ภาพเล่าเรื่องจากการเดินทางเกาหลีศึกษา
จุดแรกที่ทุกคนต้องถ่ายภาพกันก็คือ สะพาน ในกรุงโซลมีสะพานข้ามแม่นำ ข้ามทะเล มากถึง 28 แห่ง เราผ่านสะพานนนี้ระหว่างทางจาสนามบินอินชอลไปยังกรุงโซล |
เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราใช้รถบัสของคณะเดินทางเป็นห้องทำงานเคลื่อนที่กัน ห้องวางแผนการทำงาน กำหนดประเด็น สรุปงานในทุกครั้งทั้งกอ่นและหลังจากไปพบหน่วยงานต่างๆ |
ระหว่างทางจากสนามบินอินชอนไปยังที่พัก เราเห็นภูเขาขยะที่นำขยะมาทับถมกันแล้วปลูกต้นไม่ทับหน้าดิน กลายเป็นห้องเรียน ส่งแวดล้อมให้กับเด็กในโซล |
หลังจากถึงโรงแรม Best Western ในกรุงโซล ราว11.00 พวกเรารวมตัวกันที่ล็อบบี้โรงแรม มีคุณหมอมงคล เป็นหัวหน้าทีม เรากำลังจะไปทานข้างกลางวันแบบเกาหลีเป็นมือ้แรกของการเดินทาง โดยมีคุณปู ไกดูประจำทริปนี้พาไป
|
ก่อนขึ้นร้านอาหารที่อยู่ชั้น 5 (ในเกาหลีที่ดินแพง จึงต้องบริหารจัดการพื้นที่แบบนี้) เราเจอร้านเกมคเฟ่ ต้องบอกว่าร้านเกมคาเฟ่ในเมืองไทยดูดีกว่าเยอะ ในนี้มีการสูบบหรี่ในร้านืแต่ที่นี้ไม่ใช่เรนื่องแปลกเพราะเป็นวัฒนธรรมปกติ |
อาหารกลางวันมื้อแรกของเรา ไก่ผัดนำมันงา เริ่มต้นจากผัดไก่กับผักตามด้วยน้ำมันงา ซอสเกาหลี หลังจากนั้นตามด้วยข้าว และยังมีเส้นคล้ายกับก๋วยจั๊บบ้านเรา แต่เหนียวกว่า เนื้อแน่นกว่า อร่อยทีเดียว |
งาน Media Content Fair เป็นศูนย์นิทรรศการด้านไอซีที ที่เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม ท่องเที่ยว กีฬา และ หน่วยงานด้าน Economic Technology เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและนวัตกรรมใหม่ด้าน ICT |
นี่เราได้ภาพจิตกรรมแบบที่ทันใจโดยอาศัยเทคโนโลยีมาช่วย คุณหมอพรรณถึงการบอกว่า ไม่ต้องไปจ้างคนวาดภาพเหมือนให้เสียเวลาเลย |
อีกหนึ่งประโยชน์ของไอซีทีที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยสอนการข้ามถนนให้กับเด็กๆ นำแอลซีดีมาติดข้างบเพดาน แสดงภาพรถยนตร์วิ่ง หยุด โดยให้เราข้ามถนน จะมีเสียงเตือนเมื่อรถจะวิ่ง เราต้องเร่งข้าม หรือ หยุด งานนี้คุณหมอกฤษ คุณหมอมงคล จาก สสส.สนใจเป็นพิเศษ |
ปลาอิเล็กทรอนิกส์ คุณหมอพรรณกำลังสร้างปลาดิจิตอลในบ่อปลาที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ที่สำคัญ ปลาที่เราสร้างรู้จักเจ้าของโดยใช้ RFID |
ห้องเรียนดนตรีดิจิตอล มีเครื่องดนตรีทุกประเภทในห้องนี้ ดูแล้วเห็นประโยชน์ของไอซีทีจริงๆ น้องีอ๋กำลังสร้างเพลงด้วยตนเอง |
ห้องเรียนดิจิตอลที่ใช้ระบบเซ็นเซอร์หลังฝ่ามือมาช่วยทำให้เราสามารถอ่านหนังสือดิจิตอลบนโต๊ะยาวๆนั่นได้ เมื่อเราเอามือไปแตะที่โต๊ะก็จะปรากฏรายละเอียดเนื้อหาให้เราอ่าน |
ปลาดิจิตอลที่เราตื่นตาตื่นใจกัน |
คุณลี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์แห่งนี้ ต้อนรับเราอย่างดีทีเดียว |
พี่ลัดดา กับ อาจารย์แหวว |
นอกจากห้องฉายหนังแบบ 4D แล้ว ยังมีห้องเกมที่เราทุกคนร่วมเล่นเกมแข่งรถกัน ห้องนี้บอกเราถึงเทคโนโลยีด้านการพัฒนาเกม ห้องทดลองการเล่นเกม |
ห้อง 4D ที่แสดงภาพยนตร์แบบสี่มิติ ที่มีการสร้างบรรยากาศด้วยลม การสั่นสะเทือน กลิ่น น่าสนใจมาก โดยใช้วัฒนธรรมเป็นตัวเล่าเรื่อง อาจารย์แหววกำลังหาทางให้มาฉายในไทย เด็กไทยจะได้ดูกัน |
คณะที่ปรึกษากับห้องแสดงตัวละคร เราเรียกว่าห้องตุ๊กตุ่น ตุ๊กตาที่เป็นผลงานของ KOCCA ของเกาหลีที่ผลิตขึ้นและขายลิขสิทธิ์ในตัวการ์ตุนไปทั่วโลก |
ทีมงาน ที่ปรึกษา นักวิจัย กับภาพประทับใจของแนวคิดและความพยายามของรัฐบาลเกาหลี |
อาจารย์แหวว กับ อาจารย์แอ๋ว สองที่ปรึกษา |
ตอนเย็นเราไปโรงเรียนสอนทำกิมจิ ที่นี้ห้ามคนเกาหลีเข้ามา (ได้ความว่า คงแปลกดีถ้าให้คนเกาหลีมาเรียนทำกิมจิ) |
ขยันทำรูปแนะ..แต่ดีๆ
สวยๆ
ไปเรียนภาษาเกาหลีกันค่ะ
เขาว่ากันว่ากรุงโซลเป็นเมืองที่สะอาดจริงหรือเปล่าคะ
รัฐบาลเกาหลี เขาทุ่มเทกับการสร้างแรงบันดาลใจให้คนในประเทศ เกิดการพัฒนา น่าชื่นชมนัก พอนึกถึงนักการเมืองไทยที่ไร หดหู่ใจทุกที
ในกรุงโซลสะอาดจริงครับ เผมเดินถือกระป๋องนำจนเมื่อย ไม่เห็นถังขยะ แต่ก็ไม่เห็นขยะบนท้องถนนเลย
ไปงานนี้ แล้วอยากเป็นเด็ก
แต่ต้องเป็นเด็กเกาหลีนะคะ
เป็นเด็กไทย กลัวถูกบังคับให้ท่องจำ
สวัสดีคะอ.โก๋
ขอชื่นชมข้อมูลต่างๆที่นำเสนอคะได้สาระและมีประโยชน์
กับทุกคนทั้งที่ไปในคณะและที่ไม่ได้ไป
พี่เองตอนนี้ก็กำลังปั้นบทความเกี่ยวกับเกาหลี
เพื่อลงในประชาทรรศน์เช่นกันคะ
แต่เป็นมุมมองในมิติวัฒนธรรมที่เบาๆคะ
เพื่อสนองสถานการณ์สังคมชั่วโมงนี้
ใช้ชื่อเรื่องว่า "เอาเยี่ยงเอาอย่างวัฒนธรรมสองฟากฝั่งแม่นำฮัน (บางเรื่อง)"
เผอิญที่ผ่านมาเหตุการณ์บ้านเมืองปั่นป่วน
เลยไม่มีกระจิตกระใจโทรไปกวนใจคะ
ยังไงๆก็คิดถึงทุกคนคะ
รัก
พี่ลัดดาคะ