เรื่องที่ ๑๒ ขนนก
ทารกคนหนึ่งวิ่งถลาเข้ามาข้างใน แล้วตะโกนเสียงใส
“ดูสิ แม่จ๋า ว่าหนูพบอะไร”
ดวงตาของแกสุกสกาวด้วยรอยแย้มยิ้มสดใส กำไลแก้วสีแดงเล็ก ๆ สั่นกระทบกันดังกรุ๋งกริ้ง เมื่อมือน้อย ๆ ตบเข้าหากันอย่างร่าเริง แกโอบลำแขนไปรอบคอของแม่ แล้วร้องว่า
“ดูสิ แม่จ๋า ดูสิ ดูว่าหนูพบอะไร”
มันคือ ขนนกอ่อนนุ่ม แตะแต้มด้วยสีฟ้าใสและทองเรื่อเรือง สำหรับหูของเด็กเล็ก ๆ มันกระซิบเรื่องราวของฟากฟ้าและกลุ่มเมฆ มันเล่าถึงรวงรังอันอบอุ่น และลูกน้อยส่งเสียงร้องจี๊ด จี๊ด มันเล่าถึงความเปรมปรีต่ออรุณรุ่งและความหวังที่โบยบิน เด็กน้อยนั้นโบกขนนกนั้น ไล้ไปตามพวงแก้มและดวงตา แล้งร้องเสียงใสด้วยดวงใจอันกระตือรือร้นใคร่รู้ว่า
“ดูสิ แม่จ๋า ดูสิ ดูว่าหนูพบอะไร”
แม่จ้องดูมัน หัวเราะออกมาว่า
“คนดี สมบัติอะไรอย่างนี้ที่ลูกได้พบ” หล่อนกล่าว แล้วขว้างขนนกนั้นทิ้งไป พลางเร่งรีบกลับ ไปยังงานบ้านที่รออยู่
ทารกน้อยทิ้งตัวลงบนพื้น ประหนึ่งนกปีกหัก รอยยิ้มในดวงตาจางหายไปสิ้น ครู่ต่อมา แกลุกขึ้นพลางหยิบขนนกนั้นติดมือมาด้วย
แต่นั้นเป็นต้นมา ทุกสิ่งที่แกพบจะถูกเก็บงำซ่อนเร้นให้พ้นจากสายตาแม่
ระพินนาถฐากูร
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณ กานท์กวี
มาหานิทานไปฝากเด็ก ๆ ที่โรงเรียน
ขอขอบคุณ ค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะ