หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

พิพากษาตัวเองรึเปล่าที่ไม่กล้าเขียน


จะเขียนเป็นเรื่องราวอย่างไหน ก็แล้วแต่ความรู้สึกที่อยากเขียน เขียนมันแบบคุยกับตัวเองง่ายๆ เหมือนเล่าเรื่องที่พบเห็นให้ตัวเองฟัง ให้ทำใจกับตัวเองไว้ด้วยว่า ว่าเป็นการฝึกเขียนนะเธอ แล้วการฝึกเขียนนะๆ จะเขียนให้เก่งได้ไง เขียนไปไม่ต้องกลัวผิด-ถูก-ดี-ไม่ดี เพราะไม่ได้เขียนแข่งกับใคร หากแต่เขียนเพื่อฝึกฝนตัวเอง เขียนสั้นเขียนยาวเอาหมด

วันก่อนมีสาวสวยคนหนึ่งโทรมาจากพิษณุโลกและแซวว่า ขยันเขียนบันทึกซะจริง หนูนะคอยเป็นพี่ดันยังไง น้องหนูก็ไม่ใคร่เขียนกันเลย ฉันได้ตอบเธอไปว่า ไม่ต้องเขียนอะไรที่ยากๆหรอก เขียนอะไรก็ได้ที่อยากเขียน ไม่ต้องลังเลว่ามันแค่เรื่องกระจิ๊ดเดียวเอง มันก็จะเขียนได้เอง

น้องชายอัยการชาวเกาะมาเยี่ยมและบอกว่า บันทึกที่ฉันเขียนสะท้อนตัวเองออกไป ทำให้คนอื่นได้สะท้อนตัวเองด้วยในอีกมุม วันนี้เลยเอาคำพูดน้องสาวคนสวยมาเป็นโจทย์สะท้อนถามตัวเอง เออ! ทำไมมันเขียนออกมาได้เยอะแยะจนตาแป๊ะอ่านไม่ทัน ตาแป๊ะที่เอ่ยในที่นี้ หมอแป๊ะอย่าเพิ่งสะดุ้งกายา แค่เป็นคำภาษาพาไปไม่ได้หมายถึงคุณหมอนะค่ะ

ในเมื่อมันมีคำถาม มันก็มีคำตอบซิน่า เวลาที่ฉันบอกให้คนเขียนอะไรที่อยู่ในหัวออกมาเป็นภาษาเขียนให้หน่อย หลายคนจะบอกฉันว่า เขียนไม่ออก ไม่รู้จะเขียนอะไร ที่พูดกันอย่างนี้เพราะว่า คนเขียนพิพากษาไปว่า ภาษาตัวเองไม่ดี เขียนไปแล้วคำตัดสินในหัวมีอยู่ คำพูดที่บอกออกมาจึงเลี่ยงว่า หนูไม่มีอะไรให้เขียน 

ไม่แปลกหรอกนะน้องเอ๋ย แต่ก่อนฉันก็เป็นอย่างนี้ ไอ้ที่ไม่เขียนออกมาใช่ว่าไม่มีอะไรอยู่ มันมีอะไรอยู่เยอะแยะค่ะ แต่ความกลัวจะไม่ไพเราะ ไม่น่าอ่านเหมือนคนอื่นเขา จึงทำให้ไม่กล้าเขียนออกมา  

จนกระทั่งมาถึงวันหนึ่ง พบว่าอะไรที่กลัวนั้น มันก็ตัวเองนั่นแหละที่สร้างม่านสร้างหมอกมาคลุมให้มองไม่เห็นมองไม่ชัดเอาไว้เอง สร้างกรอบขึ้นมากักขังให้ความคิดติดกรอบดี-เลว-ไม่ดี ติดกรอบกับความดีที่เป็นคำตัดสินของคนอื่นเขานั่น ซึ่งบางมุมก็ไม่ใช่ดีที่ตัวเองนั้นทำใจยอมรับมันได้ ด้วยมันสูงกว่าที่ตัวเองจะไปถึง แต่แล้วก็ยังจับตัวเองไปเข้ากรอบและแขวนเอาไว้กับคำตัดสินที่คนอื่นเขาสร้างขึ้นมาใช้กับตัวเขาเอง เมื่อคุณสัญญาคนเก่าที่อยู่ในตัวมาร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ผลลัพธ์ที่ออกมา จึงกลายเป็นว่า ไม่เขียนดีกว่า พร้อมกับคำพูดบอกว่า กลัวๆ กลัวผิด กลัวถูกตำหนิต่อว่า กลัวๆจะเขียนไม่ดี

