สองเดือนกว่าแล้วสินะที่เราได้มีโอกาสอันสำคัญยิ่งของชีวิตที่เราได้มาเรียนรู้ คลุกคลี อยู่กับเรื่องผี ๆ กับเจ้า "เตาเผาศพ..."
เกือบปีแล้วที่เราเฝ้าค้น วิ่งหา ตามดู แต่เจ้าเตาเผาศพนี้ มีอยู่ที่ไหน ของใครต่อใครเราก็เฝ้าไปตามดู
แล้ววันนี้ก็เป็นโอกาสดีที่มีโอกาสมาย้อนคิดว่า "เราทำไปทำไม...?"
ทำเพื่อความรู้เหรอ ทำเพื่อความเก่งเหรอ ตอนแรกเราก็หลงคิดว่าอย่างนั้น...!
โอ้โห... นี่เราเขียนแบบได้ เรารู้เรื่องการก่อสร้าง เราจัดการงาน เราจัดการคนได้ เรา เรา เราและเรา
ไอ้ตัวเรานี่แหละเป็นสิ่งสำคัญ ตัวเราที่ได้มาทำงานนี้เราก็คือเราได้มีโอกาส "ทำความดี..."
ที่เรามาอยู่ ณ จุดนี้ ที่อยู่ได้ก็เพราะได้ทำความดี ได้เสียสละ
ชีวิตที่ได้ทำความดี ได้เสียสละ จะมีแรง มีกำลังใจที่จะเดินสวนทางกับกิเลสได้
ความดีมีพลังนะ การเสียสละทำให้จิตใจไม่หวั่นไหว
ตื่นมาเราก็ทำ เหนื่อยเราก็พัก ทำไปยิ้มไป เหนื่อย ท้อแท้ ก็แก้ไขได้ "ภาวนา..."
สิ่งสำคัญอย่างยิ่งในงานนี้ เราได้มีโอกาสสร้างความเมตตาให้กับตนเองได้อย่างเหลือล้น
เราได้รู้จักคน เราได้รู้จักเมตตาคน เราได้รู้จักเมตตาสรรพสิ่งทั้งหลายที่เรารัก "เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก..."
เมื่อก่อนนี้นะ เราเป็นคนขี้โมโห ขี้โกรธ ขี้น้อยใจ ขี้สารพัด สารเพก็มารวมอยู่ที่ตัวเรา
เดี๋ยวนี้เจ้าขี้ต่าง ๆ โดยเฉพาะขี้โมโหเริ่มน้อยลง น้อยลง เพราะเรารู้จัก "ความเมตตา"
พระพุทธเจ้าท่านทรงชี้แนวทางแก้ไขไว้แล้วแหละ ว่าคนขี้โมโหต้องแก้ด้วยเมตตา
แต่นั่นเราก็รู้เฉย ๆ ไม่รู้จะไปเมตตาใคร อย่างไง...?
แต่บุญของเราเหลือล้นที่มีท่านอาจารย์ ชี้แนะ บอกทางให้เราทำ มิอย่างนั้นเราก็คงโง่ดักดานอยู่ร่ำไป
โง่เพราะโกรธ โง่เพราะถือตัว โง่เพราะทนงตนในความรู้
เมื่อก่อนเราคิดว่าเราทำงานมากเราก็จะเก่งมาก ความรู้มากก็จะหาเงินได้มาก "มีเงินมากแล้วจะไม่ตายหรือ...?"
นั่นน่ะสิ กว่าเราจะฉลาดเราก็โง่ไปมากเหมือนกัน โง่ไปกับความรู้ โง่ไปกับความสามารถ โง่ไปกับความเก่ง แล้วนำความโง่ทั้งหลายไปอวดเบ่ง คับบ้าน คับซอย
การทำงาน การได้ปฏิบัติธรรม ทำให้เราตัวเล็ก ตัวลีบ เล็กด้วยกิเลส ลีบด้วยตัณหา ปล่อยวางซึ่งทิฏฐิและมานะ
อื่ม... ทำความดีก็ทำไปนะ ไม่หลงดี อย่าลืมว่าติดดีนี่แก้ยากกว่าติดชั่วซะอีกนะ
มีอะไรก็ทำไป
ทำเพื่อลดเสียได้ซึ่ง "ตัวตน..."
ขอบคุณ..ความรู้ดีๆ ในการดำเนินชีวิต ครับ!