ผมเคยเข้าใจว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมค่อนข้างโชคร้าย ขาดแคลน และลำบาก มีความต้องการมากมายนับร้อยนับพันประการที่ผุดขึ้นเรียกร้องต้องการ ในแต่ละช่วงวัย และสถานการณ์นับแต่จำความได้ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
แต่ผมได้รับมันสมใจแต่เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรายการความต้องการเหล่านั้น หลายครั้งที่ความท้อแท้ ห่อเหี่ยวจู่โจมจากทุกทิศทาง จนทำให้"หัวใจ" หวั่นไหวสุดจะบรรยาย
จนการไม่ได้รับในสิ่งที่ต้องการ "เป็นความปกติ"ของผม เป็นสิ่งธรรมดาสำหรับชีวิตของผม และผมค่อยๆปรับเปลี่ยนความต้องการให้อยู่ในระดับที่ "เหมาะสม" ต่อการที่อาจจะสามารถบรรลุถึงมันได้
ผมอาจจะเพียงแค่คาดหวังต่อ "การจะได้รับบางสิ่งเพียงเล็กน้อย" บางทีน้อยจนน่าใจหาย
ด้วยการทำเช่นนี้ ผมกลับรู้สึกดีขึ้นๆ จนชีวิตของผมนิ่ง สิ่งที่ไม่ได้รับ ไม่ถูกตอบสนองคือ "สิ่งที่อัลลอฮฺมิได้ทรงประสงค์ให้สิ่งนั้นเกิด มี แก่ผม" ผมผ่านมันไปอย่างปกติ ไม่เศร้า ไม่เสียใจ ไม่น้อยใจ และไม่ผิดหวังไปกับมัน
และหากแม้นมีบางสิ่งเกิดมีขึ้นแก่ผมแม้เพียงเล็กน้อย มันกลับมีค่ามากมาย (แม้ว่าในสายตาคนอื่นๆ มันเป็นเพียงสิ่งที่เล็กน้อยก็ตาม) ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกดีๆ และผม "ขอบคุณในความโปรดปรานนั้นต่ออัลลอฮฺผู้ทรงให้สิ่งนั้นเกิดมีขึ้นเสมอ" (เพราะไม่มีสิ่งใดเกิดและหรือไม่เกิดมีเว้นแต่มีมาจากพระประสงค์ของพระองค์ ผู้ทรงลิขิตทุกสิ่ง)
จนกระทั้งการได้รับรู้รับทราบ ได้อ่าน ได้ฟัง และรวมถึงการได้ร่วมสนทนาวิสาสะกับคนอื่นๆอย่างกว้างขวาง
ผมกลับพบว่า ผมโชคดีกว่าอีกหลายๆคน มีความสุขกว่าอีกหลายๆคน
แค่นี้ ก็เพียงพอแล้ว มิใช่หรือ?
น้อยแต่บรากัต ดีกว่ามากแต่ไร้ค่าครับ
ยิ่งมีความต้องการมาก ก็ยิ่งเป็นทุกข์มากครับ
ปรับความต้องการให้พอดีๆ ก็พอมี พออยู่ อย่างสบายๆครับ
โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร
เมื่อเช้า ผมได้กินข้าวกับปลาต้มพร้อมลูกเมีย
ก็มีความสุขแล้วครับ
อืม จริงครับพี่ มันอยู่ที่ความพอเพียงของความสุข อิอิ
ใช่เลยครับ อ.จารุวัจน์ ความบารอกะฮฺ หรือ"ความจำเริญ"ของสิ่งที่เราได้รับนั้นมีความสำคัญมาก เพราะมันงอกงามอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับท่านรองวิชชา
ขอบคุณครับคุณสุขสม