ไอ้ที่กลัวแล้วตัดสินอย่างนี้ มันยังมีคุณสัญญาอีกคนเข้ามาร่วมตัดสินใจ คุณสัญญาคนนี้สำคัญนัก ฉันดื้อแพ่งกับเขาไม่ใคร่ได้ มันยากมันเย็นแสนเข็ญหากจะดื้อกับเขานะค่ะ เขามีชื่อเล่นว่า คุณหมอค่ะ

เดชะบุญว่าฉันมีคุณสัญญาอีกคนที่เป็นเพื่อนหนุนให้ฉันแกร่งและกล้า คุณสัญญาคนหลังนี้จึง สะท้อนคำถามฉันว่า จะไปติดกรอบทำไม เขียนลงไปแล้วบนบล็อก คนเขาจะมาทำร้ายหรือไร เวลาลงมือทำอะไรอยากจะมีความสุขหรือทุกข์ ทำไมจึงกลัวแปลกจริง ไอ้ที่กลัวนะกลัวอะไร กลัวเสียหน้า อย่างนั้นใช่ไหม จะกลัวเสียหน้าทำไม ถ้ากลัวไปว่าจะเสียหน้า ให้คุยกับคุณหมอให้เข้าใจ เพื่อทำความรู้จักเขาว่าเขามีความสัมพันธ์กับคุณสัญญาคนอื่นอย่างไร เมื่อฉันพอจะรู้ใจเขา ฉันเลยดื้อทำอะไรสบายๆได้ไง ทำไปอย่างที่ทำอยู่ในทุกวันนี้แหละค่ะ

ที่ฉันผ่านคุณหมอมาได้ เพราะว่าฉันอ่อนน้อมให้คุณหมอค่ะ ฉันบอกกับเขาไปว่า ฉันเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ทำผิด ทำถูกได้เหมือนคนอื่น ทำผิด ทำถูกอย่างไร ฉันเป็นคนทำขึ้นกับมือเอง ถ้าหากฉันพิพากษาตัวเองว่าถูกแล้วเกิดผลกระทบให้คุณหมอเสียหายละก็ ฉันขอให้คุณหมอยอมรับมัน ในฐานะที่ฉันเป็นคน แล้วฉันก็บอกเขาว่า ถ้าไม่คิดจะแข่งขัน ก็ไม่มีคำพิพากษา และไม่มีคำว่า ผิด-ถูกนะ  อยากเขียนฉันขอเขียนออกมา อะไรก็ได้ที่อยากจะเขียน เขียนความรู้สึกสดๆที่เขียนแล้วมีความสุข ไม่รบกวนคุณหมอช่วยเขียนให้เลิศหรูแบบที่คุณหมอเขียนตำรา ขอเขียนอะไรง่ายๆที่คนธรรมดาเขาทำกันได้ ซึ่งฉันทำแล้วก็สบายใจ

เมื่อกล่อมจนคุณหมอใจอ่อน และมั่นใจว่าการทำเรื่องง่ายๆเป็นเรื่องที่ทำได้อยู่กับการมาเขียนในโก คุณหมอยอมรับข้อเสนอค่ะ เธอช่วยมาบอกฉันว่า ลองเขียนเรื่องเล่าดูซิ เล่าเรื่องประสบการณ์ที่พบในชีวิตในมุมมองและความคิดของหมอคนหนึ่งและความเป็นคนได้เลย จะเขียนเป็นเรื่องราวอย่างไหน ก็แล้วแต่ความรู้สึกที่อยากเขียน เขียนมันแบบคุยกับตัวเองง่ายๆ เหมือนเล่าเรื่องที่พบเห็นให้ตัวเองฟัง ให้ทำใจกับตัวเองไว้ด้วยว่า ว่าเป็นการฝึกเขียนนะเธอ แล้วการฝึกเขียนนะๆ จะเขียนให้เก่งได้ไง เขียนไปไม่ต้องกลัวผิด-ถูก-ดี-ไม่ดี เพราะไม่ได้เขียนแข่งกับใคร หากแต่เขียนเพื่อฝึกฝนตัวเอง เขียนสั้นเขียนยาวเอาหมด เมื่อคุณหมอตอบว่าเอาด้วยก็หมดกังวลที่จะเขียนแล้วเรา

ทั้งหมดที่บันทึกไว้นี้ เกิดขึ้นเพราะกัลยาณมิตร 2 คน ที่มากระตุกความคิด ขอบคุณนะค่ะน้องทั้ง 2 ที่ช่วยต่อลมหายใจให้บันทึกของพี่มีประเด็นกระตุกให้นำมาฝึกฝนการเขียนของพี่อีกเรื่อง

หมายเลขบันทึก: 217425เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2008 20:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
  • สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊คนสวยแซ่เฮ
  • ตอนนี้เขียนบันทึกเก่ง จนเป็นพี่ดัน เจ๊ดัน ไปแล้วนะคะ
  • เห็นด้วยกับคุณหมอค่ะ การเขียนเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรง
  • ทำให้เราเขียนออกได้เยอะนะคะ เพราะเป็นเรื่องของเราเอง
  • ขอให้มีสุขภาพดีค่ะ
  • สวัสดีค่ะ คุณพี่หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ ของดิฉันและอื่นๆ อีกมากมาย...
  • ทุกครั้งที่ได้อ่านบันทึกคุณหมอ.... ขำๆ อมยิ้มๆๆ กับเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ... แต่จริงใจค่ะ
  • ดิฉันเอง ...ก็เป็นคนไร้กรอบค่ะ ... ไม่ยึดติดอะไรมากมาย ... เขียนไปแบบเพ้อๆ ... ...ฝันๆ ... ค่ะ
  • นอนหลับฝันดีนะคะ
  • ดิฉันนอนไม่หลับ ... ดูหนังไม่จบ ... หาแผ่นที่ 2 ไม่เจอ ..

สวัสดีครับ คุณหมอ

  • ขออนุญาตนำข้อคิดนี้ไปใช้ และเผยแพร่ต่อไป
  • ขอบพระคุณ ครับผม

 

  • อ.เอื้องแซะ ค่ะ
  • ที่พี่เขียนได้เยอะนะ
  • เพราะชอบคุยเจ๊าะแจ๊ะกับตัวเองอยู่แล้วมั๊ง
  • พอเขียนสไตล์คุยกับตัวเองแบบไดอารี่
  • มันก็เลยมีเรื่องเยอะแยะให้เขียนออกมา
  • ไม่ติดกรอบว่ากลัวคนอื่นจะมาแอบอ่าน-มาวิจารณ์เรื่องราวด้วยมั๊ง
  • เลยเขียนอะไรได้มากมาย
  • ที่ไม่กลัวก็ด้วยว่า มันเป็นเรื่องจริงของเรา จะกลัวไปทำไมกัน
  • ขอบคุณอาจารย์คนสวย ที่แวะมาคุยให้คลายเหงาค่ะ

ถูกใจหลายครับน้องหมอ ขออนุญาติเอาไปให้เพื่อนร่วมงานศึกษาหน่อย

พี่กำลังจะฝึกอบรมเพื่อนร่วมงานให้เขียนบล็อค ....(ไม่มีเสียงฮือฮาว่าตื่นเต้นที่จะเขียน)

บังเอิญเครื่องมือไม่พร้อมเลยรอก่อน

ระหว่างรอก็เอาเรื่องการเตรียมตัวประกอบอื่นๆมาอบรมก่อนที่ไม่ได้ใช้เครื่องมือนั้นๆ เช่น การฝึกถ่ายรูปตามหลักที่สากลนิยม ให้รู้หลักหน่อย รุ้จักการบำรุงรักษากล้องถ่ายรูป และรู้จักโปรแกรมจัดการรูป

แล้วก็ฝึกหลักการเขียนบันทึก memo รายงานต่างๆ โดยเฉพาะน้องใหม่ที่เข้ามาทำงานในโครงการ คนทำงานแบบโครงการนั้น การเขียนรายงานเป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำ และต้องทำให้ดีด้วย จึงต้องฝึกกัน สิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานการเข้ามาเขียนบล็อคด้วย อิอิ

ที่ยากที่สุดคือ การเขียนบันทึกที่แหละ จะว่าเป็นนิสัย ก็ไม่เต็มปากนัก แต่คิดว่าไม่ได้ฝึกมามากกว่า สมัยโบราณมีวิชาย่อความ เดี๋ยวนี้ไม่มี ทิ้งไปนานแล้ว เลยเขียนบันทึกไม่เป็น อ่านแล้วต้องโยนทิ้งไป เอาไปประกอบรายงานไม่ได้ เลยต้องฝึกกัน อิอิ ไม่น่าเชื่อว่า ต้องมาฝึกคนที่เรียนจบปริญญาในเรื่องเหล่านี้

เก่งแต่พูดจ๋อยๆๆๆๆๆๆ เก่งแต่โทรศัพท์ เป็นชั่วโมงก็คุยได้ จ๋อยๆๆๆๆ... แต่เอาสาระมาบันทึกไม่ได้

เลยขออนุญาติเอาบทความนี้ไปให้น้องๆอ่านนะครับน้องหมอครับ

ขอบคุณครับ

  • น้องอร Bright Lily จ๋า
  • คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงจ๊า
  • พี่นะแอบอิจฉาเล็กๆกับบันทึกของน้องอรนะ
  • คนอะไรหวานซ๊า....ไม่มี
  • ซึ่งมันเป็นอะไรที่พี่ทำไม่ใคร่เป็นเลยอ่ะ
  • ทำไม่เป็นแต่มีคนทำให้อ่าน..รู้สึกขอบคุณมากเลย
  • อ่านบันทึกน้องอรแล้ว มีความสุขค่ะ
  • เพ้อๆ....ฝันๆ....ต่อไปนะน้อง
  • จะได้มีที่ชอบๆให้แวะเวียนชม

สวัสดีคุณหมอเจ๊

ขอใช้สิทธิ์พาดพิง มีการเอ๋ยชื่อผม (ม่านหมอกมาบัง)มีชื่อผมอยู่ด้วย

(ขออนุญาติท่านประธาน พาดพิง ครับพาดพิง ถ้าท่านประธานไม่ไห้ผมใช้สิทธิ์พาดพิง

คุณหมอต้องถอนน่ะครับ ถอนคำว่าบังออก) ไปใช้คำว่าม่านหมอกมาปิดแทน55555555

  • เท่าที่อ่านมารู้สึกว่าบันทึกนี้ของคุณหมอยาวววววเป็นพิเศษ
  • อ่านแล้วก็ให้นึกตามค่ะว่า การเขียนนั้นเขียนเหมือนกับเล่าเรื่องให้ตัวเอง เป็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่งของตัวเอง
  • หืม จริง ๆ ด้วยค่ะ
  • น้อง หนุ่ม กร ค่ะ
  • คาดเดาว่าหมอเจ๊น่าจะเกิดก่อนนะ เลยเรียกตัวเองไว้ก่อน
  • ถ้าน้องเกิดก่อนก็อย่าเปลี่ยนคำเรียกเลยนะ
  • จะได้รู้สึกหนุ่มไง
  • ได้เลย ได้เลย เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ ที่เห็นคุณค่าของมัน
  • พี่ บางทราย ค่ะ
  • ยกเรื่องราวที่เรียนรู้จากพี่ไปเขียนไว้ในอีกมุมมองแล้วนะค่ะ
  • รับรู้ความเป็นคนคุณภาพของพี่จากบันทึกอ่ะค่ะ
  • บังหีม ค่ะ
  • โห..พาดพิงโดยไม่ตั้งใจ ขอถอนๆค่ะ
  • ตั้นประตานครับ พ้มขอต๋อนกำปู๊ดครับพ้ม
  • แก้เป็น "ม่านหมอกมาปกคลุม" แล้วกันนะค่ะ
  • ด้วยว่ามันไม่ถึงกับปิดอ่ะค่ะ มันคลุมให้มัวๆค่ะ
  • บังหีม ค่ะ
  • ขอบคุณที่เข้ามาคุยกัน
  • หมอเจ๊รู้สึกดีกับการที่มีคนเข้ามาคุยด้วยค่ะ
  • ไม่ใช่เพราะ"ติดกับ"เรตติ้ง
  • แต่รู้สึกว่าการได้คุยกับใครก็ได้
  • ทำให้ได้เพื่อนมาหลากหลาย
  • เป็นเพื่อนร่วมโลกที่ช่วยขยายโลกใบเล็กเดิมๆของตัวเอง
  • ให้ได้เป็นโลกที่กว้างขึ้นๆ
  • การคุยกันบ่อยๆแล้วทำให้ค้นพบ "เพื่อน" นี่เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆค่ะ

ขอบคุณครับคุณหมอ

ขอบคุณครับท่านประธาน

เลขาบันทึกไว้ด้วย "เมฆหมอกมาคลุมให้มัวๆ)5555555

  • น้องเพ็ญศรี(นก) ขา
  • มาให้พี่ได้กอดดดดดดดดดดดดดดดอีกละ
  • ขอกอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดก่อนคุยเน้อ
  • อบอุ่นๆ ที่"เพื่อน" ยังอยู่ใกล้ๆค่ะ
  • ตอนเขียนน่ะน่ะ เรื่องมันไหลออกมาเองค่ะ
  • มันเลยยาวแบบเล่าหนังยาวค่ะ
  • ขอบคุณที่มาให้พี่กอดค่ะ
  • บังหีม ค่ะ
  • บันทึกแก้ซะเลยค่ะ
  • แก้แล้วดีแฮะ
  • มันอ่อนโยนลง แบบว่า ไม่ตัดสินอะไรอ่ะค่ะ

สวัสดีค่ะk rutoi ขอตามมาอ่านบทความดีๆ มีข้อคิดด้วยคนค่ะ

  • น้อง krutoi ค่ะ
  • ยินดีต้อนรับไว้เป็นแม่ยกอีกคนค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท