เตือนเพื่อนๆ
ภัยร้ายบนอินเตอร์เน็ต
จากรายงานมัลแวร์และสแปมที่พบมากที่สุดในเมืองไทย 9 อันดับแรก ระหว่างวันที่ 15 ส.ค.-15 ก.ย. 51 จัดทำโดยศูนย์วิจัยเทรนด์แล็ปส์ พบว่า อันดับ 1 คือ MAL OTORUN1 พบไฟล์ที่ติดเชื้อจำนวน 41,014 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 21,386 เครื่อง อันดับ 2 คือ WORM YAHLOVER.AZ พบจำนวนไฟล์ติดเชื้อ 24,204 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 24,129 เครื่อง
อันดับ 3 คือ POSSIBLE MLWR-5 พบจำนวนไฟล์ที่ติดเชื้อ 15,859 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 15,852 เครื่อง อันดับ 4 คือ TROJ EXCHANGER.U พบจำนวนไฟล์ที่ติดเชื้อ 10,466 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 10,458 เครื่อง อันดับ 5 คือ CRYP UPACK พบจำนวนไฟล์ที่ติดเชื้อ 9,750 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 6,827 เครื่อง
อันดับ 6 คือ PE SALITY.EN-1 พบจำนวนไฟล์ที่ติดเชื้อ 7,785 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 1,629 เครื่อง อันดับ 7 คือ WORM YAHLOVER.ALพบจำนวนไฟล์ที่ติดเชื้อ 7,601 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 7,161 เครื่อง
อันดับ 8 คือ VBS SOLOW.C พบจำนวนไฟล์ที่ติดเชื้อ 5,313 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 5,306 เครื่อง อันดับ 9 คือ VBS AGENT.AXUZ พบจำนวนไฟล์ที่ติดเชื้อ 2,669 ไฟล์ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดเชื้อนี้ประมาณ 2,174 เครื่อง
สำหรับวิธีรับมือกับภัยคุกคามสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้สำหรับผู้ใช้งานในองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ควรหมั่นใช้ระบบสแกนหาไวรัสทางอินเตอร์เน็ตให้เหมือนกันกับระบบสแกนอีเมลที่มีใช้กันมานานแล้ว
ใช้ระบบสแกนสปายแวร์สำหรับองค์กร
ปิดกั้นการเข้าถึงเครือข่ายองค์กรของโปรโตคอลที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะโปรแกรมสนทนาออนไลน์ทั้งหลาย,ใช้ซอฟต์แวร์สแกนช่องโหว่ในเครือข่าย และอย่าให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ใช้งานในองค์กร,ผู้ดูแลระบบไอทีจะต้องให้ความรู้กับพนักงานหรือผู้ใช้งานในองค์กร โดยกำหนดนโยบายการใช้งานเครือข่ายองค์กรให้ชัดเจน
ในส่วนของผู้ใช้งานตามบ้าน(โฮมยูส)นั้น ต้องระวังการคลิกชมเว็บไซต์ที่ไม่รู้จักที่มีข้อแม้ให้คุณต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ และอย่าติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่จากเว็บไซต์ แปลกหน้า นอกจากคุณจะมั่นใจว่าเว็บไซต์หรือเจ้าของซอฟต์แวร์นั้นน่าเชื่อถือ
จริง
ควรสแกนโปรแกรมที่ดาวน์โหลดทางอินเตอร์เน็ตด้วยซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์ และไวรัสที่ไดรับการอัพเดตแล้ว,และระวังอีเมล หน้าตาแปลกๆ อย่าเปิดไฟล์แนบท้าย หรือคลิกลิงค์ที่มาพร้อมกับอีเมล ไม่น่าไว้ใจ และควรใช้บริการสแกนไวรัสแบบเวลาจริง(เรียลไทม์)เพื่อช่วยให้การท่องโลกออนไลน์ปลอดภัยไร้กังวล
ขณะเดียวกันสำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า บริษัทด้านความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ต แมคอาฟีเผยผลทดลองการท่องอินเตอร์เน็ตโดยไร้โปรแกรมป้องกันภัยคุกคาม อาจส่งผลให้ผู้ใช้ได้รับสแปมเฉลี่ยสูงถึง 70 ข้อความต่อวัน
การทดลองดังกล่าว แมคอาฟี ได้เชิญผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากทั่วโลก 50 คน ซึ่งจำนวนนี้เป็นผู้ใช้ในอังกฤษ 5 คน ให้ทดลองใช้อินเตอร์เน็ตโดยไม่มีโปรแกรมกรองสแปม
ผลทดลองพบว่า ผู้ใช้ในอังกฤษตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอีเมล จากไนจีเรีย และสแปมเมลจากเวบไซต์ที่เจาะกลุ่มผู้ใหญ่ โดย 1 ในกลุ่มทดลองจากอังกฤษ ได้รับสแปม สูงถึง 5,414 ฉบับ ตลอดระยะเวลาทดลอง 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ยังคงครองตำแหน่งกลุ่มที่ได้รับสแปมสูงที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 23,233 ฉบับ ระหว่างการทดลอง ตามมาด้วยบราซิล จำนวน 15,856 ฉบับ ผลการทดลองระบุว่า ผู้เข้าร่วมทดลองจากอังกฤษ 5 รายได้รับข้อความขยะรวม 11,965 ฉบับ ขณะที่เยอรมนี เป็นประเทศที่ได้รับข้อความขยะน้อยที่สุด 2,331 ข้อความ อย่างไรก็ตาม เป็นการบ่งชี้ว่าแนวโน้มสแปมเมลไม่ได้ลดลงเลย
นายกาย โรเบิร์ตส์ ผู้อำนวยการห้องทดลองของแมคอาฟีในยุโรป กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมทดลองส่วนใหญ่สังเกตพบว่า เครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานช้าลง ซึ่งหมายความว่าขณะที่ใช้งานอินเตอร์เน็ต พวกเขาถูกติดตั้งโปรแกรมไม่ประสงค์ดี(มัลแวร์)ลงในเครื่องโดยไม่รู้ตัว
ขณะที่ 8% ของสแปมที่ได้รับทั้งหมดจัดอยู่ในกลุ่มฟิชชิ่ง(อีเมลหลอกลวง)โดยเป็นข้อ
ความที่อ้างแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ข้อมูลสำคัญเช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และรายละเอียดบัญชีธนาคาร
นอกจากนี้ แมคอาฟี ยังพบว่า แนวโน้มของสแปมจะเน้นปฏิบัติการในกลุ่มเป้าหมายชัดเจนมากกว่าการปล่อยสแปมไปทั่วอย่างในอดีต โดยหัวข้อยอดนิยมยังคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเงิน ทั้งการอนุมัติเงินกู้ และบัตรเครดิตล่วงหน้า
สแปมเป็นยิ่งกว่าสิ่งที่ก่อความรำคาญ แต่ถือเป็นภัยคุกคามของจริงที่เติบโตเร็วมาก
จาก http://www.siamrath.co.th/UIFont/Articledetail.aspx?nid=1658&acid=1658
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น