สภาพัฒน์ปรับลดจีดีพีปี 52 เหลือ 3-4% เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอกว่าที่คาด ส่วนไตรมาส 3 ปีนี้หัดตัวเหลือ 4% คาดทั้งปีลดลงเหลือ 4.5% ด้าน "สุชาติ" เร่งปรับโครงสร้างภาษีเดือนธันวาคมนี้หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ รองรับการเลิกจ้าง ขณะนี้เอกชนเสนอลดวีเอทีเหลือ 4%
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ขยายตัวในระดับ 4% ซึ่งต่ำกว่าไตรมาส 1 ที่ขยายตัว 6% และไตรมาส 2 ที่ระดับ 5.3%ส่วน 9 เดือนขยายตัว 5.1% คาดทั้งปีจะขยายตัว 4.5% ลดลงจาก 5.2-5.7% จากเศรษฐกิจโลกและความไม่สงบในประเทศ ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภคและการลงทุน ส่วนปีหน้า สศช.ได้ปรับลดประมาณการจีดีพีลดลงเหลือ 3-4% จากเดิม 4-5% แต่หากยังมีปัญหาความไม่สงบต่อเนื่องเศรษฐกิจอาจจะต่ำกว่าที่คาดไว้ ส่วนการส่งออกปี 52 คาดจะชะลอตัวลงจากปี 51 ที่ระดับ 7.6% เหลือ 4.4% ขาดดุลการค้าเพิ่มจาก 1,000 ล้านดอลลาร์เป็น6,500 ล้านดอลลาร์ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเพิ่มจาก 0.4% เป็น 1.2% เงินเฟ้อลดจาก 5.6% เหลือ 2.5-3.5%และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจาก 1.4% เป็น 1.5-2.5% ของจีดีพี หรือประมาณ 1.2 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลจะต้องหาทางรับมือด้วยการเร่งรัดการลงทุนเมกะโปรเจกท์ต่าง ๆ และเร่งกระจายงบด้านการดูแลสังคม สาธารณสุขการกระตุ้นการท่องเที่ยว
ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดอ่อนของเศรษฐกิจไทยอยู่ที่การเมืองและปัญหาการว่างงานในภาคส่งออกและเอสเอ็มอีที่น่าจะมีประมาณ 4-5 แสนคนแม้น้อยกว่าปี 2540 แต่แก้ยากกว่า จึงเสนอให้รัฐเร่งลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เหลือ 4% ชั่วคราว 1 ปี แม้รัฐจะสูญเสียรายได้ 8 หมื่นล้านบาท แต่จะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายจริงต่างจากลดภาษีเงินได้ที่อาจกลายเป็นการออมแทน และรัฐบาลควรเข้ามาการันตีสินเชื่อที่แบงก์จะปล่อยให้เอสเอ็มอีด้วย เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น
คม ชัด ลึก กรุงเทพธุรกิจ โพสต์ทูเดย์ 25 พฤศจิกายน 2551
ไม่มีความเห็น