ธรรมะกับวิทยาศาสตร์ 2

รู้จัก ทุกข์ ดีหรือยัง

          ทุกข์ ตามความหมายทางพุทธศาสตร์  หมายถึง ทนอยู่อย่างเดิมได้ยาก  หรือทนได้ยาก  หรือสุดจะทน ก็แล้วแต่  

ตามความหมายนี้ต้องอธิบายเพิ่มว่า ทำไมพุทธศาสตร์ ต้องพูดถึงแต่เรื่องทุกข์ ในโลกนี้มีความสุขมากมายทำไมมองแต่ทุกข์  พระพุทธเจ้าทำไมต้องสอนให้ออกจากทุกข์อย่างเดียว  อย่างอื่นไม่ทรงสอน

          มองตามหลักทางวิทยาศาสตร์ เราเห็นโลกเหมือนกับที่พระพุทธเจ้าทรงเห็น แต่เราไม่ฉลาดพอที่จะรู้ เนื่องจากมีสิ่งอื่นที่น่ารู้มากกว่าในความคิดของเรา    เมื่อมอง ทุกข์ ของตัวเราเอง ตามความหมายของพระพุทธเจ้า  ก็มีทุกข์มาตั้งแต่ปฏิสนธิ จนโต แต่งงาน มีลูก ตอนนี้ผมเริ่มเปลี่ยนสี  นี่เหละคือทุกข์ เพราะตั่งแต่จำความได้ ร่างกายไม่มีอะไร ทนอยู่อย่างเดิม เลย นอกจากความรู้สึกว่ายังไม่แก่ แม้แต่กรวดหินดินทรายที่ว่าคงทน  พอเรารู้กระบวนการ การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก เราก็รู้ทันที่ว่า มันก็เป็นทุกข์ กรวดหินดินทาย ไม่มีชีวิต อยู่ได้ทนนาน แต่มันก็  ทนอยู่อย่างเดิมได้ยาก  พูดถึงระบบสุริยะ  กลุ่มดาวฤกษ์  แกแลกซี ก็ไม่มีสิ่งใด  คงทน  เลย  เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด  นั่นคือทนอยู่อย่างเดิมได้ยาก

           ส่วนเรื่องทุกข์กายทุกข์ใจ ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ คับแค้นใจ เป็นทุกข์ใช่ใหม

เพราะ  ทนได้ยาก  แม้แต่ความสุขกายสุขใจ สบายกาย สบายใจที่ว่าเป็นสุข  มันก็ไม่คงทน ก็คือ ทนอยู่อย่างเดิมได้ยาก

           ความทุกข์กาย ทุกข์ใจ หรือจะสุขกาย สุขใจ เรียกว่า เวทนา เป็นทุกขเวทนา หรือสุขเวทนา  หรือไม่ทุกข์ไม่สุขอยู่เฉยๆ  ก็เรียก อทุกขมสุขเวทนา  ล้วนเป็น  ทุกขเวทนา ทั้งสิ้น  เวทนาแปลว่า  รู้สึก  ทั้งหมดนี้ก็ยังจัดอยู่ในทุกข์อยู่ดี  เพราะทุกอย่าง ทนอยู่อย่างเดิมได้ยาก

           มีคำถามมาเพิ่ม 

           1. แล้วทำไมพระพุทธเจ้าทรงสอนให้ออกจากทุข์ ?

           2. ทำไมวิชาที่ไม่ได้ทำให้พ้นทุกข์ จึงเรียก เดรัจฉานวิชา ?

ช่วยคิดหาคำตอบหน่อย

[วรเชษ]

ทั้งหมดเป็นทุกข์ จ้า

[วรเชษ]

เล็ก หรือ ใหญ่

ดี หรือ เลว

ล้วนเป็นทุกข์ จ้า น้องฝน

[Chatwarin]

หนูก้มีความทุกข์ค่ะ พี่วรเชษคงจะเดาได้ใช่มั้ยค่ะ แบบว่าเด็กสมบูรณ์น่ะค่ะ

[วรเชษ]

ถึงจะทุกข์ ก็ต้องตัดใจในความเคยชิน