หนังสือส่งเสริมการอ่านสำหรับเยาวชน


เรือ

                อันที่จริงเรือที่บ้านนุตมี    ลำ  เป็นเรือสำปั้น ขนาดเล็กนั่งได้คนเดียวเหมือนเรือที่พระใช้พายมาบิณฑบาต  กับขนาดกลางที่นั่งได้สาม สี่คน  ลุงโต  พี่ชายคนโตกับพี่สะใภ้ของแม่ใจดีอุตส่าห์ไปหาจากสมุทรสาครมาให้  ตั้งแต่เมื่อน้ำท่วมบ้านครั้งแรก  ลุงโตบรรทุกเรือมาบนรถตู้ กว่าจะถึงก็โดนตำรวจเรียกตลอดทาง แต่เมื่อลุงโตอธิบายให้ฟังว่า

                จะเอามาช่วยน้องซึ่งประสบภัยน้ำท่วม   ตำรวจก็ให้ผ่านมาได้ด้วยดี 

                ลุงโตบอกว่า ลำบากก็ตอนมาถึงนี่แหละ เพราะลุงต้องจอดรถไว้ที่ถนนปากทางเข้าบ้านโน่น  มาคนเดียวจะยกเรือลงจากรถได้ยังไง  เวลานั้นก็ยังไม่มีโทรศัพท์  จะลุยน้ำเข้ามาเรียกคนในบ้านไปช่วยยกลงก็ใช่ที่  บังเอิญมีชาวบ้านที่พาฝูงวัวหนีน้ำไปอาศัยอยู่ริมถนน  เขาคงเห็นลุงทำท่าจะยกเรือลงจากรถคนเดียว  เขาก็เข้ามาช่วย  ยิ่งรู้ว่าจะเอามาให้ที่บ้านของเรา ชาวบ้านก็เต็มใจช่วยเป็นอย่างดี  ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่จะมีบุญคุณอะไรกับชาวบ้านหรอกนะ  แต่เป็นเพราะพวกเราเป็นลูกหลานของย่าถนอมและป้าใหญ่ซึ่งเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือของแทบทุกคนในหมู่บ้านต่างหากล่ะ

                เมื่อลุงเอาเรือลงน้ำได้แล้วก็รีบจ้ำบึ๊ดๆๆๆๆ อย่างรวดเร็ว เพราะถ้ามัวชักช้า เรือต้องจมก่อนถึงบ้านแน่ๆ ก็เรือที่ลุงเอามาให้น่ะลำนึงเป็นเรือเก่า รั่วทุกทิศทาง แถมโคลงอีกต่างหาก ส่วนอีกลำถึงแม้จะเป็นเรือใหม่  ก็ยังไม่ได้ยา และพ่อบอกว่าเป็นเรือที่ทำจากไม้ยางสด  คุณภาพไม่ดี การยืดและหดตัวสูง  

                แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของลุงโตที่เป็นห่วง เป็นใยพวกเรา

                นุตและพี่ๆ ไม่ค่อยชอบเรือสำปั้น ทั้งสองลำที่ใช้กันอยู่เพราะว่ามันเล็กและโคลงกว่าเรือพายม้าของบ้านย่า 

                เรือพายม้าเป็นเรือลำใหญ่  จุคนได้มากกว่า    คน  ย่าจะใช้เรือลำนี้เป็นพาหนะในการประกอบอาชีพขายผักผลไม้เท่าที่จะหาได้ในเวลานั้น  รวมถึง ตะโก้เผือกที่ป้าใหญ่เป็นคนทำ  และยามใดที่ย่าเสร็จภารกิจ  ป้าใหญ่ก็จะพายเรือลำนี้ไปสวน  เพื่อดูว่ากล้วย  มะดัน  น้อยหน่า  ฯลฯ ที่อุตส่าห์ปลูกไว้  จะล้มตายหรือไม่ และมีอะไรที่พอจะเก็บกินได้บ้าง  และแน่หละ ป้าใหญ่จะต้องพายเรือผ่านบ้านพวกเรา แล้วเราก็จะได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

                ณัฐ  นันท์  นิธ  นุต  โอย! ไปไหนกันหมดเนี่ย เงียบเชียว

                ไอ้ที่เงียบเนี่ย เพราะพวกเราได้ยินเสียงพายจ๋อมๆ มาแต่ไกล  ความจริงเราอยากจะกระโดดลงเรือที่ป้าใหญ่พายมาใจจะขาด  แต่พี่ณัฐหลานโปรดป้าใหญ่สั่งให้พวกเราอยู่เงียบๆ จะได้แกล้งป้าใหญ่  เพราะรู้ดีว่าป้าใหญ่เป็นห่วงพวกเรามาก  กลัวว่าจะแอบไปเล่นน้ำ หรือพายเรือออกไปไกลบ้านแล้วตกน้ำตกท่าไปไม่มีใครเห็น 

                แต่ขึ้นชื่อว่าป้าใหญ่ มีรึจะหลงกลหลานๆ เพียงแค่บ่นๆ ออกมาเบาๆ ว่า

                เฮ้อ! ไม่มีใครอยู่  อุตส่าห์เอาขนมมา........

                เสียงของป้าใหญ่ยังไม่ทันจะจบประโยคดี  ไอ้หมูนิธพอได้ยินคำว่า ขนม เท่านั้นแหละรีบแทรกตัวโผล่พรวดออกมาจากพรรคพวก เสนอหน้าผวามาหาป้าใหญ่ทันที

                ในที่สุดพวกเราทั้งสี่คนก็ได้ลงเรือลำใหญ่สมใจ  แถมได้กินขนมฝีมือป้าใหญ่  คราวนี้ป้าใหญ่พายท้าย  พี่ณัฐพายหัวเรือ  ป้าหลาน พายเรือไปบนผืนน้ำซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นท้องทุ่ง มีต้นข้าวเขียวขจี  แต่บัดนี้เห็นแต่น้ำโล่งไปทั้งทุ่ง

                ตลอดทางป้าใหญ่จะทักคนโน้นคนนี้  นุตเห็นชาวบ้านแต่ละคนใช้เรือไม่เหมือนกัน พี่ๆ ก็ไม่มีใครรู้จักว่าเรือรูปร่างอย่างนี้เรียกว่าเรืออะไร  ดังนั้นชื่อเรือจึงเป็นภาระหน้าที่ ที่ป้าใหญ่ต้องคอยอธิบายให้หลานๆ ฟัง

                เรือของทิดเกิดที่กำลังเก็บปลาออกจากข่ายน่ะ  เรียกว่าเรือป๊าบ หรืออีป๊าบ บางคนเรียกอีแปะ   เป็นเรือที่ค่อนข้างเบา เคลื่อนตัวได้รวดเร็ว และไม่โคลงมาก

                 ส่วนเรือที่บ้านของป้าเล็กเรียกเรืออีโปง  เป็นเรือที่ขุดจากไม้ทั้งต้น  มีน้ำหนักมาก เคลื่อนตัวช้า แต่ไม่ค่อยโคลง   

                 เรืออีกแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนของใครในหมู่บ้าน เห็นจะเป็นเรือของน้าทิดลาน แกมีลูกหลานหลายคนเรือที่ใช้จึงเป็นเรือลำใหญ่ เขาเรียกกันว่า เรือมาด  เป็นเรือขนาดใหญ่  ส่วนมากลำเรือจะนำต้นไม้ใหญ่ๆ ทั้งต้นมาขุด และต่อกราบเรือให้สูงขึ้นมาอีก  นั่งได้หลายคน บรรทุกได้มาก การทรงตัวดี ไม่โคลง มีน้ำหนักมาก

                 ลำที่กำลังพายทวนน้ำ แต่แล่นฉิวมานั่นเรียกเรือบด เป็นของตาอาจ  เป็นเรือเล็ก เคลื่อนตัวได้สะดวก  รวดเร็ว  นั่งได้คนเดียว  โคลงมาก  คนไม่เคยนั่ง มักจะล่ม เพราะต้องอาศัยการทรงตัวที่ดี              ส่วนเรือน้าแจ๊วที่อยู่ข้างบ้านป้าใหญ่เป็นเรือหมู  มีขนาดกลาง หัวเรือเป็นไม้ไม่ใหญ่นัก  แหวกไปในป่าหญ้า หรือพงข้าวได้ดี เพราะน้าแจ๊วต้องพายเรือไปหาหญ้ามาให้วัว ซึ่งตอนนี้เลี้ยงไว้ที่ถนนแล้ว

                ป้าใหญ่พายเรือไปพลางก็จาระไนชื่อเรือต่างๆ ไปพลาง คุยกันเพลินเรือมาถึงสวนโดยไม่รู้ตัว  สีหน้าและแววตาของป้าใหญ่สลดลง  กล้วยบางต้นเอียง  บางต้นโผล่มาเพียงปลายใบ  กล้วยหลายเครือที่ต้องถูกตัดก่อนเวลา  น้อยหน่าไม่ต้องพูดถึง  ถูกน้ำท่วมสูงเลยครึ่งต้น ยืนตายหมดแล้ว  เสียงหลานๆ ที่ดังแข่งกันเมื่อครู่ก็ค่อยๆ เงียบลง

                ทุกคนและโดยเฉพาะป้าใหญ่คงภาวนาอยู่ในใจว่า  ขอให้น้ำลดลงเร็วๆ เถอะ เจ้าประคุ้ณ

 

หมายเลขบันทึก: 215658เขียนเมื่อ 10 ตุลาคม 2008 22:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เรารอคอย คำแนะนำ ความคิดเห็นของท่านอยู่นะจ๊ะ

ข้อมูลเพิ่มเติมเล็กๆน้อยน้อย ของเรือสำปั้น หรือ สามปั้น และเรือโบราณชนิดอื่นๆคับ

http://www.skn.ac.th/skl/project/boat1/gellery.htm

สำหรับเรือ อีโปง ก็เว็บนี้เลยคับ ถ้าท่านไหนไม่อยากเลื่อนหา ก็กด Ctrl+F แล้วพิมพ์คำที่ต้องการได้เลย เช่นกด Ctrl+F แล้วพิมพ์คำว่า อีโปง คับ

http://11152.net/bawai/Pakkred%20MB.htm

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท