หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ใช้ความกลัวเป็นครู(4)


การหลงออกนอกเส้นทางที่มักจะพบกันอยู่เสมอ ก็คือ การปรุงแต่งต่อเรื่องจริงให้เกิดเป็นเรื่องใหม่ จนกระทั่งเรื่องใหม่นี้หลอกตัวเองให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องจริง การปรุงแต่งนี้เกิดขึ้นมาได้ด้วยการคุยกับตัวเองแล้วความกลัวนั่นแหละที่มันเติมเรื่องแต่งเรื่องเพิ่ม ความกลัวนั่นแหละที่มันทำให้รีบมีการตัดสิน ความกลัวทำให้คิดเอง เออเอง เติมให้เป็นเรื่องที่ใหญ่มากกกก ทั้งๆที่เรื่องจริงมันไม่ได้มีอะไรมากมายอย่างที่คิดเลย

ถ้าชีวิตทุกนาทีคือการทำงานละก็  ความกลัวก็เป็นสภาวะอันหนึ่งที่คนไปให้ค่า ไปตัดสินมันตามมุมมอง/ความรู้สึก ทั้งๆที่ตัวของมันเองไม่ดีไม่เลว  ผลจากการฝึกฝนที่ฉันได้เรียนรู้มาคือ การคุกคามหรือบังคับ และ การไม่ทำอะไรหรือไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร ไม่ใช่คำตอบของความพอดีหรือความสมดุลที่ต้องการในการใช้ความกลัวให้มันเป็น "ตัวช่วย" ให้กับการใช้ชีวิต ทั้ง 2 ประเด็นของพฤติกรรมเป็นเรื่องของความสุดโด่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับชีวิต   

 

คนเรานั้นไม่รู้ตัวว่าที่ใช้ชีวิตอยู่ทุกนาทีนั้น ตัวเองรู้สึกอยู่ลึกๆเสมอว่ากำลังลงสนามอะไรสักอย่าง  การมีอะไรลึกๆเกี่ยวกับการลงสนามนี่แหละจึงทำให้มีการให้ค่ากับความเก่ง ความแกร่ง ความเจ๋งของคนที่สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งสังคมเรียกมันว่า ค่านิยม  เมื่อสังคมให้ค่ามัน มันจึงสะสมขึ้นมาในใจคนทีละนิด   ความกลัวเป็นผลพวงหนึ่งที่เป็นผลของการสร้างค่านิยมเหล่านี้ขึ้นมา 

 

เมื่อคนที่ให้ค่ากับความเก่ง ความแกร่ง และความเจ๋งถูกทำร้าย ถูกโจมตี และทำให้เหนื่อย เขาจะรู้สึกว่าโลกนี้ไม่ปลอดภัย  ความปลอดภัยในที่นี้คือ การได้รับการยอมรับในความเก่ง ความแกร่ง ความเจ๋ง  ความกลัวในที่นี้ก็คือ การไม่ได้รับการยอมรับ การไม่ได้รับการยอมรับทำให้คนยึดมั่นและให้ค่ากับเรื่องเหล่านี้ใช้ความกลัวเป็นตัวช่วยในชีวิตอย่างไม่สมดุล จะมีพฤติกรรมที่สุดโด่งเกิดขึ้น

 

ถ้าตั้งคำถามใหม่ว่ากลไกแบบเดิมๆอะไรที่เมื่อลงสนามใหม่ไปเรื่อยๆแล้วทำให้เขามั่นคงพอ ไม่หวั่นไหวกับความกลัว ที่จะช่วยจรรโลงให้เกิดความสุขในโลกภายในและเกิดความสมดุลกับโลกภายนอก ควรเป็นกลไกที่ทำให้คนมีพลังเหลือพอที่จะสร้างสิ่งดีๆ ทำอะไรที่มีประโยชน์ได้มากขึ้นไปได้อีก การทำให้คนๆหนึ่งได้ทำกิจบางประการทุกๆวัน จนใจได้เรียนรู้และคุ้นชินกับความกลัว รู้เท่าทัน กล้าเปิดใจต้อนรับไว้อย่างยินดี เหมือนการได้พบกับอริที่กลายเป็นมิตร  จะทำให้เขาได้ ฝึกใจต่อไปให้คุ้นชินกับความกลัวจนมันเป็นเพื่อนรัก   เป็นกลไกที่ควรหนุนให้เกิดมีขึ้นมา

 

การฝึกนี้ก็เพื่อให้คนๆนั้นได้รู้จักสภาวะที่ผ่อนคลายไปเรื่อยๆ ใจมันจะค่อยๆจำได้เองว่าภาวะที่สบายๆผ่อนคลายเป็นยังไง ดังนั้นแม้บางครั้งความกลัวเกิดมาในรูปแบบใหม่ อาการจะไม่รุนแรงมาก พฤติกรรมที่ออกมาจะเข้าใกล้สมดุลมากขึ้นๆ  เป็นการฝึกเพื่อให้เขาวางใจให้ถูกจุด ถูกต้องไม่หลงออกนอกเส้นทางของการฝึกให้ยอมรับความกลัวไว้  และจะได้รู้เท่าทันความกลัว กล่อมเกลาความกลัวไว้เป็นเพื่อนประเภทที่แม้มาหาบ่อยๆก็ไม่รังเกียจแต่กลับยินดีที่ได้ต้อนรับ

 

การหลงออกนอกเส้นทางที่มักจะพบกันอยู่เสมอ ก็คือ การปรุงแต่งต่อเรื่องจริงให้เกิดเป็นเรื่องใหม่  จนกระทั่งเรื่องใหม่นี้หลอกตัวเองให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องจริง  การปรุงแต่งนี้เกิดขึ้นมาได้ด้วยการคุยกับตัวเองแล้วความกลัวนั่นแหละที่มันเติมเรื่องแต่งเรื่องเพิ่ม ความกลัวนั่นแหละที่มันทำให้รีบมีการตัดสิน  ความกลัวทำให้คิดเอง เออเอง เติมให้เป็นเรื่องที่ใหญ่มากกกก  ทั้งๆที่เรื่องจริงมันไม่ได้มีอะไรมากมายอย่างที่คิดเลย   

 

ฉันถือว่าการฝึกที่จะเรียนรู้จักกับความกลัวที่ฉันเล่าให้ฟังนี้ มันเป็นบทเรียนอีกบทที่จะนำตนเองออกจากพื้นที่ไข่แดงค่ะ  ขั้นต่อไปที่กำลังจะฝึกก็คือ การจะไม่ลงมือจัดการอะไร ไม่ลงมือควบคุมอะไร การปล่อยให้สิ่งต่างๆเป็นไปอย่างที่มันเป็นตามธรรมชาติ ไม่เข้าไปแทรกแซงเมื่อเกิดความกลัว เพื่อเรียนรู้จากพฤติกรรมของตัวว่าความมั่นใจและความรู้สึกต่อพลังอำนาจของตนในขณะที่ลงมือทำอย่างนี้ มันเป็นอย่างไรค่ะ 

หมายเลขบันทึก: 214020เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2008 15:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
  • อาจารย์ นายประจักษ์~natadee ค่ะ
  • หน้าที่อันยิ่งใหญ่ของผู้ใหญ่ คือ ฝึกฝนให้เจ้าตัวเล็กในตัวตนของคน ตื่นและมีชีวิตยืนยาวให้นานที่สุดค่ะ
  • เจ้าตัวเล็กนั้นคือผู้ที่ไม่มีซึ่งความกลัวอยู่ค่ะ
  • ........
  • น้องม่อนคือบทเรียนรู้ที่ดีในเรื่องเหล่านี้ด้วยค่ะ
  • ตามมาอ่านบันทึกดีๆจาก น้าอึ่งอ๊อบ 
  • เสียดายพรุ่งนี้ไม่ได้เจอคุณหมอแซ่เฮ
  • เพราะพรุ่งนี้ไป ลปรร  เรื่องสุขภาพกับเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าที่แม่ริมค่ะ
  • ไม่งั้นจะตามไปฟังบรรยายด้วยแน่นอน
  • เสียดายจัง
  • แต่จะตามดูบรรยากาศเจ้า
  • คุณ มนัญญา ค่ะ
  • หมอเจ๊ไปเชียงใหม่ไปเจอทีมงานหอสมุดและทีมงานน้าแห่งชาติมาแล้วค่ะ
  • เชียงใหม่งดงามแท้ค่ะ
  • จาวเจียงใหม่งามน้ำใจแต้เจ้า
  • หมอเจ๊เลยอิ่มใจกลับมาอย่างมีพลังค่ะ
  • ขอบคุณหลายๆค่ะ

สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊

  • เหนื่อยไหมคะ
  • มารอฟังเรื่องเล่า เห็นพี่หมอจดไว้เยอะเลยค่ะ แอบกดดันๆ
  • มาเยี่ยม
  • มาอ่าน
  • มาฟัง
  • มาคิดถึง
  • มา อิอิ
  • ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี ค่ะ
  • ตามอ่านนะน้อง จะเขียนให้อ่านแน่นอนค่ะ
  • ว่าแต่เปลี่ยนรูปจะสื่ออะไรค่ะ
  • รูปเดิมเหมือนตัวจริงมากกว่าค่ะ

สวัสดีครับหมอเจ๊แซ่เฮคนสวย ใช้ความกลัวเป็นครูก็เห็นด้วย

ว่าแต่ถนนสายนี้ผ่าน "ควนหมาตั้ง" หรือมั้ยครับ

  • บังหีมค่ะ
  • ถนนในกระบี่ที่มีชื่อ "ควนหมาตั้ง" มีค่ะ
  • เดี๋ยวนี้ถนนสายนี้เปลี่ยนแปลงไปมากเลยค่ะ
  • ถนนในภาพเป็นถนนระหว่างห้วยยอดกับตรังค่ะ

สวัสดีครับคุณหมอเจ๊

ควนหมาตั้งมีทีมา ของความตกลงกันไม่ได้ของคนสองหมู่บ้านที่แย่งกันตั้ชื่อ ต่างก็ต้องการใช่ชื่อที่คนของหมู่บ้านตัวเองเป็นคนตั้ง เถียงกันไป เถียงกันมา มีคนรำคาญทะลุกลางปล้องขึ้นว่า ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ให้"หมาตั้ง "เสียแล้ จึงใช้ควนหมาตั้งด้วยปรการะฉะน๊ (ถนนอยู่ช่วงก่อนถึงตัวเมืองกระบี่ครับ)

  • บังหีม ค่ะ
  • ดีจังที่ได้ยินเรื่องราวที่เล่าเก่าๆของกระบี่
  • ไม่ใคร่รู้ประวัติเลยค่ะ
  • เล่าให้ฟังอีกนะค่ะบังหีม
  • ถนนที่ว่านี่หนา วิ่งผ่านหน้าบ้านหมอเจ๊ด้วยค่ะ อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลได้ค่ะบัง
  • ขอบคุณค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท