การ กลับเข้ามาตรวจสอบในมิติแห่งความสัมพันธ์มากขึ้น น้อยคนที่จะเพิกเฉยต่อความซับซ้อนของความสัมพันธ์ ซึ่งจะนำไปสู่ผลสำเร็จของผู้นำได้ ในทางกลับกันมีการศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องการเป็นหุ้นส่วน การเป็นผู้ตาม การสร้างเสริมพลัง การทำงานเป็นกลุ่มเครือข่าย และบทบาทขององค์กร ศิลธรรมและจริยธรรมกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสัมพันธ์ในองค์กรทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อผู้ถือหุ้น และต่อชุมชน
ในระดับความสัมพันธ์ส่วนบุคคลนั้น มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์กันมากในส่วนลึกของเราเกี่ยวกับจิตวิญญาณ จิตใจ ความมุ่งหวังในชีวิต นักนิเวศวิทยาให้ความสนใจความสัมพันธ์ที่มีอยู่ทั่วไป ไม่เฉพาะความสัมพันธ์ที่เกิดระหว่างพวกเรากับสิ่งมีชีวิตทั้งมวลในสิ่งแวด ลล้อมเท่านั้น แต่ยังสนใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรากับลูกหลานในอนาคตด้วย หากแม้ว่าฟิสิกส์ปัจจุบันแสดงความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่ สุด ดังนั้นก็ไม่แปลกที่เราจะเริ่มต้นใหม่ในเรื่องหลักๆ โดยเชื่อมโยงในความสัมพันธ์ให้มากขึ้น
ทฤษฎีแรงจูงใจได้เปลี่ยนความสนใจจากการให้รางวัลจากภายนอก มาเป็นการให้รู้คุณค่าของสิ่งเร้าจากภายในซึ่งมีพลังมากกว่า ชีวิตในองค์กรของเรานั้นกำลังเปลี่ยนจุดมุ่งเน้นไปที่ความปรารถนาอย่างสูง ส่งที่มีต่อชุมชน เมื่อเราละทิ้งรูปแบบองค์กรแบบแยกส่วน รวมทั้งการมองพนักงานว่าเป็นเพียงชิ้นส่วนของเครื่องจักรในการผลิตเมื่อ ชำรุดก็อาจหามาทดแทนได้ แล้วเราจะเริ่มเห็นตัวเองในมุมมองที่หลากหลาย พึงพอใจกับองค์รวม และมีความหวังว่าจะจัดแผนผังองค์กรที่ให้ความสำคัญและใช้คุณค่าของความเป็น มนุษย์ของเรา
โครงสร้างองค์กรแบบอินทรีย์ องค์กรที่ไร้ขอบเขตหรือไร้ตะเข็บ การยอมรับองค์กรในรูปแบบที่เป็นองค์รวม ตีความองค์กรในฐานะที่เป็น “องค์กรแห่งการเรียนรู้” หรือในฐานะของ”องค์อินทรีย์” ที่ยอมรับว่าองค์กรเป็นระบบที่มีชีวิต ที่ต้องการมีความสามารถในการปรับตัว และการเจริญเติบโตอันเป็นพื้นฐานทั่วไปของสิ่งมีชีวิต
โครงสร้างองค์กรแบบอินทรีย์ ...ดีจริงๆเลยนะกั๊บ
เป็นบทความที่ดีมากคะ