ชื่อเรื่อง รายงานการสร้างแบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขามสะแกแสง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา
ผู้รายงาน นางเพียรผจง เนตระกูล กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ปีที่พิมพ์ 2551
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะและเพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนขามสะแกแสง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา เขต 5 จำนวน 44 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกโดยการสุ่มแบบง่าย (Simple Random sampling) ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือโดยใช้การหาสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของแบบสอบถามทั้งฉบับ เท่ากับ 0.70 ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด คือ แบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ, แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน สถิติที่ใช้ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่า t-test (Dependent Samples) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.01
ผลการวิจัยพบว่า แบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.68/85.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80, การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษก่อนการใช้แบบฝึกเสริมทักษะและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.01 (p-value=0.000) และความคิดเห็นที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในระดับมาก ( =4.41, S.D.=0.66)
โดยสรุป การสร้างแบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่สร้างขึ้นสามารถนำไปใช้เป็นแบบบทเรียนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียน ซึ่งครูผู้สอนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพได้ ในการทำวิจัยครั้งต่อไป ควรเปรียบเทียบการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกับวิธีสอนแบบต่าง ๆ ที่ใช้สื่อ อุปกรณ์ หรือการศึกษาด้วยตนเองในแบบฝึก
เสริมทักษะชนิดอื่น เพื่อจะได้ศึกษาวิธีสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียนมากที่สุด อันจะเป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
มีความมานะ ขยัน คิดสร้างสรรค์ ดีครับ