นอกเหนือจากการพูดถึงกติกาทั่วไปในการทำงานเป็นทีมโดยหลักการบริหารจัดการ ทั่วไปแล้ว ก็ได้หยิบยกประเด็นของการฝึกให้ทุกคนมีความสุขแบบทันทีทันใด โดยใช้แนวประยุกต์ของจิตวิทยาทางบวก (Positive Psychology) ที่ถือว่าสำคัญมาก
ถ้าพนักงานทุกคนมีความสุข หรือสามารถสร้างความรู้สึกสุขได้ทันที เขาจะพอใจชีวิต และช่วยทำให้คนอื่นและเพื่อนร่วมงานมีความสุขได้ด้วย ทำให้เกิดการเอื้ออาทร ช่วยเหลือร่วมมือซึ่งกันและกัน ทำให้งานขององค์กรประสบความสำเร็จได้ด้วยดี โดยทุกคนไม่ต้องถกเถียง เกี่ยงงาน หรือก้าวร้าวเข้าหากัน
แนว คิดนี้ต้องอาศัยความเชื่อที่ว่า มนุษย์มีจุดแข็งที่ดี ๆ หรือจุดบวก (+) บางอย่างในตัวอยู่แล้ว เช่น ความรัก ความเมตตา ความอ่อนโยน อารมณ์ขัน ความคิดริเริ่ม ให้ค้นหาให้พบและให้บ่มเพาะจุดแข็งเหล่านี้ให้เติบโตและแตกแขนงได้มากขึ้น
เขาจะเริ่มมีความสุขและประสานความสุขกับคนรอบ ๆ ข้าง รอบ ๆ ตัวมากขึ้น เข้าข่ายที่เรียกว่า “พากันสุข” เขาจะมองตัวเองดี มองคนอื่นดี อยากทำความดี และพัฒนาตัวเองจากบวก (+) น้อย ๆ ไปสู่บวก (+) มากขึ้น ๆ
แต่ถ้าเราใช้ความคิดแบบเก่าโดยใช้จุดอ่อนหรือจุดลบ (-) ของมนุษย์มาเป็นตัวเริ่มต้น เช่น มนุษย์มีความเห็นแก่ตัว ก้าวร้าว เอาแต่ได้ อ่อนแอ เขาก็จะมองตัวเองและมองคนอื่นรอบตัวด้วยแนวคิดที่เป็นจุดอ่อนหรือจุดลบ (-) ตลอดไป กว่าจะพัฒนาจากลบให้เป็นศูนย์ (0) หรือบวก (+) ทำได้ยากมาก
เขาจะมองตัวเองในแง่ไม่ดี ต่ำต้อย และมองคนอื่นแบบไม่ไว้ใจ ระแวง เพราะคิดว่าคนอื่นก็มีจุดลบ (-) หรือไม่ดีอยู่มาก
การอยู่ในสังคมหรือการทำงานร่วมกันจึงเต็มไปด้วยอุปสรรค เพราะมาจากคนทุกคนมองตัวเองไม่ดี (โดยจับผิดและเชื่อว่าทุกคนมีจุดอ่อนอยู่มากนั่นเอง)
ที่จริงมนุษย์เรามีทั้งจุดแข็ง (+) และจุดอ่อน (-) อยู่ที่เราจะนำจุดไหนมาเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตเพื่อให้พัฒนาต่อไป
แนวคิดจิตวิทยาทางบวก (+) นี้ เพิ่งเริ่มฮิตมาไม่นาน มีคนศึกษาและนำมาใช้กันมากขึ้น
ถ้าเราเชื่อในสิ่งที่ดีมีคุณประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมโดยไม่ผิดกฎหมายและ ศีลธรรมแล้ว เราควร “เชื่อ” ให้มาก ๆ เข้าไว้ เช่นแนวคิดจิตวิทยาทางบวก (+) นี้
เพราะชีวิตจริง ๆ ของเราดำเนินไปแต่ละวันนี้เป็นไปตามความเชื่อนี่แหละ
ด้วยความจริงแนวบวก (+) ทำให้เรามองข้ามการจับผิดมนุษย์แบบการคิดเชิงจิตวิเคราะห์อย่างเดิม ๆ หรือความเชื่อเกี่ยวกับการที่มนุษย์มีบาปดั้งเดิมติดตัวมา
หัน มามองแนวทางพัฒนาจุดแข็งจุดบวก (+) ของตัวเองที่มีอยู่แล้วทุกคนให้เติบโตมากขึ้น เพื่อนำพาไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น รู้จักและตระหนักตัวเองมากขึ้นในแง่ดี มีเป้าหมายชีวิตที่สร้างสรรค์เพื่อส่วนรวม เพื่อเกิดความปลื้มปิติ และรู้จักใช้เวลาในชีวิตที่เหลือเพื่อทำสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบและสร้างสรรค์ ไม่ใช่ทำเพราะต้องการเงินหรือเป็นหน้าที่
คงต้องถมหลุมดำในใจให้เต็มก่อนครับ
การทำงานเป็นทีมโดยใช้จิตวิทยาทางบวกถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
เป็นบทความที่ดีมากค่ะ