สิบวันกับการเดินทางครั้งล่าสุด : OSCC ที่พึ่งของคนเชียงราย


OSCC ที่พึ่งของคนเชียงราย

 

            เช้าวันนี้ผมต้องทำงานจริงๆเสียทีครับ เรามีนัดที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ในเวลา 9 โมงเช้า อากาศดีครับ ไม่หนาวจนเกินไป

 

            ท่าทางครอบครัวผมจะเป็นครอบครัวตัวร้อน เพราะว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เราก็มาที่นี่ ตอนนั้นต้องเตรียมเสื้อหนาวมามากมาย พยากรณ์อากาศบอกว่า หนาวม๊ากมาก แต่ไฉนเมื่อเราสวมเสื้อหนาวแล้วออกอาการเหงื่อออก เขาก็บอกว่า มันเพิ่งอุ่นมาได้วันสองวันนี้นี่เอง และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อวันจันทร์ก่อนเดินทาง ก็ทราบมาว่า อุณหภูมิบนยอดดอยอินทนนท์อยู่ที่ -1 องศาเซลเซียส แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกว่าเหงื่อออกได้ เขาก็บอกว่า อากาศเพิ่งอุ่นเมื่อไม่กี่วันมานี้นี่เองคร๊าบ

 

            พี่พิษณุออกมาต้อนรับทีมของผม เราใช้เวลาแนะนำตัวกันอยู่นานครับ เพราะทีมของ OSCC ที่นี่เขามากันหลายคน นั่นน่าจะเป็น key success factors อันหนึ่งเพราะทีมเขาประกอบด้วยหลายคน หลายแขนงสหวิชาชีพ NGO ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเกื้อหนุนสู่ความสำเร็จ พี่พิษณุได้อธิบายถึงที่มาของการให้บริการ ปัญหาอุปสรรคต่างๆนานา ผมพอจะสรุปคร่าวได้ดังนี้ครับ

-          เขาเริ่มเปิดการบริการตั้งแต่ปี 2540 แต่มาเปิดศูนย์จริงๆได้ก็เมื่อปี 2543 ทั้งนี้ก็เพราะหลายปัจจัย เงินก็ส่วนหนึ่ง การเห็นความสำคัญของผู้บริหารระดับสูงก็อีกหนึ่ง

-          พยาบาลเป็นคนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะเขาเป็นผู้ดูแลคนไข้ครับ นึกถึงตอนนี้ก็เจ็บใจหน่อยๆ ที่เราสามารถพาพยาบาลมาได้แค่ 2 คน ที่นี่พยาบาลแทบทุก ward เป็นคนร่วมงานครับ ไม่ว่าจะเป็น ศัลยกรรมหญิง ศัลยกรรมประสาท (เพราะบางคนถูกทำร้ายร่างกาย บาดเจ็บทั้งทางกายและสมอง) นรีเวช หลังคลอด และห้องฉุกเฉิน

-          มีเจ้าหน้าที่จากสหประชาติมาช่วยดูแลเรื่องแรงงานข้ามชาติ และเป็นแหล่งเงินทุน

-          เขามีเจ้าหน้าที่แผนกดูแลสิทธิสตรีโดยเฉพาะ

-          One stop service เป็นเรื่องที่ต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ ผู้เสียหายไม่ควรต้องเดินไปเดินมาเพื่อรับบริการยังจุดต่างๆ

-          เขาเน้นงานอบรม สร้างเครือข่าย แต่พี่พิษณุบอกว่า ไม่ใช่ทุกที่ที่สามารถพัฒนาศูนย์ได้

-          มีข้อสังเกตว่า การประชุม พูดคุยกันบ่อยๆ ช่วยทำให้เพิ่มวุฒิภาวะของผู้ทำงานได้ เพราะแต่ละคนต่างก็ช่วยกันเติมเต็มกันและกัน อันนี้ผม confirm

-          การยืดหยุ่นในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ การดับเครื่องชน (แบบผม) มักจะสร้างความยอมรับจากผู้อื่นได้ยาก

           

      

      เราได้ซักถามกันอย่างมากมายในประเด็นต่างๆ เพราะดูเหมือนซับซ้อน แต่จริงๆเมื่อทำไป มันก็ดูเป็นแบบแผน ที่สามารถทำซ้ำๆได้ เรายังได้เดินไปดูยังจุดต่างๆ เพื่อเพิ่มเติมความเข้าใจอีกด้วย อาจารย์อ๊อด หมอนิติเวชรุ่นน้องของผมติดใจห้องเก็บศพของที่นี่ เพราะระบบการกำจัดกลิ่นของที่นี่ดีเลิศครับ การพิสูจน์ศพไม่รบกวนแผนกอื่นๆเลย ต่างจากที่เรา ที่ต้องเปิดพัดลมไล่อากาศไปพลางๆ ศพไหนที่เสียชีวิตมานาน เล่นเอาตึกพยาธิฯของผมทำงานกันแทบคลั่ง

            ระหว่างที่กินอาหารเที่ยงนั้น ผมโทรศัพท์ติดต่ออาจารย์หน่อย ระวิวรรณ หมอเด็กของที่นี่ เพราะว่ารู้จักกันใน gotoknow มาเชียงรายกับครอบครัวครั้งก่อน ก็ได้ท่านนี่แหละที่พาไปกินข้าวต้มปลาตะเพียน และคราวนี้ผมได้ซื้อของฝากมาให้ท่านด้วย แต่น่าเสียดายที่ท่านกำลังเดินทางไปเชียงใหม่ เลยไม่ได้เจอกัน จึงให้เลขาท่านมารับของจากผมแทน น่าเสียดายจริงๆ

            มีเรื่องดีที่น่าบันทึกไว้ก็คือ หลังจากประชุมกันแล้ว ผมอยากดื่มกาแฟเหลือกำลัง คนขับรถของโรงแรมจึงพาไปยังร้าน กาแฟดอยช้าง ที่ต้องบันทึกก็เพราะว่า เขาจัดร้านได้สวยงามอย่างมาก มีทั้งนั่งในห้องแอร์และนอกห้อง นั่งดูสวนที่จัดไว้อย่างสวยงาม รสชาติก็อร่อย

            ออกจากร้านก็รีบกลับโรงแรมเพื่อไปรับลูกเมียออกมาเที่ยวในเมือง ผมต้องการไปนมัสการพระแก้วอีกครั้ง โดยพาสมาชิกของครอบครัวไปด้วยกัน เรื่องนี้มีที่มา สืบเนื่องจากที่มาที่นี่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมได้มาที่วัดพระแก้วเพื่ออธิษฐานขอสิ่งๆหนึ่ง เชื่อไหมว่า เมื่อกลับบ้านไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ผมก็ได้รับสิ่งสิ่งนั้น วันนี้ผมจึงต้องมาที่นี่เพื่อกราบพระแก้วอีกครั้ง ผมได้บันทึกไว้ใน http://gotoknow.org/blog/thanapan/171202 ครับ ลูกและเมียได้มาวัดนี้ด้วยกันกับผม นั่นเป็นสิ่งที่ปรารถนา แต่ครั้งนี้ไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษไปกว่าให้ครอบครัวเรามีความสุขครับ

            ออกจากวัดพระแก้วผมก็โบกกะป๊อให้สาวๆตามคำเรียกร้อง เรารีบกลับโรงแรมเพราะว่าเด็กๆอยากลงสระน้ำอีกรอบ แต่งานนี้ผมไม่ลงด้วย เพราะว่ารู้สึกว่าจะเย็นกว่าเมื่อวานเสียอีก เสร็จแล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวมาชมวิวริมน้ำกก อยากจะบอกว่า ริมน้ำกกยามเย็นสุดจะบรรยายในความงาม แสงแดดสวยๆ ลมเย็นๆ ลูกสาวนั่งริมสระน้ำ สั่งอาหารเย็นมากินกันจนเสร็จเรียบร้อยด้วยความรวดเร็ว ท่าจะหิวกันจริงๆ

            ทุ่มครึ่งก็ถึงเวลานัดของผู้ใหญ่ ทีมผมอีกชุดหนึ่งกลับกันมาจากวัดร่องขุ่น เราจะไปกินมื้อเย็นแบบขัดโตกที่ร้านอาหารสะบันงา ร้านใหญ่โต เจ้าของร้านเป็นคุณป้า ท่านเดินมาทักทาย เราก็ได้อาจารย์อ๊อดปู้ดคำเมืองทักทายในสำเนียงเหนือออกใต้สุดๆตอบกลับไป เลยได้รู้ว่า ภรรยาสุดที่รักของน้องผมเป็นชาวลำพูน

            วันนี้ก็เป็นอีกวันที่รู้สึกดีครับ ได้ทำอะไรหลายอย่าง ได้มีอะไรที่จะต้องทำอีกตั้งหลายอย่าง หลับสบาย                                                                                    

หมายเลขบันทึก: 225710เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2008 22:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 19:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

วันนี้ จะกลับกทม ได้ไหมคะ สนามบินดอนเมืองปิดแล้วล่ะค่ะ

พี่อุบลคงต้องเดินมากรุงเทพนะครับ

ขอบคุณพันธมิตร ที่ทำให้คนไทยมีสุขภาพดี เดิน เดิน เดิน

ขอบคุณพัมธมิตร ที่ทำให้เรา ลด ละ เลิก ความเป็นทุนนิยม ไม่ต้องสนใจว่าใครจะมาบ้านเราได้หรือไม่ได้

ขอบคุณ สำหรับผ้าพันคอ แสนสวยจาก อ แป๊ะ

เสียดายเช่นกันค่ะ ไม่ได้ เจอกัน

ได้แต่ตามมาอ่าน ว่า อาจารย์ มาถึงถิ่นเชียงราย

ในบรรยาย ที่ได้บรรยากาศกาศ นึกเห็นภาพเลย

รอบหน้าค่ะ ต้องเจอ ต้องเจอแน่

ครับอาจารย์

ตกใจเล็กน้อย ที่เพื่อนทักว่า เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน

เสียดายมากที่ไม่ได้ไปพบอาจารย์ (อดกินปลาตะเพียนทั้งก้างเลยครับ ฮา)

ได้เห็นห้องตรวจของอาจารย์ด้วย อยู่ติดกับห้องตรวจอาจารย์ประเสริฐใช่ไหมครับ

เชียงรายน่าอยู่ รถไม่มาก อากาศกำลังดี

อยากได้โครงสร้างของ oscc ไม่รู้หาได้ที่ไหน ใครรู้ช่วยบอกหน่อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท