การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1. เพื่อหาประสิทธิภาพของการสร้างและใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องพุทธประวัติชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องพุทธประวัติระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องพุทธประวัติ
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนที่เรียนบทเรียนสำเร็จรูปพระพุทธประวัติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้แก่โรงเรียนบ้านท่าไม้ จำนวน 10 คน โรงเรียนบ้านวังไม้แดง จำนวน 21 คนและ โรงเรียนบ้านวังชะโอน จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือชุดบทเรียนสำเร็จรูปในเรื่องพุทธประวัติชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ดำเนินการทดลองโดยใช้แบบทดสอบระหว่างเรียนและแบบทดสอบก่อนเรียนและทำการทดสอบหลังเรียน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูปเรื่องพุทธประวัติในการสอนเรื่องพุทธประวัตินักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านวังชะโอน ปีการศึกษา 2549 จำนวน 29 คนการทดลองหาประสิทธิภาพของผลลัพธ์ระหว่างกระบวนการเรียนการสอนทั้ง 6 ตอน ตามเกณฑ์ 80/80 โดยได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 81.66 และคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียน โดยได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 81.79
ประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูปพุทธประวัติในเรื่องพุทธประวัติ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านวังไม้แดง จำนวน 21 คน การทดลองใช้จริง ผลลัพธ์ระหว่างกระบวนการเรียนการสอนทั้ง 6 ตอน ตามเกณฑ์ 80/80 โดยได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 82.24 และคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียน โดยได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 83.42
6. ค่าความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูปเรื่องพุทธประวัติ
พบว่า อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.98
แลกเปลี่ยนเรียนรู้นะคะ ครูสอนพระพุทธ ด้วยกัน แต่ช่วงชั้น4 ขอดูตัวอย่างด้วยนะคะส่ง mail ก็ได้ จะได้นำไปดัดแปลงใช้บ้าง ทำไมนักเรียนจำนวนน้อยจังเลย
คงดูแลง่ายนะคะ