เพชรฆาตเงียบ


ใครเคยวัดความดันโลหิตบ้างยกมือขึ้น

         คนหนุ่มสาวมักจะไม่ค่อยเป็นโรคความดันโลหิตสูง  จริงหรือเปล่า....   ส่วนมากไม่ค่อยจะเป็นกันเนอะ  มีบางรายแหละที่ชอบทำตัวแก่ก่อนวัย  อิ อิ อิ  อายุ 30 กว่าๆ ดันเป็นความดันโลหิตสูง   อืมมมม สืบไปยังพฤติกรรมด้านสุขภาพ....ชอบกินของอร่อยๆ ชอบกินอาหารฝรั่ง แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด เฟรนซ์ฟราย  อาหารอิตาเลี่ยน   อ้อ อีกอย่างคาปูชิโน่เย็น ชอบม๊าก มาก...ถ้ามีโอกาสก็จะเดินเข้าร้านทันที    แต่จริงๆ แล้วก็ชอบน้ำพริกมะขาม น้ำพริกตาแดง ปลาแห้งเหมือนกันนั่นแหละ  แต่ประเภทอย่างหลังเนี่ยะหากินย๊ากยากเวลาไปเดินตามห้างหรือร้านอาหาร หาไม่ได้เอาซะเลย

         พฤติกรรมอีกอย่างนึงคือนั่งจุ๊มปุ๊กอยู่กับที่  อยู่หน้าคอมฯ ทำงานมั่งเล่นมั่งไปเรื่อยเปื่อยไม่ค่อยได้เคลื่อนย้ายลำตัว ร่างกายไปไหน   ปั่นงานตั้งแต่เช้าจนค่ำ บางทียังหอบงานกลับไปทำที่บ้านอีกแหน่ะ   การออกกำลังกายน่ะเหรอ  ไม่มีซะล่ะ  ทั้งๆ ที่ห้องฟิตเนตอยู่ชั้นล่างทำงานแท้ๆ  แต่ก็ไม่เคยเข้า  กลัวว่าเข้าฟิตเนตแล้วจะเหนื่อย กลางคืนจะเตรียมสอนไม่ได้จะยุ่ง

         ผลสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(7 พ.ย.51) วัดความดันโลหิตด้วยตัวเอง ....พุ่งปรี๊ดไปถึง 220/136 ชีพจร 86  ......ยัง  ยังใจเย็น นั่งทำงานต่อ  เฮ่อๆๆๆ มันคงยังไม่เป็นไรมากมั๊ง  เดี๋ยวค่อยกลับไปหาหมอที่ มอ.วันพฤหัสหน้า  ตอนนี้ทำงานก่อน..... โดยคุยกับพี่ที่เป็นพยาบาล คุณเธอก็แว๊ดเข้าให้  ให้รับกลับสงขลาทันทีไม่ต้องสอนแล้วหนังสือ  กลัวเส้นเลือดในสมองแตก  จริงๆ ข้าพเจ้าก็กลัวเหมือนกันแหละ แต่ตอนนั้นอาการมันก็แค่มึนๆหัวนหน่อยเองนี่นา

         ไปหาหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ วัดอีกที 230/136  86  ได้ยาลดความดันมา 1 ถุง ใช้สิทธิประกันสุขภาพหมู่ของมหาวิทยาลัย   กลับบ้านระหว่างทางไปเดินช็อปปิ้งของกินในตลาดเกษตร มอ. อีกนิดหน่อย(เค้าเรียกว่าไม่ประมาณตัวเอง)   .... กลับถึงบ้านก็ใช้ชีวิตปกติ  ถูบ้าน กินข้าว เล่นกับหลานปกติ......ซักประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ อาการปวดหัวก็กำเริบ ปวดร้าวไปทั้งหัว ทนไม่ไหว ต้องหอบสังขารกลับไปที่โรงพยาบาลกรุงเทพอีกครั้ง  คราวนี้ Admid คับ  อาการลักษณะนี้คุณหมอบอกว่าอาจจะมีอาการเส้นเลือดในสมองแตกได้หรือไม่ก็เป็นน้ำท่วมปอดได้เช่นเดียวกัน  คราวนี้ท่านก็ตรวจเช็คซะละเอียดไปเลย ตรวจ EKG, X-ray ทรวงอก แต่ก็ไม่เจออะไร(ปกติทุกอย่าง)     ตอนเช้าวันเสาร์คุณหมอตรวจ ECOCARDIOGRAM พบว่ากล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ  (คนปกติเค้าหนา 1.2 เซนติเมตร) แต่นี่ปาเข้าไป 1.7 เซนติเมตร   ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรมไม่กินยาให้ถูกกับโรคมีหวังเป็นโรคหัวใจขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน........ไปรักษาโรงพยาบาลคราวนี้เจอไป 16,xxx บาท(ราคาประกัน...มีประกันสุขภาพ 2 ใบ แต่เบิกไม่ได้ซักกะใบ เซ้งเซ็ง)   ใช้สิทธิความเป็นญาติของพนักงานลดไป 3,xxx บาท  เหลือที่ต้องจ่ายเป็นเงินสดให้โรงพยาบาล 13,xxx  บาท  (เชื่อเค้าเล้ย บริษัทประกันเนี๊ยะ)

          จากเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

1. อย่าไว้ใจเรื่องความดันโลหิตสูง  มันมาโดยที่เราไม่รู้ตัว  ถ้ามีอาการมึนๆ หัว ให้ลองวัดความดันดู ถ้าใครมีภาวะความดันผิดปกติอยู่แล้วให้ลงทุนซื้อเครื่องวัดความดันประจำตัวไปเลย ราคา 2,xxx บาท

2. ถ้าเป็นความดันโลหิตสูง  หมอสั่งยาให้กินต้องกินตลอด  อย่าชะล่าใจหยุดยาเอง  ไม่งั้นเส้นเลือดในสมองจะแตกและเป็นอัมพาตโดยไม่รู้ตัว

3. ถ้าความดันสูงมากๆ ขนาดพี่ๆ น้องๆ ของ 230/136  ให้นอนอยู่กับที่ ไม่ควรเดินไปเดินมา  อันตรายนะคะ

4. ลดอาหารเค็มหรืออาหารที่มีโซเดียม หรือพวกที่ใส่ผงชูรสทุกชนิดเท่าที่จะสามารถลดได้ เช่น ไข่เข็ม มาม่า  ไส้กรอก   ลดไปเลย ไม่กินได้ยิ่งดีกับสุขภาพ

หมายเลขบันทึก: 221940เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2008 14:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อีกสองวายร้าย คือ

1 ของผัด ทอดมัน ต่างๆ ทั้งในและ นอกเครื่องแบบ ... ปลาแห้งทอดกรอบ มองไม่เห็นความมันที่ซ่อนไว้

2.. การนอนดึก หลัง 4-5 ทุ่ม

หัดกินผัก บางอย่าง ที่ลดความดัน บ่อยๆ มันช่วยถ่างหลอดเลือด ( ขยาย ถนน..ให้กว้าง เลือดวิ่งสะดวก หัวใจทำงานเบา ความหนา ก็จะค่อยๆลดลง )

ผักถ่างขยายหลอดเลือด อาจจะต้องคบรัก (กิน )มันประจำ ยิ่งกว่า แฟน

ขอบคุณวีรพัฒน์ เงาธรรมทรรศน์  ค่ะ  เป็นความรู้ใหม่จริงๆ  เพราะว่าชอบกินปลาแห้งทอดกรอบ นึกไม่ถึงเหมือนกันนะเนี๊ยะ

ตอนนี้กำลังจะ search หาอาหารที่มีโปแตสเซียมสูงอยู่ค่ะ  อาจจะต้องปรับเปลี่ยนการกินบ้างแล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท