ศ.นพ.ประเวศ วะสี


 

 

.นพ.ประเวศ วะสี

มาบรรยายเรื่อง “ทัศนคติและทักษะที่เอื้อต่อการป้องกันความขัดแย้ง”

ผมเจอปฎักไปหลายฉึก!

ตอนบ่าย คุณหญิงพรทิพย์ โรจน์สุนันท์ บรรยายเบื้องหลังแก๊สน้ำตา

ตอนท้ายประชุมกลุ่มเรื่องยุติความรุนแรง แสวงสันติด้วยการสานเสวนา

สรุปได้ว่ามีการบ้านมาเพียบ

หลวงพี่ติ๊กแจกหนังสือเรื่อง “สลายความขัดแย้ง”

ของท่านพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต)

เปิดดูแว๊บๆโฮสุดยอดเลยละครับ

เอามาประกอบการอ้างอิงได้ชัดแจ้ง

คงต้องนั่งแกะทำความเข้าใจที่ละบทๆ

เดินตามพระก็ดียังงี้แหละโยม..

 

ท่านอาจารย์ใหญ่บรรยายจุดสำคัญๆไว้เยอะ

ผมละคิดถึงท่านอัยการชาวเกาะมาก

แถมตัวเองยังวิ่งเข้าวิ่งออกอีก

จึงขอคัดเอาที่ตรงกับแนวประพฤติปฎิบัติของชาวแซ่เฮ

และขออนุญาตว่าไปตามที่จดๆจ้องๆ

 

พระอาจารย์บอกว่า มายาคติทำให้สังคมไทยอ่อนแรง

ความรู้มีอยู่2หลักใหญ่

1.    ความรู้ในในตำรา (เชิงวิชาการ)

2.     ความรู้ในตัวคน (เชิงวัฒนธรรม)

ทั้ง2ส่วนนี้มีความสำคัญทั้งคู่

แต่ถ้าเคารพความรู้ในตำราจะส่งผลเชิงปริมาณ

น้อยกว่าการเคารพความรู้ในตัวคน 

การเคารพคนจะเห็นทุกคนมีเกียรติ

เห็นความสำคัญของประสบการณ์ชีวิต

จะไม่มีการแบ่งพวกเหมือนกลุ่มอื่นประพฤติกัน

พระอาจารย์ยกตัวอย่างถ้าให้คนขายก๋วยเตี๋ยว

มาสอนวิธีทำก๋วยเตี๋ยว สอนได้ทันที

แต่ถ้าให้ครูสอนจะต้อง..เตรียมแผนการสอนก่อน

และก็อาจจะสอนไม่ได้ดีเท่าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว

 

ดังนั้นควรเคารพในตัวคนเป็นพื้นฐาน

ส่วนความรู้ในตำราควรเอาเป็นเครื่องมือ 

สิ่งที่โดนใจมากพระอาจารย์บอกว่า

เราถูกสอนให้เอาความรู้นำ ทำให้ไม่มีพลังพอ

จะมีปัญหาเรื่องกลัวความรู้ไม่พอ

เรียนมาไม่เก่ง สู้คนอื่นไม่ได้ เกิดความไม่มั่นใจ กล้าๆกลัวๆ

คนเรามีเมล็ดพันธุ์ความดีในใจทุกคน

ถ้าทำอะไรเอาใจเป็นตัวตั้งจะเกิดความกล้า

ใจมันรวมกันได้ ความรู้รวมกันยาก

ควรเอาใจนำหน้า วิชาการตามหลัง

หมายความว่า..ไม่ควรเอาความรู้ เอาตำแหน่ง เอาหัวโขนเป็นตัวตั้ง

แหมกรณีนี้ตรงประเด็นกับที่ชาวแซ่เฮยึดถือกันมา

ใจสั่งมา สำคัญที่ใจ ใช่ไหมแป๊ด..

 

อีกประเด็นหนึ่ง

เรื่องสุนทรียสนทนา

ประเด็นนี้ก็ตรงกันอีกนะหมอเจ๊

เน้นการฟังอย่างลึก

แต่ในบล็อกเน้นการอ่านแบบลึก

อาจารย์ยังแนะให้สามีภรรยาจับคู่กันฟังด้วยนะ

ผมมาคิดต่อว่าการฟังเรายังไม่ดี

ไม่ใช่แอบฟังนะ

ไม่ใช่ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา

และไม่ใช่เป่าปี่ให้ควายฟัง

แต่ควรหัดฟังคนอื่นอย่างประณีต

(ถ้ายังสงสัยถามคุณหมอชอบวิ่ง)

 

อีกเรื่องหนึ่งที่ตรงกับชาวแซ่แฮ

เรื่องความไม่เป็นทางการ

ความไม่เป็นทางการมีมาก่อนความเป็นทางการ

คนไทยติดฟอร์ม ยึดรูปแบบมากกว่าสาระ

ลีลาท่าทางท่าทีเยอะเหลือเกิน

 

ความสุขโลว์คอร์ส ความสุขราคาถูก

·        การเจริญสติ ระยะเวลากับระยะทาง

ควรกำกับด้วยสติ เวลาเราเจริญสติ จะเกิดอิสระ เกิดความงดงาม

จิตสงบ มองอะไรเป็นสุข

เจริญสติ คือเปลี่ยนจากคิด เป็นรู้  ผู้รู้หมายถึงจิตรู้

คนเรามักเกิดความทุกข์จากความคิด ถ้าหยุดคิด หยุดทุกข์

ได้ยินได้ฟังอะไรมา อย่าด่วนตัดสินใจ ให้แขวนไว้

รอให้สงบจะเกิดฉุกคิดได้  รู้วิธีอยู่กับปัจจุบันจะเกิดปัญญา

·        ปลุกจิตสำนึกใหม่

·        จิตตปัญญาศึกษา

 

คนไทยกำลังขาดความมั่นใจทั้งชาติ

ขาดจินตนาการ

ใช้อำนาจมากเท่าใดจะเกิดความขัดแย้งมากเท่านั้น

การเมืองคือการช่วงชิงเข้าสู่อำนาจ

ความขัดแย้งจะเกิดจากการเมือง

เราควรช่วยกันทำให้เกิดการเมืองแบบธรรมาภิบาล

 

ความเป็นธรรมสำคัญมาก

การปกครองแบบรวมศูนย์จะใช้อำนาจมาก

เราจะบริหารอำนาจอย่างไร

  

(คุณหญิงฯมีวิธีบรรยาย ที่อัดแน่นด้วยข้อมูลความรู้เชิงรุก ความเห็นความจริงที่กระจ่าง)

คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์

ฟันธงว่าระบบราชการอ่อนแอไม่มีภูมิคุ้มกันตัวเอง

ข้าราชการจึงกลัวการเมืองล้วงลูก ก้าวก่าย เล่นพวก 

เมื่อเป็นอย่างนี้จะเหลือเรอะพี่น้อง

มันก็ยุ่งยิ่งกว่าลิงแกะแห นะขอรับ

 

 

(หน่วยบรรเทาทุกข์ความขัดแย้ง) (กลุ่มประชุมวางแผนหาข้อมูล)

หมายเลขบันทึก: 217841เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2008 20:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

สวัสดีค่ะพ่อครู

อ่านแล้วได้ความรู้เพรียบเลยค่ะ ถูกใจประโยคนี้ค่ะ "ควรเอาใจนำหน้า วิชาการตามหลัง"

คนส่วนใหญ่ติดหัวโขน กลัวหัวโขน จนบางครั้งกลายเป็นคนคิดไม่เป็น ใช้ความรู้ความสามารถที่มีไม่เต็มที่

ขอบคุณค่ะ แล้วจะตามมาอีกรอบค่ะ อิอิ แถมอีก อิ .

