เพชฌฆาตจะบั่นศรีษะของมัน โจรขอร้องผ่อนผันว่า อย่าเพิ่งฆ่าข้าพเจ้าเลย ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปบอกลาบรรดาญาติสนิทมิตรสหายที่บ้านก่อนแล้วค่อยกลับมา... หรือว่านายเพชฌฆาตจะพึงตัดศรีษะของมันอย่างทันที
เจ้าปายาสิตรัสว่า...
- ไม่อาจผ่อนผันได้ เพชฌฆาตย่อมตัดศรีษะของมันในขณะที่มันกำลังร้องขอผ่อนผันอยู่นั่นแล
พระกุมารกัสสปจึงนำเรื่องนี้มาเทียบเคียงทำนองว่า...
- โจรนั้นมิอาจต่อรองผ่อนผันในขณะที่จะถูกตัดหัวได้ฉันใด พวกที่ทำกรรมชั่วแล้วไปเกิดในนรกนั้น ก็ไม่อาจจะร้องขอเพื่อจะกลับมาบอกพระองค์ได้ฉันนั้น...
- แม้เพราะเหตุนี้ โลกหน้าจึงมีอยู่ สัตว์ผุดเกิดจึงมีอยู่ ผลกรรมดีชั่วจึงมีอยู่
สรุปว่า พระเถระเปรียบเทียบว่า บรรดาญาติสนิทมิตรสหายของเจ้าปายาสิ ที่ทำชั่วแล้วตายไป ไม่ได้กลับมาบอกหรือส่งข่าวมาบอกตามที่เจ้าปายาสิรับสั่งนั้น ทำนองเดียวกับนักโทษที่กำลังถูกประหารไม่อาจขออนุญาตเพื่อกลับมาบอกลาญาติพี่น้องได้...
อย่างไรก็ตาม เจ้าปายาสิยังไม่ถอนความเชื่อความเห็นเรื่องนี้ จึงได้ยกประเด็นต่อไปที่ท้าวเธอเคยพิสูจน์มาแล้ว ซึ่งผู้เขียนค่อยนำมาเล่าในตอนต่อไป...