เขียนเอาไว้เตือนตน : ...เราทำสำเร็จ...


 

วันนี้ค้นพบคำสอนที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยให้ไว้นานแล้ว
เกรงว่าจะทำหายอีกจึงนำมาบันทึกเอาไว้เตือนตนเอง ดังต่อไปนี้ครับ...

 

 

สร้างสรรค์แต่ไม่ครอบครอง

ทำงานแต่ไม่หวังชื่อเสียงเกียรติยศ

เสร็จกิจแล้วลืมมันเสีย ผลงานจะดำรงอยู่ตลอดกาล

การกระทำที่ไม่นึกถึงตน จึงบรรลุผลเต็มเปี่ยม

หลีกเลี่ยงการต่อสู้ ไม่ตำหนิติเตียน

ขาดแคลนดีกว่าได้มาอย่างเหลือล้น

แสวงหาความมั่งคั่งและยศฐาบันดาศักดิ์หายนะจะตามมา

เสร็จงานแล้ววางมือ รับเข้าไว้แต่ไม่เป็นเจ้าของ

ในการปกครองชั้นเยี่ยมผู้คนจะไม่รู้สึกตัวว่าถูกปกครอง

ในการปกครองชั้นดี ผู้คนจะชื่นชอบ

ในการปกครองชั้นต่ำ ผู้คนจะเกรงกลัว

ในการปกครองขั้นต่ำสุด ผู้คนจะชิงชัง

เมื่อการปกครองเป็นไปด้วยดี ผู้คนจะพูดกันเซ็งแซ่ว่า ...เราทำสำเร็จ...

 

หมายเลขบันทึก: 212792เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2008 00:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม 2014 13:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีครับ

        คล้ายๆ "เต๋า"  นะครับ

        เป็นหลักที่ใช้ในการทำงานได้ดีมากครับ

                           ขอบคุณครับ

โห เยี่ยม เลย ท่านอาจารย์

ชอบมาก  โดนใจมากค่ะ ขอบคุณค่ะ

อรุณสวัสดิ์ทุกท่านครับ

P

P

2. JJ

P

 

  • ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมแต่เช้าเลยครับ
  • เป็นคำสอนของ "เต๋า" ครับ
  • อ่านเมื่อไหร่ ก็จรรโลงใจเมื่อนั้น
  • แต่ก่อนอ่านอย่างไรก็ไม่เห็น พึ่งมาเห็นปีนี้เองครับ

 

 

มีแบบนี้สื่อบ่อยๆก็ดี อาจจะไปปลุกจิตสำนึกกันได้บ้าง ขอชมครับดีมากๆ

สวัสดีครับ 

P

 

  • บางที เราก็เพลินไปกับชีวิตและการงาน พอเจอกิเลสหนัก ๆ แล้วขาดหลักยึดเราก็เขว
  • ผมว่าคำสอนเต๋าบทนี้ เป็นเสมือนหลักในการดำเนินชีวิตและการงานที่ดีมาก ๆ ซึ่งต้องใช้ความเพียรเพื่อฝึกฝนและปฏิบัติให้ได้
  • ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ

 

 

จากที่ว่า อ่านรอบนี้แล้วเห็นต่างออกไปกว่าที่ผ่านมา หมายความว่าเช่นไร ขอถอดความเห็นออกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดังนี้ครับ

จากท่อนที่ว่า...

สร้างสรรค์แต่ไม่ครอบครอง

ทำงานแต่ไม่หวังชื่อเสียงเกียรติยศ

เสร็จกิจแล้วลืมมันเสีย ผลงานจะดำรงอยู่ตลอดกาล

การกระทำที่ไม่นึกถึงตน จึงบรรลุผลเต็มเปี่ยม

ผมเห็นว่า : เป็นธรรมะขั้นสูง ต้องลดอัตตา หรือตัวตนออกให้ได้ จึงจะทำได้ นั่นหมายความว่า ต้องมีภูมิธรรมพอสมควรจึงจะเชื่อและปฏิบัติได้

 

ขาดแคลนดีกว่าได้มาอย่างเหลือล้น

ผมเห็นใน 2 มุมมอง คือ

1. การมีอย่างเหลือล้น ก็ทำให้เราหลงไปในทางเสื่อม

2. การขาดแคลนนั้นเป็นทุกข์ ทุกข์สามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณาทุกขกิริยาได้เป็นอย่างดี

 

แสวงหาความมั่งคั่งและยศฐาบันดาศักดิ์หายนะจะตามมา

มีตายมันเริ่มมาตั้งแต่เกิด ไม่เกิดก็ไม่ตาย

ดวงตะวันขึ้นก็ต้องลง มียศก็ต้องมีเสื่อมยศตามมาแน่นอน

 

เสร็จงานแล้ววางมือ รับเข้าไว้แต่ไม่เป็นเจ้าของ

คนที่จะทำอย่างนี้ได้ต้องถอดตัวตนได้ก่อน ต้องมีสติ และปัญญายิ่ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท