การปฏิบัติธรรมมันเป็นเรื่องยาก เรื่องลำบาก...


การปฏิบัติธรรมมันเป็นเรื่องยาก เรื่องลำบาก ยากที่ทุกท่านทุกคนจะทำได้
บางทีมีศรัทธา มีความเชื่อมั่น มีความเคารพนับถือ แต่เมื่อไปเจออุปสรรคต่าง ๆ นานา ไม่ว่าสิ่งแวดล้อม ความหิวกระหาย ความยากลำบาก อดที่จะหวั่นไหว ท้อแท้ อนุโลมตามความต้องการของตัวเอง “ทำให้ตัวเองล้มลุก คลุก คลาน...”

ตามแท้จริงแล้ว ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราก็ไม่ได้มีการรักษาศีล มีการทำสมาธิ มีการพิจารณา

การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการทำงาน ต้องทำจากจิตจากใจ รับผิดชอบ รักษาเวลา รักษากติกา ทำทุก ๆ วัน ทำตลอด ทั้งทำดี พูดดี พิจารณาดี


เราทำงานทำการก็เพื่อได้มาซึ่งทรัพย์สมบัติ
แต่การปฏิบัติธรรมนี้ เราทำเพื่ออริยทรัพย์ ทำเพื่อเสียสละ
เพราะเรามีทุกข์ เราเสียสละน้อย นี่หมายถึงชาติปางก่อน
อย่างเรามารักษาศีล อย่างเรามาวัด พาลูกพาหลานเพื่อมาทำความดี เพื่อมาเสียสละ
เราอยู่ที่บ้าน ที่ทำงานก็เสียสละ ถ้าเราทำความดีจริง ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วจะไม่ยากจน ทรัพย์ภายนอกเราไม่ยากจนแล้วก็มีคุณธรรม

ในตัวของเรามันจะมีทั้งฝ่ายดี ฝ่ายไม่ดี
เราจะทำดีพยามารก็ออกมากวน “เราความรู้มาก กิเลสมันก็มากเหมือนกัน”
เราทำความดี เราไม่ต้องไปสนใจคนอื่นเขา ให้สนใจตนเอง ว่าเราตื่นมาวันนี้ได้ทำความดีแล้วหรือยัง...?
ได้กราบพระ ไหว้พระ สวดมนต์ ภาวนาแล้วหรือยัง...?
เราพูดดี ทำดี คิดดีแล้วหรือยัง...?
สิ่งไหนไม่ดีรับรู้ก็แล้วไป มันไม่เกี่ยวกับเรา เขาจะรวยจะจน เราก็ไปช่วยอะไรเขาไม่ได้
เขาจะต่อยกัน ตีกัน คนนี้จะเป็นอย่างนั้น คนนั้นจะเป็นอย่างนี้ เราก็ไปช่วยอะไรเขาไม่ได้ เราจะต้องดูแลตัวเอง เราจะได้เป็น “สุขโต...” อยู่ที่ไหนก็สบาย อยู่ไหนก็มีความสุข
จะได้ไม่ไปโทษดินฟ้าอากาศ โทษสิ่งแวดล้อม เราทำอย่างนี้นั้นเรียกว่า “ปฏิบัติธรรม” 


เราจะเป็นโยม เป็นพระ หรือเป็นแม่ชี เราก็ปฏิบัติความดีของเรา คนอื่นทำแทนเราไม่ได้ “ทุกคนเกิดเองก็ตายเอง...”
อันไหนไม่ดีก็แก้ใหม่ อันไหนดีก็ยิ่ง ๆ ขึ้นไป อย่าไปฉายแต่หนังม้วนเก่า...

อาตมาก็ปฏิบัติ ทุกคนก็สร้างบารมีอย่างนี้แหละ อย่าไปถามว่านิพพานมันเป็นอย่างไร หมดกิเลสก็รู้กันเอง
กินข้าวอิ่มเป็นอย่างไร ถามคนอื่นมันถามลำบากนะ...!

อยู่ในโลกนี้มีสิ่งให้เราหลง ให้เราเพลิดเพลินนั้นมีมาก
ความสวยของคนมันไม่ได้อยู่ที่ร่างกาย มันสวยอยู่ที่ใครมีศีลมาก ใครรักษาศีลได้มาก ใครมีจิตใจที่ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม ลาภ ยศ สรรเสริญ
อยู่ที่บ้านก็ไม่ติดบ้าน มีทรัพย์สมบัติก็สักแต่ว่ามี เราต้องพัฒนามหาจุดนี้
หนทางมันใกล้จะมาถึงวันของแต่ละท่าน

เราปฏิบัติธรรมนี่มันไม่มีอะไรที่เสีย มันได้ทั้งมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ
ถ้าเรายังไม่หมดสิ้นอาสวะ เราก็ยังได้มีบารมีที่เป็น “ต้นทุน...”

องค์พ่อ แม่ ครู อาจารย์

วันออกพรรษา (๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๑)

คำสำคัญ (Tags): #การปฏิบัติธรรม
หมายเลขบันทึก: 216608เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2008 00:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สาธุ โชคดีของkrutoi ได้อ่านธรรมะ ชะล้างจิตใจ ให้ได้คิดเตือนสติบ่อยๆ จนเกิดเป็นวาสนา ก่อนไปสวดมนต์ไหว้ นั่งสมาธิ กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ค่ะ

"อย่าไปถามว่านิพพานมันเป็นอย่างไร หมดกิเลสก็รู้กันเอง"

สาธุ ใช่เลย

แม้ช่วงเวลาสั้น ๆ

ก็เป้น นิพพานน้อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท