บันทึกการประชุมอีเลิร์นนิ่ง 2008 (20-21 พ.ย. 2551)


สถานการณ์ อีเลิร์นนิ่งในประเทศไทย

ดร.ภาวิช ทองโรจน์

 

                อีเลิร์นนิ่งสำหรับการศึกษาในประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องมีการใช้ห้องสมุด หรือแหล่งเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีความเจำเป็น โดยเฉพาะในพื้นที่ไกลๆ เช่น มหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาพเครือข่าย PULINET จึงได้ถูกก่อตั้งขึ้น ส่วนเครือข่าย ThaiLINET ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกมหาวิทยาลัย หากเป็นไปได้สำหรับโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อระหว่างมหาวิทยาลัยต้องพัฒนาให้เป็น The UNINET ซึ่งครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

 

นโยบายโลกที่ท้าทายในยุค 2.0 ในมุมมองของอเมริกา

ดร.บรูซ เอ็น ชาลูกซ์

 

                กล่าวว่าจากการศึกษาข้อมูลด้านการศึกษาของสหรัฐอเมริกาพบว่า รัฐบาลมีความต้องการให้มหาวิทยาลัยในสหรัฐนั้นให้ความสำคัญด้าน e-Learning ในปี 2006 มีผู้ที่เรียนผ่านบทเรียน Online จำนวน 3,500,000 คน และในช่วงระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ ปี 2002 ถึง 2006 มีอัตราการเรียนรู้แบบ Online เพิ่มขึ้น ปีละ 20% เฉลี่ย 1 คนลงทะเบียนเรียน e-Learning 1 Course วิชาใน 1 ปี  และมีการสนับสนุน Online Course ในส่วนของวิทยาลัยชุมชนจึงทำให้อัตราแนวโน้มการเรียน Online ที่สูงขึ้น ซึ่งการเติบโตนี้ได้ทำให้เกิดโอกาสมากมายสำหรับผู้เรียน แหล่งงานต่างๆ เพื่อรองรับนักเรียน หรือสถาบันต่างๆ และนโยบายหลายอย่างที่ท้ายทายต่อการบริหารจัดการ

                The Sloan Consortium เป็นสถาบันและองค์กรการบริหารจัดการมืออาชีพที่ส่งเสริมการศึกษาออนไลน์ในระดับอุดมศึกษา ซึ่ง The Sloan Consortium จะจัดเตรียมความรู้ การฝึกปฏิบัติ ชุมชน และทิศทางสำหรับนักการศึกษาเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความท้าทายของสถาบันต่างๆ สำหรับการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง การกำหนดทฤษฏีการเรียนรู้อย่างตื่นตัว การเรียนแบบเคลื่อนที่และตัวช่วยต่างๆที่ชาญฉลาด การรวมเอาการศึกษาและบันเทิงเข้าด้วยกันที่เรียกว่า "Edutainment" การร่างนโยบายเพื่อสนับสนุนผู้เรียนในยุค 2.0 และคิดแบบสากลในการเข้าถึงการเรียนรู้ Online

                สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Sloan Consortium ได้ที่ http://www.sloanconsortium.org ซึ่งจะมีการอัพเดทข้อมูลเกี่ยวการใช้งาน e-Lrarning  ของมหาวิทยาลัยทั่วโลก โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับสถิติต่างๆ งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ e-Learning โดยจะมีการการอัพเดทข้อมูลปีละ 6 ครั้ง ตัวอย่างข้อมูล จากการศึกษาพบว่า นักเรียนมีความสนใจที่จะเรียน Online มากกว่าการเรียนปกติ และจากการศึกษามหาวิทยาลัยใน สหรัฐอเมริกา 158 แห่ง ปัจจุบันมี Course เรียน Online อยู่ 1,322 Course ในช่วงที่มหาวิทยาลัยบางแห่งเกิดประสบภัยธรรมชาติ ไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้การเรียน Online ก็ยังสามารถเปิดทำการสอนได้ปกติ

                ในการจัดการเรียนการสอน Online นั้นเราต้องศึกษา

                1. ศึกษาผู้เรียน ว่าผู้เรียนมีลักษณะการเรียนแบบไหน? มีพฤติกรรมการเรียนแบบไหน? ชอบการเรียนแบบไหน?

                2. ควรจัดกิจกรรมการเรียนแบบไหน? ให้เหมาะสมกับผู้เรียน หรือควรจะเปิดให้มีการเรียน Online หรือไม่?

                3. การจัดการเรียน Online ทำให้นักเรียนเข้าถึงการเรียนการสอน

                4. การจัดการเรียน Online ทำให้นักเรียนเข้าถึงอาจารย์ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน

                5. มีการเก็บหน่วยกิตการเรียนภายในมหาวิทยาลัย และให้สามารถ Take Course ในมหาวิทยาลัยต่างๆสถาบันได้

 

คลิกดาว์นโหลดบันทึกฉบับเต็มได้ที่นี้(เป็นไฟล์ PDF) 

***บันทึกนี้ได้จากการฟังการบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้บันทึกและแปลความหมายตามความเข้าใจและจากการฟังจากเครื่องแปลภาษา ฉะนั้นผู้บันทึกขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยหากแปลความและสื่อความหมายของผู้บรรยายผิดเพี้ยนไป ก็กราบขออภัยด้วย แต่ก็หวังว่า คงจะมีประโยชน์ต่อครูอาจารย์ทั้งหลายครับ จึงเอามาฝากกัน***

หมายเลขบันทึก: 225389เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2008 14:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมารับข้อมูลข่าวสารค่ะ
  • ในฐานะคนที่ใช้ IT
  • ขอบคุณนะคะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท