วันที่ 21 พย.51 ที่ผ่าน ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินเสียงโทรศัพท์มาจากแดนไกล หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้ยินเสียงของเพื่อนคนนี้ เธอเป็นเพื่อนหญิงที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ชื่อของเธอ คือ อิ๋ง ชื่อจริง นิตยา โพธิ์ชัย คนทั้งประเทศมีชื่อนี้หลายคนเหมือนกัน แต่คนที่เกิด 26 มิ.ย. มีคนเดียว เธอชอบเรียนกฏหมาย เธอจบรามคำแหง พ่อ และน้องสาวก็จบกฏหมายเหมือนกัน ปัจจุบันเธอทำงานที่ศาลปกครอง ฉันตื่นเต้นและแปลกใจในคราวเดียวกัน ฉันแค่อยากรู้ว่าเพื่อนยังอยู่ดีและมีความสุข ถึงแม้ว่าเธอบอกว่า ยังไม่มีครอบครัว ฉันก็ไม่แปลกใจ เพราะผู้หญิงยุคใหม่ในสังคมเมืองอย่างเพื่อนของฉันมีไม่น้อย ที่สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง ประเทศไทยในเขตเมืองอาจจะมีบางคนที่มีแนวคิดคล้ายผู้หญิงสิงคโปร์ที่ไม่อยากมีครอบครัว เพราะต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นก็เป็นได้ ส่วนฉันก็ได้แต่ยินดีและเล่าเรื่องราวของตนเองและครอบครัว และได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเพื่อนบ้างให้หายคิดถึง
เพื่อนคนนี้ดีกับฉันมาก นับจากวันที่รู้จักกัน ไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่ดีกับฉัน บอกตามตรงว่าเพื่อนอาจจะหาได้ไม่ยากสำหรับฉันแต่เพื่อนที่จริงใจและเป็นเพื่อนแท้นั้น ฉันมีไม่มาก และอิ๋งถูกจัดอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ในกลุ่มเพื่อนเดียวกันตอนมัธยมปีที่ 1 - 6 โรงเรียนสตรีสิริเกศ กลุ่มเพื่อนสนิทของฉันจะมี อิ๋ง น้อย(วราภรณ์ เกษกุล) ใหม่ หนูผ่อน ต่าย (นันทิยา สุขวงศ์ เพื่อนคนนี้รักฉันมากแต่เธอได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วด้วยอุบติเหตุทางรถยนต์) ส่วนตัวฉัน ยังคงอยู่ ตอนนี้ฉันได้เจอเพื่อน 1 คน คือ อิ๋ง ที่เราไม่ได้เจอกันมาประมาณ 5-6 ปีได้ ส่วนน้อย ไม่ได้เจอกันเลยร่วม 11 ปี ฉันรู้ว่าเธอทำงานที่ รพ.หัวเฉียว แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันยังอยู่ที่เดิมหรือเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนใหม่ กับหนูผ่อนไม่เคยเจอกันเลยตั้งแต่จบ ม.6 รวมแต่ 15 ปีพอดีที่เพื่อนทั้งหมดไม่เคยเจอกันอีกเลย งานเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนสตรีสิริเกศครั้งสุดท้ายที่ฉันไปตอนนั้นต่าย(เจ้าแว่นเพื่อนรักของฉันยังมีชีวิตอยู่) หลังจากนั้นฉันก็ไม่เคยไปอีกเลย แต่ข่าวว่าเพื่อนคนอื่นๆ ที่อยู่นอกกลุ่ม เขารวมรุ่นกันทุกปี ช่วงปีใหม่ แต่เพื่อนของฉันไม่เคยมา เพื่อนนอกกลุ่มฉันเจอเขาได้บ่อยๆแต่เพื่อนในกลุ่มฉันไม่เคยเจอกันเลย
สำหรับอิ๋ง ฉันได้รับความเมตตาปราณีจากคนในครอบครัวของอิ๋ง พ่อ แม่ อิ๋งและน้องๆมาโดยตลอด นับจากการไปกินข้าวที่บ้านอิ๋งในตอนเลิกเรียน วันหยุด หรือวันไม่หยุดตามแต่จะไป บางทีก็มานอนที่บ้านอิ๋งด้วย ไว้ใจกันมาก สนิทมากๆไม่เคยมีความลับต่อกัน วันที่ฉันไปสอบ นักวิชาการสาธารณสุข อิ๋งก็มารับ ไปนอนพักที่บ้านอิ๋ง ที่ปทุมธานี ฉันไปกับ ดร.อารี บุตรสอน (รุ่นพี่กำลังเรียน ดร.อยู่เลยเรียกไว้ก่อน) ( หลังปี 38-39 พ่อของอิ๋งย้ายครอบครัวเข้าไปอยู่ที่ปทุมธานี เพราะลูกๆต้องไปเรียนที่กรุงเทพ) วันที่รับปริญญาตรี มสธ.ปี 41 ฉันก็ไปนอนพักที่บ้านอิ๋ง งานแต่งงานของฉัน อิ๋งก็มาล้างจานให้ แล้วจะไม่ให้ฉันยกตำแหน่งเพื่อนที่แสนดีและวิเศษที่สุดให้อิ๋งได้อย่างไร เหตุการณ์ทุกอย่างฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนเพื่อนได้อย่างไร ฉันพยายามเป็นเพื่อนที่ดี นำแต่ความสุขใจมาให้ ไปเยี่ยมก็มีข้าวสารไปฝากบ้าง แต่ ฉันว่ามันยังน้อยเกินไป ศรีสะเกษ - ปทุมธานี ความจริงก็ไม่ไกลนะ แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า การไปเจอเพื่อนแต่ละครั้งยากเหลือเกิน ขนาดฉันไปเรียน ปริญญาโทที่ ม.รังสิต จนจบฉันยังไม่สามารถไปพบเพื่อนได้เลย ฉันไม่อยากถูกตำหนิว่าเป็นเพื่อนที่แย่นะคะ แต่ฉัน มีแต่หัวใจที่จริงใจ ความคิดถึงและมิตรภาพที่ไม่มีวันลืมเลือน หากคุณมีเพื่อนรักทีดีกับคุณมากๆ ตอบแทนเขาด้วยการเป็นเพื่อนที่จริงใจและห่วงใยเขาด้วยใจจริงนะคะ มิตรภาพระหว่างเพื่อนจะได้ไม่ห่างเหินไป
ไม่มีความเห็น