อยากเป็นเศรษฐีต้องหลีกหนี"หลุมดำ"

สวัสดีครับ....พบกันวันนี้ต้องเรียกว่าถ้าอยากเป็นเศรษฐีต้อง"หลีกหนีหลุมดำ"

      ในโลกนี้คงมีคนไม่มากนักที่ไม่อยากเป็นเศรษฐี เพราะความเป็นเศรษฐี หมายถึง การมีโอกาสได้ "กินอิ่ม นอนอุ่น" อย่างมีความสุข แต่แม้จะมีคนอยากเป็นเศรษฐีกันมากมายก็ใช่ว่าจะมีเศรษฐีเกิดขึ้นมาง่ายๆ ทุกวันทุกคืน
      ปราชญ์กล่าวว่า "ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ จักประดับด้วยดอกไม้ หอมหวนยวนจิตไซร้ไป่มี" ฉันใด เส้นทางเศรษฐีก็ฉันนั้น การที่ใครคนหนึ่งจะเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้ บางทีไม่ใช่แค่ความสามารถในการหาเงินเก่งแล้วก็เป็นได้ แท้ที่จริงสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการหาเงินก็คือการ "บริหารเงิน" และการรักษาเงินให้งอกงามเพิ่มขึ้นและอยู่กับเราอย่างยาวนานยั่งยืนต่างหาก
      พุทธศาสนาเสนอหลักการในการบริหารเงินและรักษาเงินเอาไว้หลายวิธี  วิธีหนึ่งก็คือ คนที่เป็นเศรษฐีอยู่แล้วรวมทั้งคนที่ใฝ่ฝันจะเป็นเศรษฐี จะต้องรู้จักหลีกเลี่ยง "หลุมดำ" ของความเป็นเศรษฐีให้ได้
      หลุมดำที่ว่านี้ ก็คือ สิ่งที่เรียกว่า "อบายมุข" หรือ "ประตูแห่งความเสื่อม" นั่นเอง
      ประตูแห่งความเสื่อมที่เปิดรอความวิบัติของบรรดาเศรษฐีให้กลายเป็นยาจก มี 6 ประตู ด้วยกัน

ประตูที่ 1 ติดสุราและของมึนเมา
      - ทรัพย์หมดไปเรื่อยๆ เห็นได้ชัด
      - ก่อการทะเลาะวิวาท
      - เป็นบ่อเกิดแห่งโรค
      - เสียเกียรติเสียชื่อเสียง
      - ทำให้ไม่รู้อาย
      - ทอนกำลังปัญญา

ประตูที่ 2 ชอบเท่ยวกลางคืน
      - ชื่อว่าไม่รักษาตัว
      - ชื่อว่าไม่รักษาลูกเมีย
      - ชือว่าไม่รักษาสมบัติ
      - เป็นที่ระแวงสงสัย
      - เป็นเป้าให้ใส่ความหรือข่าวลือ
      - เป็นทางมาของเรื่องเดือดร้อนเป็นอันมาก

ประตูที่ 3 ชอบเที่ยวดูการละเล่น
      - รำที่ไหนไปที่นั่น
      - ขับร้อง ดนตรี เสภา เพลง ลำตัด ฯลฯ ไปที่นั่น

ประตูที่ 4 ติดการพนัน
      - เมื่อชนะย่อมก่อเวร
      - เมื่อแพ้ก็เสียดายทรัพย์ที่เสียไป
      - ทรัพย์หมดไปๆ เห็นชัดๆ
      - เข้าที่ประชุมเขาไม่เชื่อถือถ้อยคำ
      - เป็นที่หมิ่นประมาทของเพื่อนฝุง
      - ไม่เป็นที่ประสงค์ของผู้ที่จะหาคู่ครองให้ลูกของเขา เพราะเห็นว่าจะเลี้ยงลูกเมียไม่ไหว

ประตูที่ 5 คบคนชั่ว
      - นักการพนัน
      - นักเลงหญิง
      - นักเลงเหล้า
      - นักลวงของปลอม นักหลอกลวง
      - นักเลงหัวไม้

ประตูที่ 6 เกียจคร้านการงาน
      -ไม่ทำการงานด้วยการอ้างว่า...หนาวนัก  ร้อนนัก  เย็นนัก  เช้านัก  หิวนัก  อิ่มนัก ฯลฯ

คัดจาก....หนังสือ "ธรรมาค้าขึ้น"  ของท่าน ว.วชิรเมธี

เห็นแล้ว..เป็นไงครับ..น่าจะลองดูไหม..อาจจะเป็นเศรษฐีกับเขาบ้าง....

วันนี้แค่นี้ก่อน...สวัสดีครับ..

[สุมนชาติ]

ทั้งหมดนี้เรียกว่าอบายมุข๖ ซึ่งผู้มุ่งหวังความเจริญควรหลีกเลี่ยงอันได้แก่ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตรและเกียจคร้านการทำงาน

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆนะครับ

สุมนชาติ แสงปัญญา

นายสัตวแพทย์ ๗ วช.