กรมบัญชีกลางเอาจริง แจ้งจับผู้กระทำผิดทุจริตเบิกค่ารักษา


แนวทางการแก้ไขที่เกี่ยวข้องกับงานสวัสดิการการรักษาพยาบาลข้าราชการ

กรมบัญชีกลางรายงานให้คณะกรรมมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ทราบว่ามีผู้ทุจริตเวียนเทียนขอรับยา จะดำเนินการตามกฎหมายเข้มงวด เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลของรัฐ

            นายมนัส แจ่มเวหา รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า วันนี้ (17 ธ.ค.) คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โดยการนำของนายเจตน์  ศิรธรานนท์
รองประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา พร้อมคณะอนุกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการบริหารงบประมาณด้านสาธารณสุข  ได้เดินทางมาพบอธิบดีกรมบัญชีกลาง (นายปิยพันธุ์  นิมมานเหมินท์)  และผู้บริหารระดับสูง เพื่อมาเยี่ยมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านการบริหารงบประมาณ ปัญหา และแนวทาง
การแก้ไขที่เกี่ยวข้องกับงานสวัสดิการการรักษาพยาบาลข้าราชการ เมื่อเวลา 13.00 น. ภายหลังการหารือกัน

            นายมนัส  แจ่มเวหา  เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกันหลายเรื่อง  เรื่องที่สำคัญคือ การควบคุมงบประมาณไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นมาก  ปีที่แล้ว กรมบัญชีกลางได้เบิกจ่ายเงินงบกลางเป็นค่ารักษาพยาบาลสำหรับข้าราชการ ลูกจ้างประจำ  ผู้รับบำนาญ  และบุคคลในครอบครัว รวม 5 ล้านคน  ใช้งบประมาณ 54,904 ล้านบาท  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ได้ขอตั้งงบประมาณ 63,000 ล้านบาท  แต่สภาปรับลดลงเหลือ 48,500 ล้านบาทเท่านั้น  น้อยกว่างบประมาณที่จ่ายจริงเมื่อปีที่แล้วเสียอีก   ในขณะที่มีการเรียกร้องให้ปรับเพิ่มสิทธิต่างๆ  ดังนั้น กรมบัญชีกลางจึงมีแนวคิดที่จะควบคุม อุดรูรั่วไหลต่างๆ  เพื่อนำเงินที่ประหยัดได้มาเพิ่มเติมสิทธิ

            กรมบัญชีกลางได้จ้างสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข เพื่อทำการตรวจสอบเวชระเบียนของสถานพยาบาลต่างๆ มา 3-4 ปีแล้ว  ขณะนี้พบว่า มีการเบิกจ่ายเงินสูงผิดปกติมา 3-4 ปีแล้ว  จึงได้ตรวจสอบโดยละเอียด พบว่า ขณะนี้มีข้าราชการ ผู้รับบำนาญ รวม 8 ราย  เข้าข่ายทุจริตโดยเวียนไปขอรับยาจากโรงพยาบาล 3-4 แห่ง  รับยามาเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่จะรับประทานได้  น่าสงสัยว่าจะนำไปขายต่อ ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ประชุมหารือกับโรงพยาบาลที่บุคคลเหล่านั้นไปรับยา จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีอาญาฐานฉ้อโกง และเรียกให้ชดใช้เงินคืน  โดยกรมบัญชีกลางจะแจ้งความร่วมกับโรงพยาบาล ณ สถานีตำรวจฯ ท้องที่ที่โรงพยาบาลตั้งอยู่ ขณะนี้อยู่ระหว่าง
การมอบอำนาจจากผู้มีอำนาจของสถานพยาบาล

            นายมนัสกล่าวเพิ่มเติมว่า หากผลการสอบสวนของตำรวจพบว่าเข้าข่าย หรือเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล
มีส่วนร่วมเกี่ยวข้องด้วย  รวมถึงร้านขายยาที่รับซื้อยาก็ต้องรับผิดตามกฎหมายด้วยเช่นกัน

 

หมายเลขบันทึก: 231215เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2008 14:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 12:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท