น้ำส้มควันไม้
น้ำส้มควันไม้มีสารประกอบต่างๆมากมายเมื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรจะมีคุณสมบัติ เช่น เป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช สารปรับปรุงบำรุงดิน สารเร่งการเจริญเติบโต นอกจากนี้การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม เช่น ใช้ผลิตสารดับกลิ่นตัว ผลิตสารปรับผิวนุ่ม เป็นต้น
1. การออกแบบ
การออกแบบเตาเผาได้ออกแบบโดยปรับใช้ให้เหมาะสมกับทรัพยากรที่มีในท้องถิ่น และมีการลงทุนที่ไม่แพงมากนัก แต่ให้ผลคุ้มค่า และสามารถที่จะนำไปเผยแพร่ขยายให้กับบุคคลอื่น สามารถนำไปใช้ได้ง่าย
6. การสร้างหรือพัฒนา
สิ่งที่ต้องเตรียมในการผลิตน้ำส้มควันไม้คือ
1. ถังน้ำมัน 200 ลิตร 1 ใบ
2. ท่อใยหินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว ยาว 1 เมตร 1 ท่อ
3. ข้องอใยหินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว 1 ท่อ
4. อิฐบล็อก 40 x 20 เซนติเมตร จำนวน 5 ก้อน
5. ไม้ไผ่สำหรับเก็บน้ำส้มควันไม้กว้าง 4 นิ้ว ยาว 4 เมตร 1 ท่อน
6. ถังพลาสติกขนาดปริมาตร 2 ลิตร จำนวน 1 ถัง
7. ดินเหนียว (ใช้ทดแทนดินทราย)
งบประมาณที่ใช้
1. ถังน้ำมัน 200 ลิตร 1 ใบ 200 บาท
2. ท่อใยหินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว ยาว 1 เมตร 1 ท่อ 100 บาท
3. ข้องอใยหินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว 1 ท่อ 50 บาท
4. อิฐบล็อก 40x20 เซนติเมตร จำนวน 5 ก้อนก้อนละ 6 บาท 30 บาท
5. ไม้ไผ่สำหรับเก็บน้ำส้มควันไม้กว้าง 4 นิ้ว ยาว 4เมตร 1 ท่อน 200 บาท
รวมเป็นเงิน 580 บาท
วิธีการทำ
1. ตัดไม้ขนาด 60-80 เซนติเมตร (ใช้ไม้แห้งหมาดๆ) ใช้ไม้อะไรก็ได้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น
2. แยกไม้ออกเป็น 3 กอง (เล็ก,กลาง,ใหญ่) เรียงในเตาเผาใช้หมอนขนาด 30-40 เซนติเมตร จำนวน 2-3 ท่อนแล้วเรียงไม้ให้ไม้ที่มีขนาดเล็กอยู่ชั้นล่าง ชั้นกลาง และไม้ใหญ่สุดอยู่ชั้นบนให้เต็ม ปิดเตาด้านหน้าประกอบห้องเชื้อเพลิง ซึ่งจะจุดไฟในห้องเชื้อเพลิงประมาณ 3 ชั่วโมง ให้สักเกตุควันไฟซึ่งจะเปลี่ยนจากควันสีดำเป็นควันสีขาว วัดอุณหภูมิที่ปากปล่อง 80 องศาเซลเซียส เริ่มรับน้ำส้มควันไม้ซึ่งใช้เวลาในการรับประมาณ 9 ชั่วโมง ซึ่งในการป้อนเชื้อไฟเมื่อไฟเริ่มติดไม้ให้หยุดการเพิ่มเชื้อไฟในห้องเชื้อเพลิงให้ปิดให้เหลือช่องอากาศเข้าประมาณ 30 % เมื่อปิดห้องเชื้อเพลิงควันในห้องเชื้อเพลิงจะเปลี่ยนสีจากสีเทาเป็นสีน้ำเงิน จนกระทั่งเป็นสีน้ำตาล ให้หยุดเก็บ (ประมาณ 9 ชั่วโมง)
3. น้ำส้มควันไม้ที่ได้จะมีกลิ่นไหม้มีส่วนประกอบของกรดอะซิตริก และมีสภาพเป็นกรด มีสีน้ำตาลแกมแดง น้ำส้มควันไม้ที่ได้จะต้องนำไปบรรจุภาชนะพลาสติก ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 3 เดือน ในที่ร่ม ไม่สั่นสะเทือนเพื่อให้น้ำส้มควันไม้ที่ได้ตกตะกอนและแยกตัวเป็น 3 ชั้น คือ น้ำมันเบา (ลอยอยู่ผิวน้ำ) น้ำส้มควันไม้ (สีเหลือง ชั้นกลาง) น้ำมันทาร์ (ตกตะกอนอยู่ชั้นล่าง) แยกน้ำส้มควันไม้ไปใช้ปะโยชน์ต่อไป
7. ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ใช้ในการเกษตร
1.1 ด้านการผลิตพืช
- กำจัดไส้เดือนฝอย แมลงในดิน มด และปลวก
- ป้องกันโรค ราก และโคนเน่าจากเชื้อรา
- เร่งการเจริญเติบโต คล้ายกับฮอร์โมนพืช
- ป้องกันกำจัดศัตรูพืช ขับไล่แมลงทุกชนิด และเชื้อรา
- ช่วยในการสังเคราะห์น้ำตาลของพืช ทำให้พืชผักและผลไม้ให้มีรสหวาน
- เป็นสารจับ ช่วยลดการใช้สารเคมี
1.2 ด้านปศุสัตว์
- กำจัดกลิ่นและขับไล่แมลงในคอกสัตว์ ป้องกันไม่ให้แมลงวางไข่
- ขับไล่เห็บ, หมัด และรักษาโรคเรื้อนของสัตว์
2. ใช้ในครัวเรือน
2.1 ป้องกันปลวก มด และสัตว์ต่างๆ เช่น ตะขาย แมลงป่อง
2.2 ดับกลิ่นในห้องน้ำ ห้องครัว บริเวณที่ชื้นแฉะ และกำจัดกลิ่นขยะ
2.3 รักษาแผลสด แผลถูกน้ำร้อนลวก ไฟลวก
2.4 ฆ่าปลวก มด
8. เงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการนำไปปรับใช้ประโยชน์
1. เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีคุณสมบัติเป็นกรดจึงมีความจำเป็นจะต้องทิ้งไว้ จากการกักเก็บก่อนนำไปใช้อย่างน้อย 3 เดือน
2. เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีสภาพเป็นกรด การนำไปใช้ควรระมัดระวังไม่ให้เข้าตา ซึ่งจะทำให้ตาบอดได้
3. น้ำส้มควันไม้ไม่ใช่ปุ๋ยแต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ดังนั้นการนำไปใช้ทางการเกษตรจะเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพให้กับพืชแต่ไม่สามารถใช้แทนปุ๋ยได้
4. การใช้เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และแมลงในดินควรทำก่อนการเพาะปลูกอย่างน้อย 10 วัน
5. การนำน้ำส้มควันไม้ไปฉีดพ่นเพื่อให้ดอกติดผล ควรพ่นก่อนดอกจะบาน ถ้าฉีดพ่นช่วงดอกบานแมลงจะไม่ผสมเกสร เพรากลิ่นฉุนของน้ำส้มควันไม้ และดอกจะร่วงง่าย
6. การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ควรเจือจางให้เหมาะสมกับการใช้งาน เนื่องจากมีสภาพความเป็นกรดซึ่งใช้ในอัตราส่วนดังนี้
อัตราส่วน 1:20 (ผสมน้ำ 20 เท่า) พ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื่อจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นประโยชน์และแมลงในดิน ควรทำก่อนการเพาะปลูกอย่างน้อย 10 วัน
อัตราส่วน 1:50 (ผสมน้ำ 50 เท่า) พ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำลายพืช หากใช้ความเข้มข้นมากกว่านี้ พืชได้รับอันตรายได้
อัตราส่วน 1:100 (ผสมน้ำ 100 เท่า) ราดโคนต้นไม้รักษาโรครา และโรคเน่า, ป้องกันแมลงวางไข่
อัตราส่วน 1:200 (ผสมน้ำ 200 เท่า) พ่นเพื่อขับไล่แมลง ป้องกันเชื้อรา, เร่งการเจริญเติบโต
อัตราส่วน 1:500 (ผสมน้ำ 500 เท่า) พ่นผลอ่อนหลังจากติดผลแล้ว 15 วัน ช่วยขยายผลให้โตขึ้น และพ่นก่อนเก็บเกี่ยว 20 วันจะเพิ่มน้ำตาลในผลไม้
อัตราส่วน 1:1000 (ผสมน้ำ 1000 เท่า) เป็นสารจับใบ
อยากจะจำหน่ายน้ำส้มควันไม้ในราคา10-15บาทต่อลิตร พอจะหาแหล่งขายที่ไหนได้บ้าง แนะนำด้วยครับ อีเมลล์ [email protected]
อยากถามว่าใช่พ่นเพลี่ยในนาข้าวต้องใช่อัตราส่วนเท่าไรครับ