ข่าวเลิกตามซื้อเทคโนโลยีสะท้อนภาพบ้านเรา

พอดีได้อ่านเรื่อง "ผู้บริโภคอเมริกันเลิกไล่ตามซื้อเทคโนโลยี" จาก http://www.blognone.com/node/9725 เห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาฝากกันครับ

เป็นเรื่องน่าคิดเหมือนกันนะครับ เมื่อผู้บริโภคในประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกประเทศหนึ่ง ดังเช่น สหรัฐอเมริกา (ถึงแม้ในปัจจุบันต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ) เริ่มแสดงบทบาทที่จะไม่ตามติดเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำออกมาล่อใจ และต้องควักเงินซื้อทุกๆอย่างที่มีการพัฒนาและผลิตออกมาจำหน่ายจากกลุ่มทุน เพียงไม่กี่กลุ่ม

รายงานจากกลุ่มบริษัท เอ็นดีพี (NDP Group) ระบุว่า บรรดาผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริโภคเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วยการตัดค่าใช้จ่ายเริ่มตั้งแต่วันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้ โดยจะลดการซื้อของขวัญยอดนิยมต่างๆ ที่เคยมียอดการซื้อเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา เช่น เครื่องรับโทรทัศน์จอแบน คอมพิวเตอร์ (ทั้ง desktop และ notebook) เครื่องเล่น MP3 กล้องถ่ายภาพดิจิตอล อุปกรณ์นำทาง (GPS) และกรอบภาพดิจิทัล หรือแม้แต่เครื่องโทรศัพท์มือถือ

รายงานกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ก่อนหน้านี้ผู้บริโภคเคยวางแผนเตรียมซื้อของขวัญที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ดัง เช่นที่เคยทำกัน พบว่าจำนวนกว่า 54% ของผู้บริโภคที่ยังคิดว่าจะออกมาซื้อตามที่ตั้งใจไว้ ทว่าจะเลือกซื้อสินค้าเฉพาะบางอย่างเท่านั้น มิได้เลือกซื้อทุกๆ อย่างที่จะมีการลดราคาในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆ

นอกจากนั้นผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยเปลี่ยนใจที่จะซื้อสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น มีผู้บริโภค 23% ที่กำลังจะซื้อโทรทัศน์จอแบน ขนาด 40 นิ้วขึ้นไป เครื่องใหม่ พบว่ามีจำนวนมากกว่า 33% เปลี่ยนใจไม่ซื้อเครื่องใหม่แล้วเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย และอีกตัวอย่างหนึ่งคือ มีผู้บริโภคประมาณ 12% เตรียมซื้อกล้อง DSLR ใหม่ ปรากฏว่าขณะนี้มีจำนวนกว่า 25% ของผู้บริโภคดังกล่าวอาจไม่ควักกระเป๋าซื้อกล้องถ่ายภาพชั้นดีหรือรุ่นใหม่ๆ อีกต่อไปแล้วในช่วงนี้

ทีแรกผมก็เข้าใจว่า คนอเมริกันเบื่อตามเทคโนโลยีเพราะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ที่ไหนได้เพราะพิษเศรษฐกิจรุมเร้านั่นเอง แต่ก็ดีนะครับยังไงเค้าก็ได้เก็บเงินจากการใช้จ่ายไปกับเทคโนโลยีที่เกินความจำเป็น แล้วไปใช้จ่ายเรื่องอื่นแทน ย้อนกลับมามองประเทศไทยตอนนี้แล้วเศร้าครับ ทั้งโลกเค้ากำลังประสบกับวิกฤตทางการเงิน และพยายามเก็บเงิน ถนอมเงินไว้ใช้ที่จำเป็น วัยรุ่นเราตรงข้ามเอาเงินไปซื้อมือถือ ผู้ใหญ่หน่อยก็ตีกันเพราะเงิน ไม่รู้รักสามัคคี แทนที่แต่ละคนจะไปทำหน้าที่ของตนให้ดี อาจารย์ไม่เป็นอาจารย์ หมอไม่เป็นหมอ วิศวกรไม่เป็นวิศวกร (มีก็แต่นักการเมืองที่ยังเป็นนักการเมือง) ผมเศร้าใจกับ MSN ของเพื่อนคนหนึ่งที่ขึ้นไว้ว่า "เผาบ้านไล่โจร - แผนการฉลาดๆ จากยามฯโง่ๆ" มันสะท้อนให้เห็นถึงภาพอะไรบางอย่าง ทิศทางของเศรษฐกิจและสังคมไทยจะเป็นเช่นไร คนไทยจะช่วยกันสร้างหรือช่วยกันทำลายต่อไป แล้วคุณหละคิดอย่างไร How do u think?