ระบบการชลประทานในประเทศไทยยังไม่ดีพอ เพราะยังไม่สามารถที่จะดูแลช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทั่วถึง ทำให้ประเทศไทยมักจะมีปัญหาในเรื่องของน้ำอยู่เสมอ ๆ ไม่ว่าน้ำจะมาก หรือน้ำจะน้อยพี่ไทยมักจะเดือดร้อนกันทุกครั้งไป
ดังนั้น เกษตรกรควรเตรียมตัวและวางแผนในเรื่องของการดูแลการให้น้ำแก่พืชผักไม้ผลที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนแหล่งน้ำให้ดี โดยเฉพาะเขตที่ไม่ได้อยู่ในระบบชลประทานหรืออาจจะอยู่แต่ก็มีเพียงคูคลองเพียงอย่างเดียวแต่ไม่เคยมีสายน้ำได้ไหลผ่านมา ถ้าดูแลและเตรียมการไว้ล่วงหน้าก็จะช่วยทำให้มีความสามารถที่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที ทั้งนี้เพื่อไม่ให้พืชผักผลไม้ของเกษตรล้มตายอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการขาดแคลนน้ำลงไปต่อหน้าต่อตา
วิธีการแก้ไขในปัจจุบันทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษได้แนะนำและส่งเสริมให้ใช้ สารอุ้มน้ำ โพลิเมอร์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของโพลิเอคริลามายด์ ประกอบไปด้วยอนุพันธ์ของคาร์โบฮัยเดรทที่ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่บีบอัดทับซ้อนให้แน่นกันหลายๆ ชั้น ทำให้มีคุณสมบัติในการดูด ซึมซับน้ำได้ดีและสามารถพองและขยายตัวได้มากถึง 200 ถึง 300 ร้อยเท่า (ขึ้นอยู่กับสภาพและค่าความเป็นกรดด่างของน้ำ) ทำให้มีความเหมาะสมในการนำมาใช้รองก้นหลุมปลูกไม้ป่า ไม้ยืนต้น ปาล์ม ยางพารา ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ต้นกล้ามีโอกาสรอดสูง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อต้นพันธุ์มาปลูกซ่อมแซมใหม่
สำหรับต้นไม้ที่ปลูกไปแล้วและอาจจะอยู่ในช่วงที่กำลังขาดแคลนน้ำพอดีก็สามารถที่จะใช้ได้ โดยการขุดหลุมขนาดความลึกเท่ากับขนาดของปี๊ปไว้ด้านข้างทั้งสองด้าน (จะใหญ่หรือลึกกว่านี้ก็ให้พิจารณาจากขนาดของลำต้นและทรงพุ่ม) หลังจากนั้นนำโพลิเมอร์ที่แช่น้ำจนพองตัวดีแล้วมาเทใส่และกลบฝังให้เรียบร้อย จะช่วยให้พืชมีน้ำไว้ใช้ได้ตลอดสามถึงหกเดือนโดยไม่ต้องรดน้ำทุกวัน
มนตรี บุญจรัส
ไม่มีความเห็น