ขอบพระคุณครับ

  • เหมือนได้ไปนั่งฟังอยู่ด้วยเลยทีเดียว
  • โดนทั้งนั้นเลยครับ
  • ใจมันรวมกันได้ ความรู้รวมกันยาก ... แต่พอรวมใจได้แล้ว .. รวมความรู้ก็กลายเป็น อิ อิ อิ ได้สบายมาก .. ไม่เชื่อโปรดตามไปดู

กราบสวัสดีค่ะพ่อครู

  • หนูขออนุญาตเห็นด้วยกับอาจารย์ Handy เลยค่ะ เหมือนได้ไปนั่งฟังอาจารย์หมอประเวศและคุณหญิงหมอพูดเลยค่ะ เพราะมีภาพประกอบเป็นระยะ
  • นี่ก็เห็นด้วย และชอบมากค่ะ หนูคิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักและเคารพในตัวตนของตนค่ะ

ผมมาคิดต่อว่าการฟังเรายังไม่ดี

ไม่ใช่แอบฟังนะ

ไม่ใช่ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา

และไม่ใช่เป่าปี่ให้ควายฟัง

แต่ควรหัดฟังคนอื่นอย่างประณีต

  • และ... ดังนั้นควรเคารพในตัวคนเป็นพื้นฐาน ส่วนความรู้ในตำราควรเอาเป็นเครื่องมือ หนูคิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักและเคารพในตัวตนของตนค่ะ

ภาพสุดท้าย หล่อเล็ก หล่อกลาง หล่อใหญ่ หรือเปล่าคะพ่อครู :)

ครูฯครับ

บันทึกนี้เจาะตรงมากดีครับ

อำนาจเงินตรา ทะลุทลวง ทั้งสติ สัมปชัญญะ ย่อยยับ

แม้แต่ความถูกต้องอยู่ตรงไหน ยังมองไม่ออกกันเลย ไม่เว้น ระดับไหนๆ 

การกลายพันธุ์ได้เกิดขึ้น  อย่างชนิดถล่มทลาย

ทุนสามานย์ สะกดเมืองไทยไม่กี่ปีเท่านั้น  พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน (ทางเลวร้าย)

ขอบคุณมากๆครับ  ครูฯ

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ คุณครูบาฯ

อาจารย์จับประเด็นมานำเสนอได้เยี่ยมจริงครับ

ได้มากกว่านั่งฟังเสียอีก(นั่งฟังดูหลายอย่าง แต่นั่งอ่านบันทึกอาจารย์ได้อ่าอย่างลึก)

เคยฟังอาจารย์หมอประเวศ ปาฐกเรื่อง "สันติวรบถ"การสร้างสรรค์สังคมให้เข้มแข็งอย่างสันติกำลังทำความเข้าใจอย่างลึกครับ

เสียดายค่ะ ตอนนี้ อยู่แม่สะเรียง นกป่าไม่อาจไปร่วมฟังบรรยายค่ะ

P

ถ้าตาหวานช่วยตรวจคำผิดจะช่วยให้เนื่อหาไม่กระโดด หรือแอ๊วแบ๊ว อิอิ

P

พรุ่งนี้พระอาจารย์ว่างไหม อยากเจอ อยากจ่าย อิอิ

P

เรื่องบริหารผลประโยชน์ ภายใต้กิเลศเฟื่องฟู ทำยาก ควรช่วยกันดูแลกองกลางของสันติสุขสังคม ลอยแพเมื่อใด ความสงบเท้งเต้ง ไร้จุดหมาย บานปลายไปเรื่อยๆ

P

อาจารย์กลับวันไหนครับ รออ่านเรื่อง/ชมภาพ นะครับ

กราบงามๆครับพ่อ

  • ตามติดบล๊อกพ่อไม่เคยลดละ  แต่เพลาเรื่องการเม้นท์  เพราะอยากอ่านแบบลึกๆครับ
  • บันทึกนี้แม้ยังอ่านไม่ลึก(เพราะเพิ่งรอบเดียว)  แต่ก็จับจิตจับใจแล้ว เลยอดไม่ได้
  • เพราะฉะนั้น คงต้องหลายรอบ  พร้อมนำเข้าแพลนเน็ตและนำไปฝากพี่น้องผองเพื่อนที่โรงเรียนด้วยอ่ะ
  • และในส่วนงานของท่าน ศ.นพ.ประเวศ วะสี ครูวุฒิขอละไว้ในฐานที่เข้าใจครับ
  • ธรรมรักษ์ครับพ่อ
  • สวัสดีครับ

สวัสดีค่ะพ่อครู

ได้ความรู้หลากหลายเลยค่ะ

 

ความรู้ในในตำรา (เชิงวิชาการ)    ความรู้ในตัวคน (เชิงวัฒนธรรม)

 

ความรู้มากกว่าคุณธรรม  จึงเกิดเหตุการณ์ต่างๆนานาที่คาดไม่ถึง

 

โดยเฉพาะ  ระบบราชการอ่ออนแอไม่มีภูมิคุ้มกันตัวเอง  ทำให้พากันเสียทั้งระบบ

 

การเคารพคนจะเห็นทุกคนมีเกียรติ

เห็นความสำคัญของประสบการณ์ชีวิต

จะไม่มีการแบ่งพวกเหมือนกลุ่มอื่นประพฤติกัน

พระอาจารย์ยกตัวอย่างถ้าให้คนขายก๋วยเตี๋ยว

มาสอนวิธีทำก๋วยเตี๋ยว สอนได้ทันที

แต่ถ้าให้ครูสอนจะต้อง..เตรียมแผนการสอนก่อน

และก็อาจจะสอนไม่ได้ดีเท่าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว

  • ขอตรงนี้อีกนิดหนึ่งครับพ่อ
  • ข้อความไม่กี่ตัวอักษรเหล่านี้ อธิบายสภาพการณ์ด้านการศึกษาของไทยได้อย่างลึกซึ้ง และตรงเผ็งมากเลยล่ะครับ
  • ในส่วนของโคกเพชรนั้น ได้พยายามสอนแบบแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเป็นส่วนใหญ่ (สอนแบบครูเท่าที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น)  แต่ก็สะดุดลงเมื่อเด็กจบ ป.6 ออกไป  แล้วเข้าสุ่วัฒนธรรมการศึกษาแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับชาวบ้านหรือแบบสุนัขหางด้วนในระดับที่สูงขึ้น  หลายคนเลยร่วงผล็อยไม่จบ ม.3 เพราะวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
  • และไม่แน่ใจว่าการศึกษาแบบแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวของโคกเพชรจะเหนื่อยเปล่าหรือเปล่า?  เพราะยังเห็นชุมชนส่วนใหญ่ก็ยังชอบแบบเอาวิชาการเป็นตัวตั้ง  อยากให้ลูกสอบได้คะแนนสูงๆ เอาชนะคนอื่นได้ และหนีให้ไกลความเป็นชาวไร่ชาวนาให้ได้อยู่เหมือนเดิม  ส่วนจะเป็นคนดี มีประสบการณ์ ทำงานเป็นหรือไม่  เป็นเรื่องท้ายๆ
  • เรื่องนี้พอๆกับการที่เราสอนให้ลูกเขารังเกียจนักการเมืองที่ซื้อเสียง  แต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายอาวอาว์และคนในชุมชนกลับชื่นชอบนักการเมืองที่หอบเงินมาแลกคะแนน  เรียกว่าคนละทางกันเลยล่ะครับ
  • สวัสดีครับ

เห็นด้วยกับคำพูดพี่สาวเรา-คุณหญิงหมอพรทิพย์ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท